แบบนี้ต้องปิด!!! "บิ๊กป้อม"ลั่น ปิดสำนักงาน"BBC THAI"ได้ถ้ามีความผิด แม้สำนักงานใหญ่อยู่ลอนดอน!!(รายละเอียด)

แบบนี้ต้องปิด!!! "บิ๊กป้อม"ลั่น ปิดสำนักงาน"BBC THAI"ได้ถ้ามีความผิด แม้สำนักงานใหญ่อยู่ลอนดอน!!(รายละเอียด)

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม  รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับส่งตำรวจ ตรวจสอบ สำนักงาน BBC ไทย ถือเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนจะสั่งปิดสำนักงานในไทยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ ดูที่ความผิด
ถึงแม้ว่าสำนักงานใหญ่จะอยู่ในลอนดอน อย่างไรก็ตามมีสำนักงานในไทย เอาผิดได้ ก็เพื่อนๆ นักข่าว ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่หรือ

แบบนี้ต้องปิด!!! \"บิ๊กป้อม\"ลั่น ปิดสำนักงาน\"BBC THAI\"ได้ถ้ามีความผิด แม้สำนักงานใหญ่อยู่ลอนดอน!!(รายละเอียด)

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางเว็บ บีบีซีไทยและเฟสบุ๊กนั้นได้มีการเผยแพร่พระราชประวัติที่เป็นเท็จและจาบจ้วงล้วงสภาบันอย่างหนักและมีคนเข้ามากดไลค์ กดแชร์

หนึ่งในนั้นก็คือนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ที่ได้มีการแชร์ข่าวของบีบีซีเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมาก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในข้อหาความผิดตามมาตรา 112 จากการแชร์ข้อความที่หมิ่นสถาบันเบื้องสูง พร้อมพร้อมคัดลอกข้อความบางส่วนมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว

แบบนี้ต้องปิด!!! \"บิ๊กป้อม\"ลั่น ปิดสำนักงาน\"BBC THAI\"ได้ถ้ามีความผิด แม้สำนักงานใหญ่อยู่ลอนดอน!!(รายละเอียด)


หลังจากที่ พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี รองหัวหน้ากองยุทธการ มณฑลทหารบกที่ 23 ขอนแก่น ได้เข้าแจ้งความต่อสภ.เมืองขอนแก่นเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา และตำรวจขอศาลออกหมายจับ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปยัง สภ.แก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ

ล่าสุดนั้นทางศาลก็ได้อนุญาตให้ทางทนายความประกันตัวเป็นที่เรียบร้อยและในประเด็นของการที่บีบีซีนั้นได้เขียนบทความ พระราชประวัติที่บิเบือนความเป็นจริงนั้นถือว่าเป็นการสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

 

แบบนี้ต้องปิด!!! \"บิ๊กป้อม\"ลั่น ปิดสำนักงาน\"BBC THAI\"ได้ถ้ามีความผิด แม้สำนักงานใหญ่อยู่ลอนดอน!!(รายละเอียด)

แบบนี้ต้องปิด!!! \"บิ๊กป้อม\"ลั่น ปิดสำนักงาน\"BBC THAI\"ได้ถ้ามีความผิด แม้สำนักงานใหญ่อยู่ลอนดอน!!(รายละเอียด)

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่สำนักข่าวบีบีซีไทย นำเสนอรายงานที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ จนนำไปสู่การจับกุมนายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ที่แชร์รายงานดังกล่าวในเฟซบุ๊ก ว่า

อะไรที่ทำผิดกฎหมายหรือสร้างความเสียหายก็ต้องถูกดำเนินการทั้งหมด เคยบอกเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าต้องทำตามกฎหมาย ไม่มีปล่อยไว้และไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ในภาพรวมมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายไปดำเนินการกับเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว เพราะมีทั้งข่าวจริงและไม่จริง
ซึ่งถ้าเราลองย้อนมองการเผยแพร่ข่าวสารของทาง BBC  ไทย  ถือเป็นสื่อต่างชาติที่อ้างความเป็นไทยเข้าไปเกี่ยวโยงให้เกิดความรู้สึกร่วม  แต่โดยข้อเท็จจริงโดยพฤติการณ์ของ BBC  ไทย  ยังคงมีคำถามมากมายว่าเป็นสื่อที่มีแนวทางเพื่อสร้างสรรค์หรือทำลายประเทศไทยกันแน่
อย่างไรก็ตามการกลับมาอีกครั้งของของ  BBC    ไทยครั้งนี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษ   เพราะเป็นการฟื้นคืนชีพในยุคประเทศไทย  และ คสช.  กำลังถูกชาติตะวันตกหยิบยกเรื่องประชาธิปไตยมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตี  และกดดันในทุกรูปแบบผ่านองค์กรทางการค้า  รวมถึงตัวแทนการทูตประเทศ

โดยเฉพาะอียู    สหรัฐ   โดยมีล็อบบี้ยิสต์ที่มีนักการเมืองในระบอบทักษิณอยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุนทางการเงิน  เป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อนกลไกดิสเครดิตคสช.ด้วยข้อกล่าวหาต่าง ๆ ทั้งที่คนไทยทั้งประเทศรู้ซึ้งถึงความเป็นที่คสช.ต้องเข้ามายึดอำนาจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

แบบนี้ต้องปิด!!! \"บิ๊กป้อม\"ลั่น ปิดสำนักงาน\"BBC THAI\"ได้ถ้ามีความผิด แม้สำนักงานใหญ่อยู่ลอนดอน!!(รายละเอียด)

 นพพร วงศ์อนันต์

สำหรับ BBC ไทย มีผู้บริหารคือ นพพร วงศ์อนันต์ อดีตเคยเป็นบรรณาธิการนิตยสาร ฟอร์บส์ ไทยแลนด์ ซึ่งนิตยสารฟอร์บส์นั้นเคยให้ร้าย และโจมตีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นพระประมุขที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยเอาทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะหุ้นในบริษัทปูนซีเมนต์ไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ มาคำนวณเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นการบิดเบือนเป็นอย่างยิ่ง

แล้วก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 นพพร วงศ์อนันต์ เคยไปเสวนาในหัวข้อ สื่อไทยมีเสรีภาพเพียงใดในปัจจุบัน ร่วมกับ จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของประชาไท  อนุธีร์ เดชเทวพร ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวี และที่สำคัญในวันนั้นมี กลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ไปร่วมด้วย

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ นายนพพร วงศ์อนันต์ บก.บีบีซีไทย เคยสัมภาษณ์ทักษิณ ชินวัตร ในสมัยที่ยังเป็นผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์อยู่ โดยเนื้อหาของการสัมภาษณ์ขณะนั้นเป็นการประกาศของทักษิณว่าจะเอาคืนกับศัตรูทางการเมืองของตนเพราะอีกฝ่ายหนึ่งเล่นไม่เลิก


ล่าสุด (6 ธันวาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่ สำนักงาน บีบีซีไทย ที่อาคารมณียา ถ.เพลินจิต เพื่อขอข้อมูลประกอบการดำเนินคดี แต่บีบีซีไทยได้ใช้วิธีปิดสำนักงาน ทำให้เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถทำอะไรได้

      

ขณะที่ก่อนหน้า มีรายงานข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการเผยแพร่เนื้อหา ของสำนักข่าวบีบีไทย ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเตรียมข้อมูลดังกล่าว เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาคดีด้านความมั่นคง ส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย และความมั่นคงต่อไป

 

ขณะที่ทางด้านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี เดินทางบุกไปยังสำนักงานบีบีซีไทยว่า “ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดำเนินการ อะไรผิดก็ต้องดำเนินการไม่มีละเว้นแม้บีบีซี จะมีสำนักงานใหญ่อยู่ต่างประเทศ แต่ก็ใช้คนในนี้ก็เอาผิดได้ ส่วนจะถึงปิดสำนักงานในไทยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ดูความผิด”

ข้อมูลจาก BBC Thai และ  Wassana Nanuam

เรียบเรียง ภัทราพร สำนักข่าวทีนิวส์