ดูชัดๆ!!รปภ.อ้างเป็นจ่าตึ้บโจ๋เจ็บปางตายโดนจับยังทำหน้าแบบนี้

ดูหน้ากันชัดๆรปภ.อ้างตัวเป็นทหารยศจ่าสิบเอก ทำร้ายร่างกายวัยรุ่นในที่นิคมอุตสาหกรรม จ.ชลบุรี บอกฉุนโดนด่าบุพการี

หลังจากที่มีคลิปเผยแพร่ในโลกโซเชียลเป็นเหตุการณ์ชายอ้างตัวเป็นทหารทำร้ายร่างกายผู้อื่นในที่สาธารณะนิคมอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

 

 

ดูชัดๆ!!รปภ.อ้างเป็นจ่าตึ้บโจ๋เจ็บปางตายโดนจับยังทำหน้าแบบนี้
 

ล่าสุด ตำรวจภูธรหนองขาม ติดตามจับกุมนายทิม ชำนาญกิจ อายุ 30 ปี  รปภ.ของสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์หนองขาม เป็นชายที่ปรากฎในคลิป แต่งกายคล้ายทหาร ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายบรรพต เยี่ยงกระโทก อายุ 18 ปี วัยรุ่นที่เดินทางมานั่งเล่นและเปิดเพลงจากในรถ อยู่ริมขอบสระสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ โดยมีประชาชนมุงดูกันเป็นจำนวนมาก โดยนายทิม ยังได้อ้างตัวเป็นทหารยศสิบเอก จนมีการถ่ายคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลงแพร่หลายในโซเชียล  และนายณัฐกุล กลั่นงิ้ว อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นรปภ.เช่นกัน

ตำรวจคุมตัวนายทิม ผู้ต้องหา มาสอบปากคำ และให้การรับสารภาพว่า เป็นชายคนเดียวกับในคลิป และเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยอ้างว่า นายบรรพต ผู้เสียหาย ด่าบุพการีของตนจึงเกิดบันดาลโทสะ หลังจากที่เข้าไปตักเตือนเรื่องเปิดเพลงเสียงดังในสวนฯ ขณะที่ผู้เสียหายเองปฏิเสธว่าไม่ได้ด่าตามที่นายทิมอ้าง

ขณะที่นายณัฐกุล รปภ.ของสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ เดินตรวจมาพบก็เข้าไปห้ามปราม นายทิม แต่นายทิมไม่เชื่อฟัง กลับทำร้ายร่างกาย รปภ.ด้วยกัน จนบาดเจ็บ ซึ่งมีประชาชนมามุงดูจำนวนมาก ซึ่งนายทีม ก็ตะโกนว่า เป็นทหารอย่ามายุ่ง ซึ่งก็มีประชาชนได้ถ่ายภาพเหตุการณ์ที่ รปภ.ทำร้ายร่างกายวัยรุ่น และรปภ.ด้วยกัน และส่งภาพเหตุการณ์ลงในโซเชียลกัน  ส่วนที่อ้างว่า เป็นทหารนั้นก็เพราะหลุดปากไป เพื่อให้คนมุงดูเกรงกลัวไม่กล้าเข้ามาช่วยคนที่ตนทำร้ายร่างกาย

 

ดูชัดๆ!!รปภ.อ้างเป็นจ่าตึ้บโจ๋เจ็บปางตายโดนจับยังทำหน้าแบบนี้

ดูชัดๆ!!รปภ.อ้างเป็นจ่าตึ้บโจ๋เจ็บปางตายโดนจับยังทำหน้าแบบนี้

 

 

 

 


ด้าน ร.ต.ท.อิศราพงษ์ สุวรรณจักร ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้ตั้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้น มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอดูใบรับรองแพทย์อีกครั้ง หากได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ต้องดำเนินคดี เพิ่มขึ้นต่อไป