- 16 ธ.ค. 2568
ดร.เฟือง สกุณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลปะกัมพูชา กล่าวสาปแช่งประเทศไทย หลังจากทหารไทยสามารถยึดคืนปราสาทตาควายจากทหารกัมพูชาได้
วันที่ 15 ธันวาคม 2568 หลังจากที่กองทัพไทยได้ปฏิบัติการทางทหารและสามารถยึด ปราสาทตาควาย ซึ่งเคยถูกกองกำลังกัมพูชาใช้เป็นฐานที่มั่น และมีการปะทะอย่างหนักบริเวณแนวชายแดนมาแล้วหลายวันก่อนหน้านั้น ทหารไทยได้ควบคุมพื้นที่และปักธงชาติอย่างเป็นทางการส่งผลให้เกิดทั้งคำชื่นชมและการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งสองฝ่าย
ในงาน ระดมทุนเพื่อช่วยเหลือวีรบุรุษสงครามและผู้ลี้ภัย จากสถานการณ์ความรุนแรงริมชายแดนที่จัดขึ้นโดยชุมชนกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ดร. เฟือง สกุณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลปะของกัมพูชา ได้ให้กล่าวแสดงความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องการยึดปราสาทตาควายของไทยอย่างรุนแรง
รมว.เฟืองกล่าวว่า “ผู้ใดทำลายโบราณสถานซึ่งถือเป็นผลงานของเทพเจ้า จะต้องตกนรกหมกไหม้ 32 ชั้น ตราบจนถึงวันสิ้นสุริยันจันทรา” พร้อมทั้งกล่าวหวังว่าคำสาปแช่งนี้จะตกอยู่กับผู้ที่ทำลายวัดวาอารามซึ่งเป็นมรดกของชาติ พร้อมเสริมว่าเหตุการณ์นี้คืo “บทเรียนทางประวัติศาสตร์” ที่จะสอนลูกหลานของกัมพูชา และเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนร่วมใจสนับสนุนผู้นำสูงสุดของประเทศในยามวิกฤต
ในช่วงเดียวกัน มีการกล่าวถึงความเสียหายของโบราณสถานและการปะทะบริเวณบริเวณรอบปราสาทตาควาย รวมถึงการใช้อาวุธหนักและปฏิบัติการทางอากาศของกองทัพต่าง ๆ ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ทางไทยยืนยันว่าทหารได้ควบคุมปราสาทตาควายได้ 100% แล้ว แต่การสู้รบในพื้นที่โดยรอบยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความตึงเครียดบนชายแดนไทยและกัมพูชาที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2025 ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างสองประเทศเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนและโบราณสถานหลายแห่ง รวมถึงปราสาทตาควายที่มีสถานะเป็นจุดยุทธศาสตร์และแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกัน






