จริงจัง จริงใจ ไม่ไก่กา...ยั่งยืน!!!"หมอวรงค์" เชื่อมั่นนโยบายช่วยชาวนา แนะรัฐบาลเป็นพี่เลี้ยง "ข้าวไทย" จะก้าวไกล

จริงจัง จริงใจ ไม่ไก่กา...ยั่งยืน!!!"หมอวรงค์" เชื่อมั่นนโยบายช่วยชาวนา แนะรัฐบาลเป็นพี่เลี้ยง "ข้าวไทย" จะก้าวไกล

วันที่ 3 พ.ย. 2559 นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ถึงกรณีการช่วยเหลือชาวนา ในวิกฤตข้าวไทย ในช่วงนี้ โดยหมอรงค์เชื่อว่านโยบายรัฐบาลนั้น สามารถที่จะช่วยชาวนาได้ ถ้ารัฐบาลเป็นพี่เลี้ยงให้ และสานต่อนโยบายแบบยั่งยืนจริงๆ

โดยมีรายละเอียดดังนี้


ต้องยอมรับว่ากระแสสังคมที่จะช่วยซื้อข้าวสารที่ชาวนาผลิตแรงเกินคาดครับ ในฐานะที่ผมคลุกคลีและมีประสพการณ์กับแนวคิดนี้มานาน ผมอยากฝากข้อสังเกตไปยังรัฐบาล และพี่น้องทุกท่านดังนี้
1. เราควรต้องพุ่งเป้าการซื้อหลักไปที่สหกรณ์ หรือวิสาหกิจชุมชนที่สีข้าวสาร เพราะกลุ่มเหล่านี้จะได้ซื้อข้าวเปลือกในราคาที่เป็นธรรมจากชาวนา เป็นการดูดซับปริมาณข้าวเปลือกในตลาดให้ลดลง ที่สำคัญเมื่อสหกรณ์ หรือกลุ่มดำเนินกิจการแล้วมีกำไร ก็จะมีเงินปันผลกลับคืนสู่ชาวนาตามมาอีก ส่วนชาวนารายใดที่มีความเข้มแข็งทำของตนเอง ก็ไม่ควรไปห้าม
2. โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ในช่วงแรกกลุ่มเหล่านี้ยังทำตลาดไม่เก่ง รวมทั้งการบรรจุ เจ้าหน้าที่รัฐควรต้องลงไปดูแลช่วยเหลือ ยกเว้นถ้ามีประสพการณ์ และสามารถทำตลาดเองได้
3. ผมคิดว่าการทำตลาดช่วงแรก รัฐบาลไม่ควรปล่อยตามธรรมชาติ ปล่อยให้ทางกลุ่มต่างฝ่ายต่างทำ ต้องมีหน่วยงานกลางเป็นศูนย์กลาง และลงทะเบียนสหกรณ์และกลุ่ม จะได้รู้เป้าหมายกำลังผลิตภายในจังหวัดเช่น บรษัทประชารัฐหรือหน่วยงานอื่น เป็นหน่วยงานประสาน และจัดจำหน่ายช่วยกลุ่มที่ยังไม่เข้มแข็ง
4.การซื้อข้าวมาบริโภค เริ่มต้นควรสนับสนุนจังหวัดตนเอง จะซื้อตรงไปที่กลุ่มหรือผ่านประชารัฐของจังหวัด เช่น ค่ายทหาร โรงเรียน โรงพยาบาล รวมทั้งธุรกิจ ห้างร้านที่อยู่จังหวัดใด ก็ซื้อผลผลิตข้าวจังหวัดนั้น ตรงไปที่กลุ่มหรือผ่านบริษัทประชารัฐ ส่วนจังหวัดที่ไม่มีการทำนา สีข้าว สามารถเลือกสนับสนุนโดยตรงไปที่สหกรณ์ กลุ่ม หรือผ่านประชารัฐจังหวัดอื่นๆ
5.หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องกำกับตรวจสอบคุณภาพ และการแปลกปลอม อ้างเป็นชาวนา ไปซื้อข้าวสารจากโรงสีมาบรรจุถุงขายในนามชาวนา อย่างนี้ถือว่าหลอกลวง หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องจริงจังในเรื่องนี้
6.ที่สำคัญกระทรวงมหาดไทยต้องมีนโยบายชัดเจนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำต่างๆสนับสนุนให้ประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน ซื้อข้าวสารที่ผลิตในหมู่บ้านตนเองหรือข้างเคียง ไม่ใช่ไปซื้อข้าวถุงตามห้าง เพราะคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านเป็นชาวนา
7.นอกจากรัฐบาลจะมีนโยบายให้ส่วนราชการที่ใช้ข้าว ซื้อข้าวสารที่ผลิตโดยกลุ่มชาวนาแล้ว ข้าวที่เลี้ยงในการประชุมครม. สนช.และสปท. ควรจะเป็นข้าวสารจากกลุ่มชาวนาเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้ ควรขึ้นป้ายให้ทราบด้วยว่าแต่ละมื้อรับประทานข้าวจากสหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจใด อำเภอใด จังหวัดใด และหมุนเวียนกันไป เพราะสังคมไทยยังตามกระแสผู้นำ
8.ถ้าทุกอย่างเข้าระบบ เสนอให้รัฐบาลจัดการประกวดข้าวที่อร่อย ในแต่ละพื้นที่ และค่อยประกวดระดับภาค ระดับประเทศ คล้ายตอนประชุมเวิลด์ไรซ์คอนเฟอเรนซ์ (World Rice Conferrence) จะได้มีการพัฒนาต่อยอดของชาวนา และสร้างมูลค่าเพิ่ม
ผมเชื่อว่าการที่ช่วยกันสนับสนุนซื้อข้าวสารจากกลุ่มชาวนา จะช่วยสอนให้กลุ่มชาวนาทำธุรกิจ รู้จักคิดและวางแผน ที่สำคัญรัฐบาลต้องเป็นพี่เลี้ยงและควบคุมคุณภาพ ปรากฏการณ์นี้ ถ้าทำจริงจังและต่อเนื่อง จะไม่จบเพียงแค่นี้ จะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ จากภูมิปัญญาพื้นบ้านเกิดขึ้นตามมา ขอเพียงแต่รัฐบาลต้องเอาจริงแบบยั่งยืนกับแนวทางนี้เท่านั้นเอง

จริงจัง จริงใจ ไม่ไก่กา...ยั่งยืน!!!"หมอวรงค์" เชื่อมั่นนโยบายช่วยชาวนา แนะรัฐบาลเป็นพี่เลี้ยง "ข้าวไทย" จะก้าวไกล จริงจัง จริงใจ ไม่ไก่กา...ยั่งยืน!!!"หมอวรงค์" เชื่อมั่นนโยบายช่วยชาวนา แนะรัฐบาลเป็นพี่เลี้ยง "ข้าวไทย" จะก้าวไกล จริงจัง จริงใจ ไม่ไก่กา...ยั่งยืน!!!"หมอวรงค์" เชื่อมั่นนโยบายช่วยชาวนา แนะรัฐบาลเป็นพี่เลี้ยง "ข้าวไทย" จะก้าวไกล

เรียบเรียง ภัทราพร วโรภาสพิมาน สำนักข่าวทีนิวส์

ที่มา เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom