"คนกรุงเห่อดราม่ากราบรถ...อย่าลืมชาวนากำลังน้ำตาไหล" ฝนถล่มหนักช่วงกำลังเก็บเกี่ยว ต้นข้าวกำลังจมน้ำ ชาวนาอุทัยฯโอด"เหมือนทำนาให้คนอื่นกิน"(

"คนกรุงเห่อดราม่ากราบรถ...อย่าลืมชาวนากำลังน้ำตาไหล" ฝนถล่มหนักช่วงกำลังเก็บเกี่ยว ต้นข้าวกำลังจมน้ำ ชาวนาอุทัยฯโอด"เหมือนทำนาให้คนอื่นกิน"(รายละเอียด)

9พ.ย.59 ณ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าวในพื้นที่ยังคงเริ่มทยอยกันเก็บเกี่ยวผลผลิตของตนเองกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังคงเป็นช่วงที่ชาวนานั้นยังคงประสบกับปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำ หรือมีราคาที่ขายข้าวได้พอกับราคาต้นทุนที่ลงไป ประกอบกับช่วงที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้ข้าวที่ใกล้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวได้นั้นล้มราบลงเป็นวงกว้าง ซึ่งจะยิ่งทำให้ราคาข้าวนั้นถูกลงไปอีกเนื่องจากเมล็ดข้าวดำหากจมน้ำเป็นเวลานานและความชื้นของข้าวที่สูงขึ้น เช่น ที่บริเวณกลางทุ่งนา บ้านยางครึ่งเส้น หมู่ 4 ตำบลหนองกลางดง อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ชาวนายังคงเดินดูพื้นที่นาข้าวของตนเองที่ใกล้ได้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวเพื่อสำรวจความเสียหายของต้นข้าวที่ล้มราบลงเป็นแนวยาว

นายสุวัฒน์ แก้วเกษ อายุ 57 ปี ชาวนาหมู่ 4 ต.หนองกลางดง อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เล่าว่า ในช่วงใกล้หมดฤดูฝนหรือเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ได้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน ทำให้นาข้าวของตน และเกษตรกรโดยรอบนับ 100 ไร่ ต้องประสบปัญหาต้นข้าวล้มจมน้ำจำนวนมาก ได้รับความเสียหายและยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ในตอนนี้ เพราะต้นข้าวที่จมในน้ำรถจะเก็บเกี่ยวได้ยาก ต้องทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่นาข้าวก่อน และยังต้องต่อคิวรถเกี่ยวข้าวเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวทำให้ต้องใช้เวลารอตามคิวที่จองได้  

และปัจจุบันนี้ต้นทุนการเก็บเกี่ยวก็มีเพิ่มมากขึ้น หากจ้างคนเกี่ยวข้าวนั้น ต้องจ่ายค่าจ้างวันละ 300 บาท ทำให้ค่าใช้จ่ายในการทำนาเพิ่มขึ้นอีก หนำซ้ำในตอนนี้ราคาข้าวเปลือกก็ตกต่ำเป็นอย่างมาก  เพียงราคาตันละ 5,000-6,000 บาทเท่านั้นและหากยิ่งเป็นข้าวที่เปียกน้ำก็จะมีความชื้นสูง ทำให้ยิ่งราคาต่ำลงไปอีก ทำให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนเพราะขายข้าวได้ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนทำนา ซ้ำส่วนใหญ่ก็เป็นหนี้กับธนาคาร ธ.ก.ส. และร้านขายข้าวปลูก ขายปุ๋ย ยา กันทั้งนั้น ก็เหมือนกับว่าทำนาให้คนอื่นกิน
 
โดย จิรศักดิ์ สำนักข่าวทีนิวส์
ข้อมูลจาก matichon