ต้นเหตุมาจากศัลยกรรม...ร.พ. ยอมรับจากปาก เกิดอุบัติเหตุทางการแพทย์จริงและจะไม่ทำตามข้อเรียกร้องของ"พลอยณัชชา" เด็ดขาด (มีคลิป)

สืบเนื่องจาก น.ส.พลอยณัชชา หรือน้องพลอย ศิริภักดี จิรานนท์ อายุ 26 ปี พร้อมด้วยมารดา ทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ รพ.เลอลักษณ์ ย่านสะพานพระราม 5 และ นพ.กีรพรรดิ ภิรมย์ไกรภักดิ์ แพทย์ผู้

สืบเนื่องจาก น.ส.พลอยณัชชา หรือน้องพลอย ศิริภักดี จิรานนท์ อายุ 26 ปี พร้อมด้วยมารดา ทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ รพ.เลอลักษณ์ ย่านสะพานพระราม 5 และ นพ.กีรพรรดิ ภิรมย์ไกรภักดิ์ แพทย์ผู้ทำศัลยกรรมเสริมความงามในข้อหา "ประมาททำให้ได้รับอันตรายสาหัส" 

 

ขณะที่รพ.เลอลักษณ์ ถนนนครอินทร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี นางพิศพรรณ ศรีไชยยันต์ ผู้บริหาร รพ.เลอลักษณ์ น.ส.ฐิตาภรณ์ ปลอดโปร่ง เลขานุการ นายพอพล ตันสกุล ผจก.ฝ่ายการตลาด และ ดร.เกียรติศักดิ์ วรวิทย์รัตนกุล ทนายความ ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งทำให้โรงพยาบาลได้รับความเสียหาย โดยมีการเตรียมเอกสารหลักฐานและรูปถ่ายของ น.ส.พลอยณัชชา ทั้งก่อนและหลังทำศัลยกรรมมาให้ดู

 นางพิศพรรณ กล่าวว่า วันนี้ที่ต้องมาแถลงข่าวเพื่อจะขอความเป็นธรรมให้กับทาง รพ.เนื่องจากบางเรื่องที่ข่าวนำเสนอไปนั้นไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2556 น.ส.พลอยณัชชาได้เข้ามาติดต่อที่โรงพยาบาลเพื่อที่ขอทำศัลยกรรมความงามโดยการตัดกรามและตัดโหนกแก้ม แต่ว่าระหว่างทำการศัลยกรรมนั้นได้เกิดอุบัติเหตุทางการแพทย์ จนทำให้บริเวณริมฝีปากซ้ายจนถึงปลายคางเกิดแผลพุพองจากความร้อน

     ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ยอมรับผิดในเรื่องดังกล่าวที่เกิดจากอุบัติเหตุ และได้ทำศัลยกรรมตกแต่งให้กับ น.ส.พลอยณัชชา มาตลอดจนแทบจะเหมือนปกติ นอกจากนี้ยังได้ทำศัลยกรรมในเรื่องอื่น ๆ ที่น.ส.พลอยณัชชาต้องการอีกเป็นกรณีพิเศษ โดยไม่ได้คิดเงินอีกกว่า 5 แสนบาท เพื่อแสดงความรับผิดชอบ โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา น.ส.พลอยณัชชา ก็ไม่เคยแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่ามีอาการผิดปกติจากการทำศัลยกรรมจนทำให้ปากเบี้ยวแต่อย่างใด

 

   จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.พลอยณัชชา ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับนำเอกสารมายื่นกับทางโรงพยาบาล ว่าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางโรงพยาบาลเป็นจำนวนเงินถึง 11 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากเกินความเป็นจริงและไม่สมเหตุผล จึงไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องแต่อย่างใด

 

 กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา น.ส.พลอยณัชชาจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนขอยืนยันว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้ทอดทิ้งคนไข้แต่อย่างใด ส่วนในเรื่องของคดีความนั้นทางโรงพยาบาลก็พร้อมที่เข้าไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ น.ส.พลอยณัชชา ที่ทำให้โรงพยาบาลเสียชื่อเสียง ส่วนเรื่องของค่าเสียหายนั้นก็ขอให้เป็นหน้าที่ของทางกฎหมายเป็นฝ่ายตัดสิน ซึ่งทางโรงพยาบาลพร้อมจะปฏิบัติตาม