อสม.แนะเจ้าของ"สุนัข แมว"พาไปฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแพร่ระบาด สังเกตุพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด!!! (รายละเอียด)

อสม.แนะเจ้าของ"สุนัข แมว"พาไปฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแพร่ระบาด สังเกตุพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด

วันที่ 6 พ.ย.59 นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข  เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงที่สุนัขติดสัด จึงมีโอกาสเสี่ยงเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแพร่ระบาดในกลุ่มของสุนัข และคนมีโอกาสติดเชื้อหากถูกสุนัขที่มีเชื้อกัด สบส.ได้ประสานประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในระดับประเทศ ภาค เขต จังหวัด และอำเภอ  เฝ้าระวังสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ในชุมชนที่เสี่ยงเป็นโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมทั้งให้ความรู้ประชาชนให้นำสัตว์เลี้ยงในบ้าน ได้แก่ สุนัข แมว ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดยสามารถฉีดในลูกสุนัขอายุตั้งแต่ 2-3 เดือนขึ้นไป และต้องฉีดทุกปี

โดยทางด้าน นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า สังคมไทยตอนนี้ มีคนโสด และมีผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวมากขึ้น และนิยมเลี้ยงสุนัขหรือแมวเป็นเพื่อน ทั้งนี้ ต้องนำสัตว์ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคทุกปี แม้ว่าจะไม่ได้ปล่อยไปไหนก็ตาม ย้ำว่าเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าที่อยู่ในน้ำลายของสัตว์สามารถเข้าสู่ร่างกายคนทางบาดแผล รอยถลอก รอยขีดข่วน ริมฝีปาก หรือนัยน์ตาได้

สพญ.เสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย นายสัตวแพทย์เชี่ยวชาญ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า โดยทั่วไปสัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าจะมีลักษณะเด่นที่สังเกตได้ง่าย ดังนี้ ลิ้นห้อย น้ำลายไหล หางตก แววตาน่ากลัว เดินโซเซ ทรงตัวไม่ได้ โดยมีอาการแสดงให้เห็น 2 แบบ คือ แบบดุร้าย สัตว์จะหงุดหงิด ไล่กัดคนและสัตว์อื่น หรือกัดโซ่-กรงหากกักขัง และแบบเซื่องซึม จะมีอาการป่วยเหมือนสัตว์สัตว์เป็นโรคอื่น ทำให้สังเกตได้ยาก มักหลบไปนอนในที่เงียบๆ ไม่แสดงอาการดุร้าย จะกัดคนหรือสัตว์เมื่อถูกรบกวน

 

เรียบเรียงโดย อัจฉรา สภาพการ สำนักข่าวทีนิวส์