"พุทธะอิสระ" ถอนฟ้อง "จตุพร"!!! เพื่อพ่อ ลูกพร้อมทำได้ทุกอย่าง แล้วทำไมแค่คดี "หมิ่นประมาท" พุทธะอิสระจะให้อภัยไม่ได้

วันที่ 16 ธ.ค.2559 เพจ หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้โพสต์ถึงกรณี คดีที่นายจตุพรดูหมิ่นเหยียดหยามพุทธะอิสระจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ศาลเพิกถอนการประกันตัว และติดคุกอยู่ในเวลานี้ และในวันนี้พุทธะอิสระได้เห็นสมควรแล้วว่าจะถอนฟ้องจตุพร จึงให้ทนายร่างหนักสือเพื่อขอความกรุณาต่อศาล ให้ถอนฟ้องเสีย เพราะไม่เห็นถึงประโยชน์อะไรที่จะไปซ้ำเติมผู้ที่กำลังติดคุกอยู่

โดยรายละเอียดมีดังนี้...

เพื่อพ่อ ลูกพร้อมทำได้ทุกอย่าง
๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๙
จากข้าวสุกวันละ ๑๐ กว่าหม้อ มาถึงวันนี้ต้องใช้ข้าวสุกไม่ต่ำกว่า๓๐ หม้อ
จากน้ำดื่มวันละ ๕๐๐ โหล มาวันนี้ต้องใช้น้ำดื่มไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ โหล
จากก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่วันละร้อยกว่าโล มาถึงวันนี้ต้องใช้เส้นใหญ่ไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ กิโล
จากเส้นหมี่วันนึงประมาณ ๕๐-๑๐๐ กิโล มาถึงวันนี้ต้องใช้เส้นหมี่แห้งถึงวันละ ๑๐๐-๒๐๐ กิโล
จากผักต่างๆ วันละ ๑๐๐-๒๐๐ กิโล มาวันนี้ต้องใช้ผักถึงวันละ ๑ คันรถปิ๊กอัพครึ่ง
จากซอสปรุงรสต่างๆ ที่เป็นแกลลอน ใช้วันละ ๑-๒ โหล มาวันนี้ต้องใช้วันละ ๑๐-๒๐ โหล
จากน้ำตาลทรายใช้วันละ ๑๐-๒๐ กิโล มาวันนี้ต้องใช้น้ำตาลทรายกระสอบละ ๕๐ กิโล จำนวน ๑ กระสอบครึ่ง
จากน้ำตาลปึกใช้วันละ ๕-๑๐ กิโล มาวันนี้ต้องใช้ไม่ต่ำกว่า ๕๐ กิโล
จากเนื้อสัตว์ต่างๆ เคยใช้วันละ ๑๐๐-๒๐๐ กิโล มาวันนี้ต้องใช้เนื้อสัตว์ต่างๆ ๓๐๐-๕๐๐ กิโล
นี่ยังไม่รวมพริก หอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กะปิ น้ำปลา เกลือ ที่ใช้ปริมาณเพิ่มขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ภาชนะและช้อนตะเกียบ
ของมาก เงินมาก วัตถุดิบมากมายขนาดนี้ที่พุทธะอิสระและลูกหลานได้ร่วมกันให้ ร่วมกันบริจาค เพื่อน้อมถวายแด่องค์พ่อหลวงผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่ง

 

แล้วทำไมแค่คดีหมิ่นประมาทพุทธะอิสระจะให้อภัยไม่ได้
ตัวอย่างเช่นกรณีคดีนายชาตรี เต้ ทาหาญ ที่เขียนลงเฟซบุ๊กด่าว่าพุทธะอิสระมาเป็นแรมปี พอถูกฟ้องร้องจนศาลมีหมายเรียกให้ไปขึ้นศาล และศาลให้มาเจรจาขอขมา
พุทธะอิสระก็พร้อมจะให้อภัย ด้วยการให้เข้ามาบวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่งอยู่ทุกวันนี้
รวมทั้งคดีที่นายจตุพรดูหมิ่นเหยียดหยามพุทธะอิสระจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ศาลเพิกถอนการประกันตัว และติดคุกอยู่ในเวลานี้
วันนี้พุทธะอิสระจึงให้ทนายร่างหนังสือขอความกรุณาต่อศาลเพื่อถอนฟ้องต่อนายจตุพรทั้งแพ่งและอาญา ด้วยเห็นว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปซ้ำเติมผู้ที่กำลังติดคุกอยู่
อีกทั้งก็คิดว่าตัวนายจตุพรเองก็คงจะรู้สึกทุรนทุรายทุกข์ทรมานอยู่กับการติดคุกมากพอแล้ว หากพุทธะอิสระยังจะไปซ้ำเติมอีกก็ยิ่งจะกลายเป็นว่าไปรังแกคนที่เพลี่ยงพล้ำ และพุทธะอิสระมีความรู้สึกว่า มือที่คว่ำเพื่อจะให้ มันรู้สึกเบาสบายกว่ามือที่หงายเพื่อจะรับ
จึงสั่งให้ทนายทำหนังสือถอนฟ้องทั้งศาลแพ่งและอาญาให้แก่นายจตุพร แกนนำนปช.
หวังว่าตัวนายจตุพรและครอบครัวคงจะโล่งใจได้มากขึ้น

พุทธะอิสระ