หนุ่มอกหัก ให้ช่อดอกไม้แฟนสาว แต่โดนปฏิเสธ ก่อนให้สาวแปลกหน้า ลงเอยสุดพีค

หนุ่มอกหัก ให้ช่อดอกไม้แฟนสาว แต่โดนปฏิเสธ ก่อนให้สาวแปลกหน้า ลงเอยสุดพีค ชาวเน็ตแห่ชื่นชม ประทับใจทั้งโซเชียล!

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดพีค เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า ชายหนุ่มชาวจีนรายหนึ่งตั้งใจมอบช่อดอกไม้ให้กับแฟนสาว แต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝัน หลังเขาเจอแฟนสาวปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เลยตัดสินใจมอบช่อดอกไม้ดังกล่าวให้กับสาวข้างทาง งานนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนตลอดกาล

 

โดยรายงานระบุว่า หนุ่มรายนี้ตั้งใจมอบช่อดอกไม้เซอร์ไพรส์แฟนสาวในวันวาเลนไทน์ แต่สุดท้ายกลับโดนปฏิเสธ จึงทำให้เขาต้องเดินคอตกออกมาอย่างเศร้าโศก ในขณะนั้นเองหญิงสาวคนหนึ่งได้ขับรถผ่านมาเจอพอดี เขาจึงตัดสินใจจอดรถแล้วเปิดกระจกลง ก่อนที่จะตะโกนบอกชายหนุ่มา "สุดหล่อ ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมรับ เอามาให้ฉัน" เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมามองหญิงสาวที่อยู่ในรถ ก่อนที่จะเดินถือช่อดอกไม้เดินตรงมาหาเธอ

 

หนุ่มอกหัก ให้ช่อดอกไม้แฟนสาว แต่โดนปฏิเสธ ก่อนให้สาวแปลกหน้า ลงเอยสุดพีค

 

หลังจากนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนของทั้งคู่ตลอดกาล เพราะน่าเซอร์ไพรส์มาก เมื่อทั้งสองได้สานสัมพันธ์กันอย่างบังเอิญราวกับบุพเพสันนิวาส ซึ่งฝ่ายหญิงเผยว่า เธอหย่าขาดกับอดีตสามีเมื่อ 6 ปีที่แล้ว และอาศัยอยู่กับลูกสาวตามลำพัง จนกระทั่งคืนวันวาเลนไทน์ปีนั้น เธอขับรถผ่านไปเจอเฝ่ายชายที่ดูเศร้ามาก เธอจึงอยากปลอบใจเขาด้วยการขอรับดอกไม้นั้นไว้แทน แต่ก็ไม่คาดคิดว่า หลังจากนั้นทั้งคู่จะได้ติดต่อและสานสัมพันธ์กันต่อ

 

หนุ่มอกหัก ให้ช่อดอกไม้แฟนสาว แต่โดนปฏิเสธ ก่อนให้สาวแปลกหน้า ลงเอยสุดพีค

 

ซึ่งหลังจากคุยไปสักระยะทั้งสองรู้สึกเข้ากันได้ จึงตัดสินใจคบหากัน หลังจากผ่านไป 1 ปี ทั้งสองก็วางแผนที่จะแต่งงานกัน จนกระทั่งในวันวาเลนไทน์ปีนี้ ทุกอย่างก็เป็นทางการ ทั้งคู่พากันไปจดทะเบียนสมรสกันและลงเอยด้วยการเป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์ ท้ังนี้ หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ได้มีชาวเน็ตแห่เข้ามาแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก หลายคนต่างรู้สึกดีใจและซาบซึ้งใจไปกับเรื่องราวความรักของทั้งสองคนที่ได้มาพบรักกันอย่างบังเอิญเช่นนี้

 

หนุ่มอกหัก ให้ช่อดอกไม้แฟนสาว แต่โดนปฏิเสธ ก่อนให้สาวแปลกหน้า ลงเอยสุดพีค

 

หนุ่มอกหัก ให้ช่อดอกไม้แฟนสาว แต่โดนปฏิเสธ ก่อนให้สาวแปลกหน้า ลงเอยสุดพีค

 

ชมคลิป

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainews