ชัดเจนไหม..."ไม่ได้สร้างสถานการณ์" คำประกาศชัดจาก คสช.หากพบผู้บงการ โดน...!!!

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ก็ได้มีการกล่าวถึงกรณีมีการตรวจพบการทำจดหมายเชิญชวนให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ถือเป็นเจตนาไม่สุจริต อาจจะเป็นบุคคล หรือกลุ่มบุคคลไปส่งเอกสาร ที่ไม่ระบุชื่อผู้รับ แต่ระบุที่อยู่ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่กำลังเร่งตรวจสอบการจัดซื้อแสตมป์ ภาพที่ปรากฏที่มีบุคคลใช้ยานพานหานะไปส่งเอกสารทางตู้ไปรษณีย์ ในเบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งความว่าเอกสารดังกล่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า ตัดเบี้ยประกันผู้สูงอายุ การยกเลิก30 บาทรักษาทุกโรค และยกเลิกการเรียนฟรี ซึ่งตนคิดว่าเป็นเอกสารที่มีเจตนาบิดเบือนไม่ตรงความเป็นจริง หากตรวจพบว่าใครกระทำผิดก็จะผิด พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ

 

พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการรักษาความสงบในช่วงนี้ก่อนลงประชามติจะมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ดูแลอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีพื้นที่ใดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ แม้ว่าจะมีบางพื้นที่ที่ปรากฏภาพการส่งเอกสารที่บิดเบือนก็ตาม แต่ทางคสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ติดตาม และประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ทั้งนี้ย้ำว่าไม่มีพิเศษใดที่ต้องจับตามเป็นพิเศษที่จะนำไปสู่ความสับสน และสร้างความวุ่นวาย ส่วนการเผยแพร่เอกสารปลอมนั้นพบเพียงพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนพื้นที่อื่นยังไม่มี

 

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าที่มาของเอกสาร ผู้ดำเนินการ เส้นทางการสนับสนุนการจัดพิมพ์ และคนที่กระทำ คงมีความชัดเจนขึ้นจะมีการชี้แจงต่อไป

 

“จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่พบประชาชนเกี่ยวกับการทำประชามติ ในวันที่ 7 สิงหาคมประชาชนก็ยืนยันไปใช้สิทธิ์ตามกรอบกฎหมายที่กำหนด และห้วงเวลาที่เหลือจากนี้ไป 24 วันก่อนถึงประชามติภาพรวมของประเทศยังมีความสงบสุข แต่เราต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ส่วนสถานการณ์พิเศษยังไม่มี เพราะเจ้าหน้าที่มีการประสานงานกับส่วนราชการ ตำรวจ และภาคประชาชนในพื้นที่ เพื่อทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว

 

เมื่อถามต่อว่าได้รับรายงานว่ามีการใช้เงินให้ไปออกเสียงประชามติ หรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า “ยังไม่มี”

 

เมื่อถามถึงการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนใน การเดินทางไปลงประชามติ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า เป็นไปตามข้อกฎหมายที่ระบุไว้ ถ้าเป็นหน่วยงานราชการต้องมีหนังสือแจ้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งของจังหวัดของให้ทางหน่วยราชการสนับสนุนการเดินทางไปลงประชามติ ตนย้ำว่าเราทำตามกรอบกฎหมายอะไรที่ละเมิดกฎหมายไม่สามารถดำเนินการได้ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการใด หรือหน่วยงานทหารต้องระมัดระวังในเรื่องนี้

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีกระแสวิจารณ์ว่าการเผยแพร่เอกสารดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์ของทหาร หรือไม่ โฆษกคสช. กล่าวว่า “ ไม่มีเหตุผลใดที่ทหารต้องทำ เพราะไม่ได้ประโยชน์จากการทำ เพราะจะเสียความไว้ใจจากประชาชน ผมขอย้ำว่าเราเป็นผู้รักษากฎหมายจะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และไม่สุจริตโดยเด็ดขาด”

 

 

หายย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมาพล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (ผบ.มทบ.33) และ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสำนักงานไปรษณีย์จังหวัดเชียงใหม่ ตำบลสันป่าข่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลังรับแจ้งว่าพบผู้ไม่หวังดีทำการส่งไปรษณีย์ร่างรัฐธรรมนูญ (รธน.) ปลอมจำนวนกว่า 2,000 ฉบับ ไปยังบ้านเรือนประชาชน ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดในร่างกฎหมาย รธน.ฉบับปี 2559 เบื้องต้นได้ตรวจพบไปรษณีย์ที่เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญปลอม ถูกส่งต่อในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่พบในพื้นที่อำเภอสันกำแพงมากถึง 959 ฉบับ เบื้องต้นพบว่าเนื้อหาในเอกสารมีการเข้าข่ายบิดเบือนเนื้อหาของร่าง รธน. เกี่ยวกับการตัดสิทธิต่างๆ จึงทำการตรวจยึดและได้มีการส่งมอบให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นำเอกสารดังกล่าวไปตรวจสอบ หากพบว่าเข้าข่ายการกระทำผิดให้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และประสานเจ้าหน้าที่ในแต่ละอำเภอ ให้ติดป้ายไวนิลเพื่อประชาสัมพันธ์ไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อ พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน (อ่านข่าวเพิ่มเติม >>> http://headshot.tnews.co.th/contents/196128/ ป่วนได้อีก...เชียงใหม่เร่งตรวจสอบ เอกสารร่างรัฐธรรมนูญปลอม ถ้าเจอตัวการ โดนหนัก...!!!)