หาก "ธัมมชโย" ยังแข็งขืนไม่ยอมมอบตัว...จับตารัฐบาลคสช.-ดีเอสไอ จะวางหมากอย่างไรต่อไป

หาก "ธัมมชโย" ยังแข็งขืนไม่ยอมมอบตัว...จับตารัฐบาลคสช.-ดีเอสไอ จะวางหมากอย่างไรต่อไป

ความคืบหน้าการเดินหน้าทำคดีของพระธัมมชโย ที่ล่าสุดดูเหมือนว่าในช่วงสัปดาห์นี้มีกระแสข่าวออกมาว่าพระธัมมชโยอาจติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องได้รับการประกันตัว ล่าสุดก็เป็น โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายที่ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวว่าไม่เป็นความจริงและพระธัมมชโย จะไม่มอบตัวเพราะต้องรักษาอาพาธอยู่ในวัด นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวถึงข่าวที่ระบุว่าตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เข้าพบพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอทราบขั้นตอนการมอบตัวของพระธัมมชโย โดยปฏิเสธว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากพระธัมมชโย ยังคงอาพาธอยู่ และคณะแพทย์ไม่อนุญาตให้ออกจากวัด
ส่วนเรื่องการใช้มาตรา 44 ในการจับตัวพระธัมมชโยนั้น ทราบมาว่าเป็นแค่การพิจารณา ยังไม่มีการบังคับใช้ ทั้งนี้ ยืนยันว่า กรณีที่อัยการนัดพิจารณาสำนวนคดีว่าจะดำเนินการรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ในวันดังกล่าวพระธัมมชโย จะไม่เข้ามอบตัวอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกันในวันนี้(8ก.ค.) มีความเคลื่อนไหวในการดำเนินการเพราะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้เดินทางไปหารือกับเจ้าอาวาสวัดเขียนเขตในฐานะที่เป็นเจ้าคณะจังหวัด ปทุมธานี อีกครั้งหนึ่ง หลังการหารือประเด็นการเข้ามอบตัวพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ระหว่าง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้บัญชาการ สำนักคดีภาษีอากร นายสมเกียรติ ธงศรี ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี

พระเทพรัตนสุธี เปิดเผยว่า วันนี้ดีเอสไอได้เข้ามาหารือในเรื่องข้อกฎหมาย แต่ไม่ได้มีการหารือในเรื่องการมอบตัว เพราะขณะนี้คดีอยู่ที่อัยการว่าจะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ ซึ่งพระธัมมชโยจะเข้ามอบตัวหรือไม่ให้รอถึงวันที่ 13 กรกฎาคมเช่นกัน ซึ่งตัวเองจะไม่เข้าไปก้าวก่าย แม้จะเป็นพระปกครองทางสงฆ์ก็ตาม เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับการดำเนินคดีของพระธัมมชโย ที่ไม่ใช่สงฆ์เป็นผู้ฟ้อง แต่ในใจก็มีทางออกอยู่แล้วหากพระธัมมชโยยังไม่เข้ามามอบตัว แต่ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ ส่วนที่พระธัมมชโยอยู่ในสถานะที่ต้องสละสมณเพศแล้วหรือไม่นั้น ในทางคดีหากยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาก็ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าคดีจะสิ้นสุด การที่จะบอกว่าพระธัมมชโยต้องอาบัติ ปาราชิกในตอนนี้ หากผลออกมาแล้วปรากฏว่าพระธัมมชโยไม่ผิด จะกลายเป็นว่าตัวเองไปกล่าวหาพระธัมมชโย ส่วนการประสานงานระหว่างวัดเขียนเขตกับวัดพระธรรมกาย ก็เป็นไปตามปกติในทางกิจของสงฆ์ที่ต้องแจ้งให้วัดรับทราบ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีการรู้จักกับพระธัมมชโยเป็นการส่วนตัว ดูเหมือนว่า การที่ เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการกับพระธัมมชโย จะเป็นไปด้วยความละมุนละม่อม  ระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ค้นหาจับกุม ธัมมชโย เหตุผลส่วนหนึ่งอาจเพราะกลัวว่าจะกระทบกระทั่งกับ ลูกศิษย์ธรรมกายจนกลายเป็นคดีความบานปลาย

แต่ท่าทีล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาที่ออกมา ระบุว่า อาจจะต้องใช้กฎหมายพิเศษบ้าง แต่ก็ต้องทำในสถานการณ์ที่ไม่ทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีปัญหาขณะนี้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนามีมากโดยเฉพาะเรื่องของพระธรรมชัยอยู่ที่ขณะนี้มีการเรียกร้องให้ใช้กฎหมายมาตราสี่สี่เข้าไปดำเนินการเพื่อให้เกิดความชัดเจนกับทุกๆฝ่าย ประยุทธ์กล่าวว่า"ผมไม่ใช้หรอกเพราะในความเป็นจริงกฎหมายมาตรา 44 ก็มีการใช้กันอยู่แล้วโดยเฉพาะการเข้าไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่ก็มีการดำเนินการกันอยู่แล้วคำว่าใช้มาตรา 44 ก็คือการใช้คำสั่งของ คสช. เดิมความจริงไม่ใช่มาตรา 44อะไร
ทั้งหมดก็เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเป็นเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายตามคำสั่งคสช.เพื่อให้สามารถเข้าไปดำเนินการได้ตามกฏหมายสามารถเข้าไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนได้ จากนั้นก็นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อไปต่อสู้ในทางคดีทุกคนก็ทำกันอยู่แล้วทำไมจะต้องมาใช้มาตรา 44 กันอีกกฎหมายมีบังคับใช้อยู่แล้วจะไปใช้กฎหมายซ้อนกฎหมายทำไม ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปสั่งเพิ่ม เมื่อถามว่าขั้นตอนต่อไปรัฐจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดความชัดเจนในความผิดที่เกิดขึ้นและไม่เกิดผลกระทบตามมา ประยุทธ์กล่าวว่าต่อไปมันอยู่ที่มนุษย์เพราะใจมนุษย์นั้นยากแท้ยังถึงมันอยู่ที่ความเชื่อความศรัทธาความถูกต้องตามกฎหมายแต่ทั้งหมดจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกันไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายตัวเดียวกันคือกฎหมายของประเทศ ในทุกๆ สถานะไม่ว่าจะเป็นคนหรือพระหรือข้าราชการ ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน ต้องเคลียร์ให้หมด ขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องด้วยเพราะเหนื่อยและลำบากมานาน ซึ่งถ้าผมใช้กฎหมายอย่างเดียวมันจบไปนานแล้วแต่ก็ต้องดูว่าถ้าใช้แล้วมันจะเกิดผลกระทบอะไรขึ้นบ้างต้องเห็นใจตรงนี้ด้วยประชาชนเขาเดือดร้อนคนเฒ่าคนแก่เยอะแยะ
ขณะเดียวกัน กับการที่ดีเอสไอ เรียกสอบปากคำพระใกล้ชิดกับพระธัมมชโยจำนวน 5 รูป ล่าสุดได้เลือนการสอบปากคำไปเป็นวันที่ 22 แทน

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เผยว่า ล่าสุดได้รับการประสานจากตัวแทนวัด พร้อมมีหนังสือแจ้งจากวัดพระธรรมกาย ว่า พระสงฆ์ทั้ง 5 รูป ประกอบด้วย พระทัตตชีโว พระถวัลย์ศักดิ์ พระมหาสมชาย พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ มุนิสโก และพระสุธรรม สุธรรมโม ที่ดีเอสไอ เรียกมาสอบปากคำ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับ หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รวมถึง มีหน้าที่ดูแลในการบริหารจัดการวัด ขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำ เป็นวันที่ 22 ก.ค. นี้แทน