สมกับเป็นผู้นำเเห่งยุค!! เศรษฐกิจรัสเซียภายใต้ปูติน มีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้น 3 เท่า หนี้ต่างประเทศลดลง 75%

สมกับเป็นผู้นำเเห่งยุค!! เศรษฐกิจรัสเซียภายใต้ปูติน มีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้น 3 เท่า หนี้ต่างประเทศลดลง 75%

เศรษฐกิจรัสเซียภายใต้ปูติน คุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้น 3 เท่า หนี้ต่างประเทศลดลง 75%

ปูตินได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีรัสเซียเป็นครั้งแรกในปีพ. ศ. 2543 เศรษฐกิจของรัสเซียได้เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามรายงานโดยระบุเป็นตัวเลขดังนี้

คุณภาพชีวิต
ก่อนการเลือกตั้งรัสเซียมีสัดส่วน GDP ต่อหัวเท่ากับ 9,889 เหรียญต่อหุ้นตามอำนาจซื้อ (PPP) ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในปี 2560 และมีรายได้ถึง 27,900 ดอลลาร์ รัสเซียมี GDP สูงสุดต่อหัวของประเทศเพื่อนบ้าน BRICS ซึ่งมีจีนสูงสุดอันดับถัดไปมีเพียง 16,624 เหรียญเท่านั้น PPP คำนึงถึงค่าครองชีพที่สัมพันธ์กันและอัตราเงินเฟ้อของประเทศต่างๆเพื่อเปรียบเทียบมาตรฐานการครองชีพในประเทศต่างๆ

ค่าจ้างรายเดือนโดยเฉลี่ยได้เติบโตขึ้นเกือบ 11 เท่าจาก 61 เหรียญเป็น 652 เหรียญ 
การว่างงานลดลงจากร้อยละ 13 เป็นร้อยละ 5.2 
เงินบำนาญมีการเติบโตมากกว่า 1,000 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกันจาก 20 ถึง 221 ดอลลาร์


ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ
รัสเซียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของโลกโดย PPP โดยมี GDP 4 ล้านล้านดอลลาร์ PwC ได้คาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2593 ประเทศนี้จะกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปโดยใช้มาตรการนี้ทิ้งห่างประเทศเยอรมนีและสหราชอาณาจักร

ย้อนกลับไปในปีพ. ศ. 2542 เศรษฐกิจรัสเซียโดย PPP มีมูลค่าเพียง 620 พันล้านดอลลาร์ ดังนั้นในช่วง 18 ปีที่ผ่านมาผลผลิตทางเศรษฐกิจของรัสเซียเพิ่มขึ้น 600 เปอร์เซ็นต์

อัตราเงินเฟ้อลดลงจากร้อยละ 36.5 เป็นร้อยละ 2.5 ภายในสิ้นปี 2560 มูลค่ารวมของสินทรัพย์ของระบบธนาคารรัสเซียเพิ่มขึ้น 24 เท่าเป็น 1.43 ล้านล้านดอลลาร์ ทุนของตลาดหุ้นรัสเซียเติบโตขึ้นกว่า 15 เท่าเป็น 621 พันล้านดอลลาร์

 

สมกับเป็นผู้นำเเห่งยุค!! เศรษฐกิจรัสเซียภายใต้ปูติน มีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้น 3 เท่า หนี้ต่างประเทศลดลง 75%

 

 

หนี้สาธารณะและทุนสำรองระหว่างประเทศ
ขณะที่ปูตินได้รับเลือกตั้งในปีพ. ศ. 2543 รัสเซียมีเงินสำรองเพียง 12 พันล้านดอลลาร์พร้อมกับหนี้สาธารณะซึ่งเกือบเท่ากับผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ 92.1 เปอร์เซ็นต์

สิ่งต่างๆได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดใน 18 ปีเนื่องจากหนี้สาธารณะของรัสเซียลดลงเหลือ 17.4 เปอร์เซ็นต์ของ GDP และเงินสำรองมีเพิ่มขึ้นเป็น 356 พันล้านเหรียญ หนี้สินที่ลดลงและปริมาณสำรองที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ประเทศต่างๆที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจได้ในปี 2551 และภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงปี 2557-2559 ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและมาตรการคว่ำบาตรของประเทศตะวันตกลดลง


ธนาคารกลางแห่งรัสเซีย (CBR) ได้เพิ่มทองคำจำนวน 9.3 ตันในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาทำให้ยอดการถือครองรวมเป็นรายปีอยู่ที่ 1,838.211 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 76 พันล้านดอลลาร์ 

สภาทองคำโลกแสดงให้เห็นว่ารัสเซียเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดและเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก โดยธนาคารกลางซื้อเหมืองแร่ในประเทศผ่านธนาคารพาณิชย์

การเกษตร
ในขณะที่เศรษฐกิจของรัสเซียยังคงครองส่วนแบ่งรายได้จากน้ำมันและก๊าซอยู่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกษตรกรชาวรัสเซียที่ผลิตพืชผลที่ใหญ่ที่สุดในปีงบประมาณ 2560 โดยทำลายสถิติของสหภาพโซเวียตอายุ 40 ปีและเก็บเกี่ยวมากกว่า 130 ล้านตัน

ในปี 2016 รัสเซียกลายเป็นผู้นำด้านการส่งออกข้าวสาลีของโลก นับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 เป็นต้นมา ส่วนแบ่งของรัสเซียในตลาดข้าวสาลีโลกเพิ่มขึ้น 4 เท่าถึง 4 เท่า

แม้ว่าภาคการเกษตรยังตามหลังภาคพลังงาน แต่ก็มียอดขายอาวุธและกลายเป็นประเทศที่มีการส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2ของโลก

รัสเซียเริ่มส่งออกข้าวในปี 2545 โดยขายได้น้อยกว่า 7 ล้านตัน ในปี 2017 รัสเซียต้องการขาย 45 ล้านตัน เพื่อจะได้มีอัตราการเพิ่มขึ้นมากกว่า 600 เปอร์เซ็นต์

สมกับเป็นผู้นำเเห่งยุค!! เศรษฐกิจรัสเซียภายใต้ปูติน มีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้น 3 เท่า หนี้ต่างประเทศลดลง 75%