- 28 มิ.ย. 2559
ติดตามข่าวสาร ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
(28 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ศาลจังหวัดอุดรธานี นางอาภรณ์ สาราคำ นายกรวีร์ สาราคำ ภรรยาและลูกชายของนายขวัญชัย สาราคำ หรือขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ประธานชมรมคนเสื้อแดง 20 จังหวัด และนายปิ่น ทักษิณ ทนายความ พร้อมด้วยสมาชิกชมรมคนรักอุดร 7 คน เดินทางไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีแดงเลขที่ 2652/255 กรณี กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าทำร้ายมวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อุดรธานี ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี ช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์, นายรังษี ศุภชัยสาคร, นางธันยนันท์ จรัสจิรวงศ์, นายชนะศักดิ์ ผ่องเพลิดพริ้ง, นายแก้ว จันธิชู, น.ส.สุจิรา มีชั้นช่วง และนายรัตนชัย ทองสุข ได้ยื่นฟ้องนายขวัญชัย เป็นจำเลยที่ 1 โดยกล่าวหา “พยายามฆ่า ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันทำลายทรัพย์สิน” เหตุเกิดวันที่ 24 พฤษภาคม 2551 ที่สวนสาธารณหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี
โดยก่อนหน้าศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกนายขวัญชัย 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ปรับเงิน 3.5 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ตั้งแต่วันเกิดเหตุ นายขวัญชัยใช้หลักทรัพย์ประกันตัว 5 แสนบาททันที และให้ทนายความยื่นฎีกา แต่เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2559 นายขวัญชัย ไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ทำให้ศาลมีคำสั่งให้ออกหมายจับนายขวัญชัย และสั่งให้นายประกันไปติดตามตัวมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 มิ.ย.2559
หลังฟังคำพิพากษาวันนี้ นางอาภรณ์ นายกรวีร์ และทนายความ เดินออกมาจากห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ 4 โดยนายปิ่น ทักษิณ ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้ศาลได้นัดคำฟังพิพากษา โดยที่ออกหมายจับจำเลยไว้ เป็นการอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยตามขบวนการพิจารณา โดยไม่มีจำเลยมา คำพิพากษาโดยสรุปว่า จำเลยยังมีความผิดอยู่ ตามที่ฟ้อง แต่ว่าศาลฎีกาได้แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ในบางประเด็น เพื่อให้เหมาะกับความผิด
โดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำเลยจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา แต่ศาลฎีกาได้แก้คำพิพากษาเป็นจำคุกจำเลย 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และปรับนายประกัน 5 แสนบาท โดยการพิพากษาให้สมควรแก่โทษที่พิจารณามา ไม่ได้มีเหตุอื่น ศาลฎีกาพิจารณารอบคอบแล้ว พิพากษาตามที่ได้สืบกันมาว่าจำเลยมีความผิดในประเด็นใดบ้าง หนักเบาแค่ไหน ศาลฎีกาจึงได้พิพากษาตามที่พยานให้ความมา เห็นว่าทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ พิพากษาสูงเกินไป ส่วนที่จำเลยหลบหนี จะมีอายุความ 20 ปี คำพิพากษาก็ถือว่าปราณีเราอยู่พอสมควร”
ด้านนางอาภรณ์ บอกว่า หลังฟังคำตัดสินวันนี้ ถือว่าได้รับความเมตตาจากศาล ที่ลดโทษจำคุกเหลือแค่ 2 ปี จะพยายามติดต่อและแจ้งนายขวัญชัย ที่ได้รับโทษ 2 ปี หลังหลบหนีไม่ยอมมาฟังคำพิพากษา ก็ทราบว่านายขวัญชัยอยู่ในที่ปลอดภัย เพราะเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา วันคล้ายวันเกิดนายขวัญชัย ได้โทรศัพท์มาออกอากาศที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เมกกะเฮิร์ต ว่ายังอยู่สบาย ปลอดภัยดี ไปนั่งสมาธิ แต่ไม่ได้โชว์หมายเลข เมื่อโทรกลับไปก็ติดต่อไม่ได้ ไม่ทราบว่าโทรมาจากไหน โดยใช้เวลาคุยไม่นาน เพราะสัญญาณไม่ดี โดยตนคิดว่าช่วงนี้ถือว่า ยังไม่มีประชาธิปไตย ถ้ามีประชาธิปไตยเมื่อไหร่ คิดว่านายขวัญชัย จะกลับมารับโทษ ตนคิดว่าตอนนี้ยังไม่มีความยุติธรรม ที่นายขวัญชัยหนีไป ก็เพราะความปลอดภัยของตัวเอง เพราะเชื่อว่าไม่มีความปลอดภัย และถูกรังแกมากที่สุดดังกล่าว