โหดเกินจะรับได้!! "ยูเอ็น" แฉ ทหารเมียนมา ฆ่าล้างชาติพันธุ์  ข่มขืนผู้หญิง แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น ด้านรัฐบาล "อ้าง" ไม่เคยเห็นรายงานเรื่องนี้

สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เปิดรายงานสรุปสถานการณ์ชาวโรฮิงญา ถูกกวาดล้างในพม่า และเป็นไปได้ที่ถูกสังหารนับร้อยราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กที่ถูกฆ่า

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน ว่า สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เปิดรายงานสรุปสถานการณ์ชาวโรฮิงญา ถูกกวาดล้างในพม่า และเป็นไปได้ที่ถูกสังหารนับร้อยราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กที่ถูกฆ่า และสตรีถูกข่มขืน เป็นจำนวนที่เข้าข่ายได้ว่าเป็นการฆ่าล้างชาติพันธุ์

รายงานชิ้นนี้ นักวิจัยของยูเอ็นให้วิธีสัมภาษณ์ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา จำนวน 204 คนในบังคลาเทศ เป็นส่วนหนึ่งของชาวบ้านในรัฐยะไข่ต่างอพยพหลบหนีจากบ้านเรือนกว่า 70,000 คน ช่วงวิกฤต 4 เดือนนับตั้งแต่เกิดเหตุกองกำลังติดอาวุธโจมตีเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2559 จากนั้นทหารจึงเริ่มปฏิบัติกระชับพื้นที่ ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐยะไข่

ทั้งนี้ ร้อยละ 47 ในกลุ่มโรฮิงญา ที่ให้สัมภาษณ์ต่างเล่าว่าครอบครัวของตนถูกสังหารระหว่างการปฏิบัติการของทหารเมียนมา และราวร้อยละ 43 รายงานว่าเคยถูกทารุณกรรมทางเพศ

รายงานระบุว่า ระหว่างการกวาดล้างของทางการ ทหารยิงใส่พลเรือนจากเฮลิคอปเตอร์ ขณะที่กองกำลังทหารอีกส่วนบุกตรวจบ้านเรือนแบบเคาะประตูบ้านหลังต่อหลัง จากนั้นยังจุดไฟเผาบ้านของชาวโรฮิงญา

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เผยชีวิต"โรฮิงญา"ลี้ภัยในบังกลาเทศเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์!! ขณะที่ UNCHR ชี้"พม่าเข้าข่ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ "

ผู้หญิงรายหนึ่งกล่าวต่อผู้สืบสวนสหประชาชาติถึงเหตุการณ์ที่ลูกชายวัย 8 เดือนของเธอถูกปาดคอ ส่วนพยานอีกคนหนึ่งถูกทหารข่มขืน และต้องเห็นลูกสาวอายุ 5 ขวบ ถูกฆ่าเพราะพยายามจะเข้ามาหยุดทหาร   เซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่ง
       

 ผู้สืบสวนสหประชาชาติ 4 คน ได้รวบรวมหลักฐานเมื่อเดือนก่อนจากเหยื่อชาวโรฮิงญา และผู้เห็นเหตุการณ์ 220 คน ที่หลบหนีพื้นที่ปิดล้อมในเมืองหม่องดอ รัฐยะไข่ มายังเมืองคอกซ์บาซาร์ ในบังกลาเทศ เกือบครึ่งหนึ่งระบุว่า สมาชิกครอบครัวถูกฆ่า หรือหายตัว ขณะที่ผู้หญิง 101 คน รายงานว่า ถูกข่มขืน หรือตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศ ผู้สืบสวนยังได้รวบรวมหลักฐานทั้งที่เป็นภาพถ่ายกระสุน และบาดแผลจากมีด รอยไหม้ และการบาดเจ็บที่เป็นผลจากการทำร้ายด้วยพานท้ายปืน หรือไม้ไผ่ ชะตากรรมของชาวโรฮิงญาไร้สัญชาติ ที่อยู่ในสภาพแบ่งแยกในรัฐยะไข่ ยังเป็นประเด็นความขัดแย้งยาวนานระหว่างบังกลาเทศและเมียนมา

 

โหดเกินจะรับได้!! "ยูเอ็น" แฉ ทหารเมียนมา ฆ่าล้างชาติพันธุ์  ข่มขืนผู้หญิง แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น ด้านรัฐบาล "อ้าง" ไม่เคยเห็นรายงานเรื่องนี้

เมียนมา ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ ที่นางอองซาน ซูจี เป็นผู้นำในทางพฤตินัย ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเกือบทั้งหมดของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัฐยะไข่ และระบุว่า การปราบปรามของทหารดำเนินตามกฎหมาย
       
       ในนครย่างกุ้ง โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีถิ่น จอ กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่เห็นรายงานในเรื่องนี้  ในขณะที่ปฏิเสธการเข้าถึงพื้นที่ขัดแย้งของผู้สังเกตการณ์ และผู้สื่อข่าวอิสระ เจ้าหน้าที่เมียนมา ได้กล่าวหาชาวโรฮิงญา และผู้ลี้ภัยบิดเบือนสร้างเรื่องราวการสังหาร การทำร้าย การข่มขืน และวางเพลิง ในความร่วมมือกับผู้ก่อความไม่สงบ ที่ทางการเมียนมา ระบุว่า เป็นผู้ก่อการร้ายโรฮิงญาที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องต่อกลุ่มหัวรุนแรงในต่างประเทศ
       
       ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องปฏิกิริยามุ่งมั่นเอาจริงเอาจังจากประชาคมโลก และกล่าวว่า พม่าต้องยอมรับความรับผิดชอบต่อการกระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อคนของตัวเอง   การโจมตีชาวโรฮิงญาดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง และเป็นระบบ แสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มว่าเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติอย่างมาก
       
ขณะที่ ทางการบังกลาเทศ ตัดสินใจที่จะย้ายชาวมุสลิมโรฮิงญาที่หลบหนีความรุนแรงในเมียนมา ไปยังเกาะในอ่าวเบงกอล ตามการเปิดเผยของรัฐมนตรีบังกลาเทศ ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่า เกาะดังกล่าวไม่สามารถอยู่อาศัยได้ แต่รัฐมนตรีระบุว่า การเคลื่อนย้ายเป็นแค่เพียงชั่วคราว และในท้ายที่สุดเมียนมาจะต้องรับโรฮิงญาเหล่านี้กลับประเทศ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ยูเอ็น และ ต่างชาติเริ่มวุ่นวาย!! ผู้แทนยูเอ็น ซัด กฎหมายเมียนมา ล้าหลัง ขวางช่วยโรฮิงญา ส่วน อังกฤษ มาเลเซีย ยื่นมือช่วยแก้ปัญหาโรฮิงญา

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์