- 30 ม.ค. 2560
กระทรวงคนเข้าเมืองของแคนาดา ได้ให้ข้อมูลว่าทางรัฐบาลแคนาดา ได้ทำการเสนอให้ที่พักพิงแก่ผู้รับผลกระทบจากสหรัฐฯ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว นายอาห์เหม็ด ฮุสเซ็น รมว.กระทรวงคนเข้าเมืองของแคนาดา ได้ให้ข้อมูลว่าทางรัฐบาลแคนาดา ได้ทำการเสนอให้ที่พักพิงเป็นการชั่วคราวแก่ผู้ลี้ภัยและพลเมืองจากประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากการยกระดับมาตรการควบคุมพรมแดนของสหรัฐฯ ที่ระงับการออกวีซ่าเป็นเวลา 90 วันให้แก่พลเมืองจากอิรัก อิหร่าน ซีเรีย เยเมน ลิเบีย โซมาเลีย และซูดาน พร้อมทั้งระงับโครงการอนุมัติตั้งถิ่นฐานเป็นเวลา 120 วัน และห้ามผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเข้าประเทศอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษ โดยมีผลมาตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ยังคงนิ่งเงียบกับเรื่องมาตรการดังกล่าวของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากทางด้านแคนาดา นั้นมีสหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของประเทศ แต่เขาได้พูดถึงการให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว ว่าแคนาดายินดีต้อนรับผู้ลี้ภัย เหล่านั้น
เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งบริหาร งดรับผู้ลี้ภัยเข้าประเทศ และระงับการออกวีซ่าให้แก่พลเมือง 7 ประเทศ ที่เป็นประเทศมุสลิม ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา ที่ได้หาเสียงเอาไว้ ซึ่งทำให้นักสิทธิมนุษยชน นั้นออกมาวิจารณ์ การกระทำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างกว้างขวาง ซึ่งคำสั่งดังกล่าวนั้น นายโดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่าจะทให้ สหรัฐฯปลอดภัย จากการก่อการร้ายของพวกอิสลามหัวรุนแรง
คำสั่งดังกล่าว จะส่งผลให้โครงการรับผู้ลี้ภัยเข้ามาตั้งถิ่นฐานถูกระงับไว้อย่างน้อย 120 วัน โดยระหว่างนี้สหรัฐฯ จะต้องคิดหามาตรการคัดกรองผู้ลี้ภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อประกาศใช้ในอนาคต ซึ่งกฎเกณฑ์ ใหม่ ที่จะร่างขึันมานั้น จะช่วยยืนยันให้ผู้ลี้ภัยที่ถูกรับเข้ามานั้น ไม่สร้างผลกระทบต่อความมั่นคง และสวัสดิภาพของ สหรัฐอเมริก
จากคำสั่งดังกล่าว สถานทูตสหรัฐฯ จะงดออกวีซ่าให้แก่พลเมืองหรือผู้อพยพจาก 7 ประเทศมุสลิมเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งได้แก่ อิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน ส่วนผู้อพยพจาก ซีเรีย นั้นจะถูกระงับ การเข้าประเทศอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีคำสั่งจาก โดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม คำสั่งของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีข้อยกเว้นสำหรับนับถือศาสนาศาสนาอื่น ใน 7 ประเทศ ก็จะมีการผ่อนผันเป็นกรณีพิเศษ
ในขณะที่ 2-3 วันที่ผ่านมาเกิดความวุ่นวายขึ้นหลายส่วนจากคำสั่งดังกล่าว อาทิเช่นมีผู้ถูกควบคุมตัว 11 คน ในสนามบินจอห์น เอฟ เคนเนดี ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นเอง ก็มีนักเดินทางอีกจำนวนมากถูกกักตัวในลักษณะเดียวกันที่ แอตแลนตา ฮูสตัน และ ดีทรอยต์
ผู้อพยพ นักศึกษา และพนักงานที่ได้รับอนุมัติการเดินทางล่วงหน้าและถือวีซา หรือบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมายในสหรัฐฯ กรีนการ์ด ที่อัมสเตอร์ดัม แฟรงเฟิร์ต ไคโร และอีกหลายเมืองทั่วยุโรป รวมถึงตะวันออกกลาง และแอฟริกา ถูกห้ามขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไปยังสหรัฐฯ ตามคำสั่งล่าสุด ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งลงนามไป ห้ามประชากร จาก 7 ประเทศมุสลิม เดินทางเข้าสหรัฐฯ
ขณะที่มีประชาชน ไม่น้อยได้เดินทางไปประท้วงต่อต้านคำสั่งดังกล่าวที่สนามบินเจเอฟเค รวมถึงสนามบินใหญ่อีกอย่างน้อย 10 แห่งทั่วอเมริกา ซึ่งรวมถึง ดัลเลส แล็กซ์ ซานฟรานซิสโก เดนเวอร์ และ ฟิลาเดลเฟีย
ขณะที่สนามบิน มหาวิทยาลัย และบริษัทต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ เต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน โฆษกหญิงของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ แถลงยืนยันว่า ผู้ที่ถือกรีนการ์ดถูกแบนตามคำสั่งฝ่ายบริหารด้วยเช่นกัน
เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์