นักวิทยาศาสตร์ แทบไม่อยากเชื่อสายตา พบซากโบราณอายุกว่า 14,000 ปี

นักวิทยาศาสตร์ แทบไม่อยากเชื่อสายตา พบซากโบราณอายุกว่า 14,000 ปี

เมื่อวานที่ผ่านมา (18/08/2563) สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง CNN ได้รายงานการค้นพบอันน่าประหลาดใจของนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย ที่อยู่ระหว่างศึกษาซากสุนัขยุคน้ำแข็งอายุ 14,000 ปี โดยพบว่าอาหารมื้อสุดท้ายของมันเป็นแรดขนยาว และอาจตายลงไม่นานหลังกินเข้าไป

นักวิทยาศาสตร์ แทบไม่อยากเชื่อสายตา พบซากโบราณอายุกว่า 14,000 ปี

โดย ซากสุนัขตัวดังกล่าวถูกค้นพบที่ทุ่งน้ำแข็งทูมัต แคว้นไซบีเรีย ตั้งแต่ปี 2554 โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นสุนัข หรือหมาป่ากันแน่ ภายในกระเพาะอาหารของมันพบเนื้อเยื่อของสัตว์ที่คาดว่าเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของมัน มีลักษณะขนหนาสีทอง เดิมคาดว่าเป็นสิงโตถ้ำ

ต่อมาการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน พบว่ามาจากแรดขนยาวยุคน้ำแข็ง ยืนยันข้อมูลจากการทดสอบสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ

ด้าน ศาสตราจารย์เลิฟ ดาเล็น ผู้เชี่ยวชาญด้านวิวัฒนาการพันธุศาสตร์ จากศูนย์พันธุศาสตร์บรรพชีวิน ซึ่งอยู่ภายใต้ความร่วมมือของมหาวิทยาลัยสต็อกโฮล์ม กับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ กล่าวว่า ทางศูนย์นั้นมีข้อมูลพันธุกรรมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในยุคดังกล่าว จึงยืนยันได้ชัดเจน

แต่ผมไม่เคยเจอมาก่อนเลย การค้นพบซากสัตว์ในกระเพาะของซากสัตว์โบราณไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการนี้เท่าที่ผมทราบ และว่าซากของเจ้าหมาน้อยตัวนี้อายุราว 14,000 ปี ส่วนแรดขนยาวคาดว่าสูญพันธุ์ไปราว 14,400 ปีก่อน น่าจะสรุปได้ว่า เจ้าหมาน้อยตัวนี้ได้ลิ้มรสหนึ่งในแรดขนยาวตัวสุดท้ายบนโลกเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของมันก็ว่าได้ครับ

นอกจากนี้ ศ.ดาเล็น ระบุด้วยว่า ไม่ทราบว่าเจ้าหมาน้อยตัวนี้ไปกัดกินแรดขนยาวมาได้อย่างไรเพราะมวยคนละรุ่น แต่ที่แน่ๆ พบว่ามันตายไม่นานหลังจากกินเนื้อชิ้นนี้เข้าไป

มันคงตายไม่นานหลังกินเนื้อแรดเข้าไปครับ มันย่อยยากซะด้วย หรือถ้าจะให้เดาอีกก็อาจจะไปรุมกินลูกแรดขนยาวแล้วโดนแม่แรดมาเสยเอาก็เป็นได้ครับ

นักวิทยาศาสตร์ แทบไม่อยากเชื่อสายตา พบซากโบราณอายุกว่า 14,000 ปี

นักวิทยาศาสตร์ แทบไม่อยากเชื่อสายตา พบซากโบราณอายุกว่า 14,000 ปี

ขอบคุณภาพจาก edition.cnn.com