รู้ตัวแล้ว ที่แท้มหาเศรษฐีคนดัง เป็น 1 ในผู้สูญหาย เรือดำน้ำพาดูซากไททานิค

ยืนยัน 1 ในผู้สูญหายใน ไททัน เรือดำน้ำพาดูซากไททานิค ทริปแรกของปี เป็นมหาเศรษฐีคนดัง นักผจญภัยเจ้าของ 3 สถิติโลก

รู้ตัวแล้ว ที่แท้มหาเศรษฐีคนดัง เป็น 1 ในผู้สูญหาย เรือดำน้ำพาดูซากไททานิค : ความคืบหน้าล่าสุด เรือดำน้ำไททันสูญหาย หลังพานักท่องเที่ยวชมซากไททานิค (Titanic) หรือ เรืออาร์เอ็มเอส ไททานิค (RMS Titanic) ที่อยู่ลึกลงไป 3,800 เมตร ใต้ผิวมหาสมุทรแอตแลนติก แต่หลังปล่อยตัวได้เพียงแค่ 1 ชั่วโมง 45 นาที เรือลำดังกล่าวได้ขาดการติดต่อไป ทำให้ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต่างระดมกำลังค้นหาแข่งกับเวลา เนื่องจากอากาศในเรือมีแค่ 70 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับลูกเรือ 5 คน 

 

RMS Titanic

เกี่ยวกับเรื่องนี้มีการเปิดเผยยืนยันแล้วว่า 1 ในผู้สูญหายคือ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ผู้เป็นนักผจญภัยที่เป็นเจ้าของสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดถึง 3 รายการ คือลงเรือที่มีคนประจำการในระยะเวลานานที่สุด ที่ระดับความลึกสุดในมหาสมุทร , นักสำรวจมหาสมุทร Victor Vescovo ดำดิ่งลงสู่ความลึกต่ำสุดของร่องลึกบาดาลมาเรียนา และ ขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด New Shepard ของ Blue Origin 

 


ชายคนนะนก็คือ "ฮามิช ฮาร์ดิง" (Hamish Harding) มหาเศรษฐีชาวอังกฤษที่ยอมซื้อตั๋วราคาแพงมหาศาลเพื่อลงเรือดำน้ำไปสำรวจซากเรือไททานิค ซึ่งขณะนี้ทีมกู้ภัยหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ และแคนาดา อยู่ระหว่างการค้นหาเรือดำน้ำและคนบนเรือรวม 5 คน ที่ยังสูญหาย

Hamish Harding

โดยสำนักข่าว BBC รายงานว่า ฮามิช ฮาร์ดิง มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ เป็นคนแรกที่ถูกเปิดเผยชื่อออกมาว่าเป็นหนึ่งในผู้โดยสารเรือเรือดำน้ำ "ไททัน" (Titan) ของบริษัท "โอเชียนเกต" ที่ยังสูญหายหาไม่พบ ระหว่างที่เรือพานักท่องเที่ยวลงไปสำรวจซากเรือไททานิกที่อยู่บริเวณก้นทะเลลึก 3,800 เมตร กลางมหาสมุทรแอตแลนติก นอกชายฝั่งแคนาดา หลังจากครอบครัวนายฮาร์ดิง ออกมาระบุว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนเรือจริง

 


สำหรับ ฮาร์ดิง อายุ 58 ปี เป็นประธานบริษัทการบิน "แอคชัน เอวิเอชัน" (Action Aviation) เขายังมีชื่อเสียงจากการเป็นนักผจญภัยสำรวจที่เคยดำน้ำสำรวจ "มารีอานา เทรนช์" จุดที่ลึกที่สุดของโลกมาแล้วเมื่อปี 2564 และเคยบินสู่อวกาศกับจรวดนิวเชพเพิร์ด ของบลู ออริจิน เมื่อปี 2565 นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของสถิติโลก ของกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด 3 ประเภทด้วยกัน  

Hamish Harding

ตามรายงานระบุว่า เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ไบรอัน ซาสซ์ หลานชายของเขาโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า นายฮาร์ดิงหายไปกับเรือดำน้ำของบริษัทโอเชียนเกต และตอนนี้ทุกคนกำลังพุ่งเป้าไปที่ความพยายามทำทุกวิถีทางให้ทุกคนในเรือดำน้ำกลับมาอย่างปลอดภัย ทว่า ข้อความนี้ได้ถูกลบไป 


โดยตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮาร์ดิงเปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า เรือดำน้ำจะออกจากเมืองเซนต์จอห์น ในรัฐนิวฟันด์แลนด์ ของแคนาดา และจุดหมายปลายทางคือซากเรือสำราญไททานิก และการเดินทางลงสู่ใต้ทะเลจะเริ่มขึ้นในช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น และด้วยสภาพอากาศฤดูหนาวที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปีของแคนาดา ทำให้นี่เป็นการสำรวจซากไททานิกทริปแรกของปี 2566  

Hamish Harding

สำหรับความคืบหน้าการค้นหาเรือดำน้ำ "ไททัน" ที่สูญหาย สัญญาณขาดหายไปเมื่อกว่า 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ล่าสุดการค้นหายังคงดำเนินต่อไปแบบแข่งกับเวลา เพื่อช่วยชีวิต 5 คนบนเรือ โดย นาวาตรีเลน ฮิคคีย์ แห่งศูนย์ประสานงานกู้ภัยร่วม ในเมืองแฮลิแฟกซ์ ของแคนาดา เปิดเผยว่า เครื่องบินออโรร่า ของกองทัพ ตลอดจนเรือกู้ภัยทางทะเลของหน่วยยามฝั่งแคนาดา และหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ได้ร่วมปฏิบัติการค้นหาในครั้งนี้

 

เจ้าหน้าที่ยามฝั่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สัญญาณของเรือดำน้ำขาดหายไปเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากดำลงไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 45 นาที และการค้นหาตำแหน่งของเรือกำลังดำเนินไปอย่างเร่งด่วนแข่งกับเวลา เนื่องจากคาดว่าในเรือดำน้ำมีปริมาณออกซิเจนเหลืออยู่ได้ 70 ชั่วโมง

Hamish Harding

 

ทั้งนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ชาห์ซาดา ดาวูด (Shahzada Dawood) นักธุรกิจชาวปากีสถาน และ ซูเลมาน ดาวูด (Suleman Dawood) ลูกชายของเขา คืออีกสองคนที่อยู่บนเรือ ซึ่งครอบครัวของพวกเขาได้แถลงยืนยันแล้ว 

"เรารู้สึกขอบคุณมากสำหรับความห่วงใยจากเพื่อนร่วมงานและเพื่อน ๆ ของเรา และอยากจะขอให้ทุกคนอธิษฐานเพื่อความปลอดภัยของพวกเขา" ถ้อยแถลงของครอบครัวดาวูดระบุ


อย่างไรก็ตามสำหรับ บริษัทโอเชียนเกต ให้บริการนำเที่ยวตามโปรแกรม 8 วัน รวมไปถึงนั่งเรือดำน้ำขนาดเล็กประมาณรถบรรทุก ชมซากเรือไททานิกที่จมอยู่ใต้ทะเล ที่ระดับความลึก 3,800 เมตร นอกชายฝั่งห่างจากเมืองเซนต์ จอห์น รัฐนิวฟันด์แลนด์ ทางตะวันออกของแคนาดา ไปประมาณ 700 กิโลเมตร ด้วยสนนราคาคนละ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8.69 ล้านบาท

Hamish Harding

Hamish Harding

ภาพจาก OceanGate Expeditions และ Hamish Harding