จับแล้ว อดีตสามีปลิดชีพนางแบบดัง เตรียมขึ้นเรือไปจีนหนีความผิด

จากกรณีข่าวสะเทือนขวัญ นางแบบดังถูกครอบครัวอดีตสามีปลิดชีพนำร่างไปซ่อนไว้ในบ้านเช่า ต่อมาตำรวจกับกุมครอบครัวอดีตสามีคือพ่อแม่และน้องชายของอดีตสามีเธอไว้ได้ ก่อนที่ล่าสุดจะสามารถตามจับอดีตสามีของเธอได้ขณะเตรียมหนีไปจีน

จากกรณีรายงานข่าว การฆาตกรรมจากฮ่องกง เมื่อ  แอบบี้ ชอย (Abby Choi) นางแบบสาวชื่อดังวัย 28 ปี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ก่อนตำรวจสืบหาจนพบเบาะแสนำไปสู่การจับกุมอดีตสามีและครอบครัวข้อหาฆาตกรรม

แอบบี้ ชอย (Abby Choi) นางแบบสาวชาวฮ่องกงและมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย เธอถูกอดีตสามีรวมกับพวกอุ้มตัวไปก่อนปลิดชีพและซ่อนร่างเอาไว้ในบ้านของอดีตสามีในสภาพชิ้นส่วนร่างกายถูกแยกจากกัน

แอบบี้ ชอย หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาาพันธ์ 2566 จากนั้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สืบจนไปพบร่างของเธอในบ้านของอดีตสามี ตอนแรกตำรวจพบขา 2 ข้างในตู้เย็น และ บัตรประจำตัวของ แอบบี้ บัตรเครดิต และ สิ่งของอื่น นอกจากนี้ยังพบเนื้อเยื่อมนุษย์ในหม้อซุป พร้อมพบอุปกรณ์ทั้งเลื่อย และเศษเนื้อบดกระจายอยู่ แต่ไม่พบชิ้นส่วนอื่นคือหัว ลำตัว และ มือ ซึ่งต้องสืบหาต่อไป

คืบหน้าล่าสุด ตำรวจรวบอดีตสามี นางแบบฮ่องกงชื่อดัง แอบบี้ ชอย ได้แล้ว โดยถูกรวบขณะกำลังจะขึ้นเรือหนีไปจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งหลังถูกจับกุม ตำรวจแถลงว่า คนบงการ วางแผนฆาตกรรมทั้งหมด คือพ่ออดีตสามีของเธอเอง ส่วนแรงจูงใจคือ แอบบี้ ซื้อบ้านให้พ่ออดีตสามีอยู่ ในนามพ่ออดีตสามี

แต่ทว่าต่อมาแอบบี้ต้องการขายบ้านหลังนี้ และรับปากว่า จะซื้อบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวอดีตสามีย้ายไปอยู่แต่อดีตพ่อสามีไม่พอใจ จึงวางแผนฆาตกรรมนี้ขึ้นมา โดยพ่ออดีตสามี เป็นอดีตตำรวจ ยศนายสิบ ซึ่งวางแผนฆ่านางแบบ เพราะหลังจากหย่าร้างกัน เธอก็ไปคบหากับสามีคนปัจจุบัน ที่ทำธุรกิจร่ำรวยเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน

พ่ออดีตสามี จึงวางแผนกับคนในครอบครัว ฆ่าอำพรางศพนางแบบสาว ก่อนที่จะจดทะเบียนเพื่อให้ทรัพยสินทั้งหมดตกเป็นของลูกของเธอที่เกิดกับสามีเก่า ที่จะเป็นผู้สืบสันดานตามกฏหมาย หากเธอเสียชีวิตขึ้นมากะทันหัน โดยยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีคนใหม่ แล้วอดีตสามีที่เป็นผู้ปกครองของลูกเธอก็จะได้มรดกของเธอมาครอบครองโดยปริยาย 

ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังตามหาชิ้นส่วนที่เหลือของแอบบี้ ชอย ส่วนที่ยังหาไม่เจอ คือ หัวและมือ กำลังงมน้ำหาชิ้นส่วนกันอยู่ และใช้สุนัขดมกลิ่นในการตามหาด้วย

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline