พระพุทธะอิสระ เผย พระธรรมวินัยนี้สอนให้ฉันรู้จักแยกแยะ

ติดตามรายละเอียด www.tnews.co.th

พระพุทธะอิสระ เผย พระธรรมวินัยนี้สอนให้ฉันรู้จักแยกแยะ

 

พระพุทธะอิสระ เผย พระธรรมวินัยนี้สอนให้ฉันรู้จักแยกแยะ

พระพุทธะอิสระ เผย พระธรรมวินัยนี้สอนให้ฉันรู้จักแยกแยะ

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้โพสต์ผ่านเฟสบุคส่วนตัว โดยมีการระบุถึงประเด็นกรณีที่ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายไปขอขมาพระพยอม เมื่อวันศุกร์ ที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยข้อความในเฟสระบุว่า

พระธรรมวินัยนี้สอนให้ฉันรู้จักแยกแยะดีต่างกับชั่ว บุญต่างกับบาป กุศลต่างกับอกุศล

๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๙

ขอแสดงความดีใจกับหลวงพี่พยอมแกด้วยที่สาวกเจ้าลัทธิผู้ต้องปาราชิกเขาเมตตากรุณาถอนแจ้งความให้

ถือว่าความผิดพลาดครั้งนี้เอามาเป็นครูต่อไปเวลาวิพากษ์วิจารณ์ใครก็อย่าแค่เอามัน แต่ต้องมีข้อมูลชัดเจน เขาจะได้ไม่ย้อนศรเอาได้

ส่วนพวกที่ไปแจ้งความพุทธะอิสระโดยไม่มีข้อมูลความจริงก็ต้องถูกย้อนศรเช่นกัน

แต่พุทธะอิสระไม่ใช่หลวงพี่พยอมพุทธะอิสระชื่นชอบอยู่กับความสะอาด ความถูกต้อง และความโปร่งใส ซื่อตรง เปิดเผยด้วยเพราะพระธรรมวินัยนี้สอนพุทธะอิสระให้มีสติปัญญารู้จักแยกแยะดีมันต่างกับชั่ว บุญมันต่างกับบาป ถูกมันต่างกับผิด ซื่อตรงมันต่างกับการคดโกง ฉลาดมันต่างกับโง่ กุศลมันต่างกับอกุศล ความสะอาดมันต่างจากความสกปรก นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน

อีกทั้งพ่อแม่ปู่ย่าตายายของพุทธะอิสระก็พร่ำสอนอยู่ตลอดเวลาว่า “เกิดเป็นคนหากแยกแยะดีชั่วถูกผิดไม่ได้ ก็เสียชาติเกิด”เมื่อพุทธะอิสระถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างนี้มาตั้งแต่เล็กแต่น้อยเวลาพุทธะอิสระจะพูด จะทำ จะคิด ต้องชัดเจน ถูกต้อง พิสูจน์ได้ทุกครั้งด้วยเหตุผลเหล่านี้แหละ พุทธะอิสระจึงอยู่รอดมาได้ถึง ๒ ปี ในขณะที่ต่อสู้กับพวกอลัชชีรอบด้านเพราะพุทธะอิสระยืนหยัดยึดมั่นอยู่กับความจริงพุทธะอิสระได้ค้นพบว่า เมื่อใดที่เรามีความเห็นตรงถูกต้องตามความเป็นจริงจักทำให้เราแกล้วกล้า อาจหาญ มั่นคง และสามารถตั้งมั่นอยู่ในทุกสถานการณ์ได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ไม่หวั่นหวาด หรือสะดุ้งผวาต่อสิ่งเร้าเครื่องล่อใดๆ

ที่ผ่านมาหลวงพี่พะยอมท่านก็ทำดีที่สุดแล้วตามจริตของท่าน แต่ต้องยอมรับว่าท่านไม่ได้ต่อสู้กับเรื่องนี้มาแต่ต้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อนไม่ตรงต่อความจริงมากนัก แต่ที่จริงร้อยเปอร์เซ็นคือธัมมชโยมันอวดอุตริมนุสธรรมต้องอาบัติปาราชิกแล้ว เสียดายหน่อยเดียวว่า เมื่อหลวงพี่แกเมื่อมีโอกาสพบปะพูดคุยกับสาวกอลัชชีปาราชิกทั้งที มันน่าจะชี้ให้เห็นโทษเห็นภัยของคำสอนที่บิดเบือนจากแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ชี้ให้เขาเห็นวิถีที่ถูกต้องตามครรลองของอริยมรรคทั้ง ๘ ประการ ที่เริ่มต้นจากการทำความเห็นของตนให้ถูกต้องตามความเป็นจริง แล้วจบลงด้วยสมาธิชอบ คือความตั้งมั่น แห่งปัญญารู้ชัดตามความเป็นจริง เรียกว่าปัญญาเห็นชอบที่ตั้งมั่นดีแล้ว เช่นนี้จึงชื่อว่ามีสมาธิชอบ คนผู้มีมิจฉาทิฏฐิ สู้อุตส่าห์เข้ามากราบ หลวงพี่ดันไปพูดแต่เงินๆ ทองๆ ของสำนักเขา ช่างเป็นเรื่องเศร้าและเสียโอกาสของพระพุทธศาสนา หากหลวงพี่ไม่ไปห่วงเรื่องเงินของเขาแล้วยึดเอาหลักธรรมวินัยที่แท้จริงมาอบรมชี้แนะ น่าจะเป็นคุณูปการแก่พระธรรมวินัยยิ่งนัก แต่ไม่ว่ายังไงก็ขอแสดงความดีใจกับหลวงพี่แกด้วย ที่คู่กรณีทั้งสองต่างขอโทษขอโพยกันและกัน

ช่างน่าเอ็นดูนัก

พุทธะอิสระ