จะให้ "พล.อ.ประยุทธ์" พูดว่าอะไรอีก ??? ยังตั้งสังฆราชไม่ได้ เพราะมีคดีรถเบนซ์หรู...หรือ "เจ้าคุณประสาร" อยากลอง !!!...(มีคลิป)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นกรณีที่มีผู้ร้องเรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตีความกฎหมายในมาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ โดยให้เริ่มต้นจากมหาเถรสมาคมว่า ไม่ได้ว่าอะไร อำนาจใครก็อำนาจใคร รู้ว่ามีหน้าที่อะไร มีหน้าที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย และจะทูลเกล้าฯ ถวายในสิ่งที่มีปัญหาได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็จบ

        

เมื่อถามว่าต้องรอคดีจบก่อนใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ต้องแสดง คิดไม่ออกเหรอ ว่าต้องรอกระบวนการเรียบร้อยก่อน ไม่กลัวว่าจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันหรืออย่างไร วันนี้มีกี่พวก อย่ามองบ้านเมืองในแง่ดีแง่เดียว มันมีพร้อมทุกเรื่อง

ขณะที่ล่าสุดพระเมธีธรรมาจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร” เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา แสดงความเห็นต่อกรณีที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ผลการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า มส.ได้ดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วนั้น ขณะที่ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเวลาถัดมาว่า จะยังไม่มีการเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะตามมติ มส. เพราะต้องให้คดีความจบสิ้นก่อน

11 กรกฎาคม 2559 เวลา 11.00 น.รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ได้แถลงผลการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า มส.ได้ดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วนั้น

 

ล่าสุด นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเวลาถัดมาว่า จะยังไม่มีการเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะตามมติ มส.เพราะต้องให้คดีความจบสิ้นก่อน

 

ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา พร้อมภาคีเครือข่ายได้เรียกประชุมเร่งด่วนและมีมติ ดังนี้

 

1.ขออนุโมทนาต่อจิตอันประกอบไปด้วยกุศลของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ให้ความกระจ่าง ตรงไปตรงมา ไม่มีการเมืองแอบแฝง เป็นที่พึ่งของสังคมได้ในภาวะที่กระบวนการยุติธรรมถูกมองด้วยความเคลือบแคลง สงสัย

 

2.ขอให้รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ได้เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะ ตามมติอันถูกต้องนั้นดำเนินการไปตามกระบวนการดังที่ควรจะเป็น

 

3.ขอให้รัฐบาลฟังความเห็นให้รอบด้าน รอบคอบ คำนึงถึงความสงบเรียบร้อยอันดีงามในหมู่สงฆ์และพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป

 

4.ขอให้กลุ่มบุคคลที่สร้างเรื่อง สร้างสถานการณ์เพื่อร้อยรัดข้อกฎหมายและเจตนาจะสร้างมลทินให้เกิดขึ้น ได้ตระหนักถึง บาป บุญ คุณโทษ กลับใจและเลิกปฏิบัติก่อเวรเสีย

 

5.องค์กรพุทธพร้อมภาคีเครือข่ายจะรอดูท่าทีทั้งหมดของผู้เกี่ยวข้องภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะกำหนดท่าทีร่วมกันในการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ทั่วประเทศ