ด้านกองทัพสหรัฐฯ ได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเรือดำน้ำเกาหลีเหนือ

การทดสอบเกิดขึ้นที่อู่จอดเรือ ชินโป เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งที่ 3 ของเดือน และครั้งที่ 4 ของปีนี้ ที่เกาหลีเหนือทดสอบส่วนประกอบของระบบยิงจรวดที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพในการยิงจรวดของเรือดำน้ำเกาหลีเหนือ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานก่อนหน้านี้ด้วยว่า เกาหลีเหนือส่งเรือดำน้ำไปลาดตระเวนในทะเลนอกชายฝั่งญี่ปุ่น

 

 

 

เรือดำน้ำ เกาหลีเหนือ เคลื่อนไหวผิดปกติ ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อ ปีหน้า ขีปนาวุธข้ามทวีปใช้งานได้จริง

 

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ว่าทางด้านกองทัพสหรัฐฯ ได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเรือดำน้ำเกาหลีเหนือ รวมทั้งหลักฐานการทดสอบการยิงจรวด หลังจากที่เกาหลีเหนือเพิ่งทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งที่สองไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยการทดสอบยิงจรวดเป็นการทดสอบระบบยิงเย็น โคลด์ ลอนช์ (Cold Launch) ที่การยิงจะใช้ก๊าซแรงดันสูงผลักลูกจรวดออกจากท่อก่อนที่จรวดจะติดเครื่องกลางอากาศ ซึ่งข้อดีของระบบนี้คือถ้าจรวดเกิดความผิดปกติก็จะไม่ระเบิดคาท่อบนเรือดำน้ำ



เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯกล่าวอีกว่า การทดสอบเกิดขึ้นที่อู่จอดเรือ ชินโป เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งที่ 3 ของเดือน และครั้งที่ 4 ของปีนี้ ที่เกาหลีเหนือทดสอบส่วนประกอบของระบบยิงจรวดที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพในการยิงจรวดของเรือดำน้ำเกาหลีเหนือ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานก่อนหน้านี้ด้วยว่า เกาหลีเหนือส่งเรือดำน้ำไปลาดตระเวนในทะเลนอกชายฝั่งญี่ปุ่น และเดินทางไปไกลกว่าครั้งไหนๆ โดยไปไกลราว 100 กิโลเมตร เข้าไปในน่านน้ำสากล นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติ

ขณะที่ก่อนหน้านั้นทางด้าน สหรัฐฯ ประกาศทดลองระบบต่อต้านขีปนาวุธของเกาหลีเหนือสำเร็จอย่างงดงามเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากเกาหลีเหนือประกาศว่า ประสบความสำเร็จทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ที่สามารถโจมตีสหรัฐฯ ได้ทั้งประเทศ


 

เรือดำน้ำ เกาหลีเหนือ เคลื่อนไหวผิดปกติ ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อ ปีหน้า ขีปนาวุธข้ามทวีปใช้งานได้จริง

 

การทดลองระบบป้องกันขีปนาวุธเกาหลีเหนือ (THAAD) นั้น ได้กำหนดไว้ก่อนหน้าที่เกาหลีเหนือจะทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปเมื่อ 4 กรกฎาคม แต่บังเอิญเกิดขึ้นสอดคล้องกันพอดี โดยสำนักงานป้องกันขีปนาวุธ (เอ็มดีเอ) เปิดเผยว่า ได้ทดลองระบบป้องกันขีปนาวุธ (THAAD) ด้วยการยิงเป้าหมาย ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางถึง 15 ครั้ง ผลออกมาสำเร็จงดงามทุกครั้งและข้อมูลที่ได้จากการทดลองครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบป้องกันขีปนาวุธมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการคุกคามได้อย่างเต็มที่

นอกจากทดลองระบบป้องกันขีปนาวุธแล้ว สหรัฐอเมริกาส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1บี จำนวน 2 ลำ จากฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ที่กวม เข้าไปบินวนเวียนเหนือคาบสมุทรเกาหลีเพื่อข่มขวัญเกาหลีเหนือไปในตัว โดยมีเครื่องบินรบญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ร่วมปฏิบัติการด้วย

เรือดำน้ำ เกาหลีเหนือ เคลื่อนไหวผิดปกติ ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อ ปีหน้า ขีปนาวุธข้ามทวีปใช้งานได้จริง

ขณะที่ทางด้านนางนิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ แถลงว่า สหรัฐฯ เลิกเจรจากับเกาหลีเหนือแล้ว เพราะไม่ใช่ปัญหาของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ซึ่งจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ก็จะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้อีกต่อไปแล้ว กับการทดลองยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ

ก่อนหน้านี้ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ประกาศว่า ขีปนาวุธข้ามทวีปที่ทดลองยิงไปเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมานั้น พิสูจน์ให้เห็นว่า พื้นที่ทั่วทั้งสหรัฐฯ อยู่ในพิสัยยิงของเกาหลีเหนือ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ขีปนาวุธดังกล่าวมีพิสัยยิงไกลถึงเมืองเดนเวอร์และชิคาโกของสหรัฐฯ

ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาทวีตข้อความว่า ผิดหวังจีนเป็นอย่างมาก ทั้งที่จีนได้ประโยชน์อย่างมหาศาลจากการค้ากับสหรัฐฯ แต่กลับไม่ทำอะไรเลยกับปัญหาเกาหลีเหนือที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญอยู่ และเขาจะไม่ยอมให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้อีกต่อไปแล้ว

 

 

เรือดำน้ำ เกาหลีเหนือ เคลื่อนไหวผิดปกติ ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อ ปีหน้า ขีปนาวุธข้ามทวีปใช้งานได้จริง



ด้านนักวิเคราะห์ ไมเคิล แอลล์แมน จากสถาบันระหว่างประเทศเพื่อยุทธศาสตร์ศึกษา ได้ทำการระบุว่า ดูเหมือนชิ้นส่วน “re-entry vehicle” ที่จะนำหัวรบกลับสู่ชั้นบรรยากาศโลกจะทำงานล้มเหลวในการทดสอบครั้งที่ 2 โดยเขาได้อ้างอิงจากคลิปวิดีโอ ที่มีการถ่ายจากเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห้นว่าวัตถุชิ้นหนึ่งแตกกระจายเหนือท้องฟ้าในตอนดึกของค่ำวันนั้น ที่ความสูงประมาณ 4-10 กิโลเมตร



เขายังบอกต่อว่าหากไม่มีระบบป้องกันที่ดีพอ หัวรบจะเผชิญกับความร้อนสูงขณะย้อนกลับสู่ชั้นบรรยากาศโลกจนเผาไหม้ไปหมด แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือนักวิทยาศาสตร์ของเกาหลีเหนือนั้นเรียนรู้ความผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว และหากพวกเขาปรับปรุงและทดสอบต่อเนื่อง การนำขีปนาวุธ ICBM ออกมาใช้จริงในปีต่อไป ก็มีความเป็นไปได้สูงอย่างยิ่ง