- 10 ม.ค. 2560
สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่าสะพานวังยาว เส้นทางข้ามคลองบางสะพาน ขาลงภาคใต้ คอสะพานถูกน้ำป่ากัดเซาะขาดออกจากตัวสะพาน
สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่าสะพานวังยาว เส้นทางข้ามคลองบางสะพาน ขาลงภาคใต้ คอสะพานถูกน้ำป่ากัดเซาะขาดออกจากตัวสะพาน
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งพื่นที่ ที่ได้รับความเสียหาย คือที่รพ.บางสะพาน ว่าน้ำได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่โรงพยาบาล ล่าสุด นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงว่า ในพื้นที่น้ำท่วมขณะนี้มีโรงพยาบาลที่ต้องปิดให้บริการเพียงแห่งเดียว คือ รพ.บางสะพาน เนื่องจากจำเป็นต้องตัดระบบน้ำ ระบบไฟโดยมีผู้ป่วยในรักษาตัวอยู่ 52 ราย ทั้งนี้ ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักวิกฤติ ไอซียู จำนวน6 ราย ไปอยู่ที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ 4 ราย และรพ.หัวหิน 2 ราย และผู้ป่วยทั่วไป 8 รายไปอยู่ รพ.ทับสะแก แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560
นพ.เชิดชาย ชยวัฑโฒ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางสะพาน กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมโรงพยาบาลบางสะพานวิกฤตสุดในรอบ 15 ปี บริเวณหน้าโรงพยาบาลระดับน้ำสูง 1 เมตร ส่วนด้านหลังซึ่งเป็นอาคารบ้านพักเจ้าหน้าที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 2 เมตร รอการระบาย ขณะนี้ได้ย้ายผู้ป่วย 40 คน ไปโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์แล้ว ส่วนโรงพยาบาลบางสะพานได้ปิดให้บริการ แต่จะตั้งโรงพยาบาลสนามในโรงเรียนบางสะพานวิทยา เพื่อรักษาผู้ป่วยที่ตกค้างในพื้นที่ ส่วนอุปกรณ์การแพทย์ ที่เสียหายหนักสุด คือ เครื่องซีทีสแกน
นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าสถานการณ์อุทกภัยหนักที่อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธุ์ ซึ่งมีข่าวลือเกิดจากอ่างเก็บน้ำแตก 2 อ่าง ว่า ยืนยันว่าไม่มีอ่างเก็บน้ำแตก เกิดจากมีฝนตกมากในพื้นที่ ช่วง2 วันที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกถึง 300 มม.ทำให้ปริมาณน้ำล้นสันเขื่อนที่อ่างเก็บน้ำโปร่งสามสิบ มีความจุ 8.6 แสนลบ.ม.และน้ำไปกัดเซาะด้านท้ายตัวเขื่อน ขณะนี้กำลังเร่งซ่อมแซมซึ่งตัวเขื่อนแข็งแรงและปริมาณน้ำในอ่างอยู่ในภาวะปกติแล้วไม่มีน้ำล้นสันเขื่อน รวมทั้งอ่างคลองลอย มีความจุ 2.6 แสนลบ.ม. มีน้ำล้นสปิลเวย์ แต่ปัจจุบันเข้าสู่ภาวะปกติเช่นกัน ตอนนี้ไม่มีอันตราย อย่างไรก็ตามน้ำท่วมรอบนี้เป็นรอบที่สามซึ่งท่วมหนักคล้ายกับเหตุการณ์พายุลินดา ปี2532
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน เรื่อง "ฝนตกหนักถึงหนักมากภาคใต้ตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย" ฉบับที่ 49 ลงวันที่ 10 มกราคม 2560 โดยหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าอ่าวมะตะบันและประเทศเมียนมาในวันนี้ (10 ม.ค.60) และจะอ่อนกำลังลงในระยะต่อไป
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งต่อไปอีก 1 วัน ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และปริมาณฝนที่ตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ต่อไปอีก 1 วัน และขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด 11 จังหวัด ประกอบด้วย พัทลุง นราธิวาส สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ ระดับน้ำเริ่มลดลงหลายพื้นที่ และระดับทรงตัวในบางพื้นที่ โดย ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังและทรัพยากร ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว พร้อมประสาน 9 จังหวัด เตรียมรับมือน้ำป่าไหลหลาก ดินไหล และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 10 – 11 ม.ค. นี้โดยจัดเจ้าหน้าที่ และมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด หลังประสานกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ภาคใต้ตอนบนจะมีฝนตกหนักถึง
หนักมาก และคลื่นลมแรง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา กระบี่ และตรัง
สำหรับผู้ประกอบการทางน้ำและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 2 – 3 วัน ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าจะมีการเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ในชื่อบัญชี กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี PM. Disaster Relief Fund.บัญชีเลขที่ 067-0-06895-0ที่จะให้ประชาชนทั่วไปมาบริจาคช่วยผู้ประสบภัยได้ ทั้งนี้เท่าที่เปิดมาขณะนี้ก็มีประชาชนเริ่มมาบริจาค 20-30 รายแล้ว
การรับบริจาคอยากจะเน้นเรื่องการบริจาคเงินผ่านบัญชีของธนาคารกรุงไทย เนื่องจากจะได้ไม่ยุ่งยากในการที่จะส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ โดยการบริจาคนี้ผู้บริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย แต่หากประชาชนทั่วไปประสงค์จะบริจาคเป็นสิ่งของทางสปน.ก็ยินดีรับประสานให้ โดยติดต่อผ่านทางสายด่วน 1111 ของสปน.แต่สิ่งของ นายกฯก็อยากให้เป็นลักษณะอาหารที่ปรุงสำเร็จแล้ว เพราะในพื้นที่คงไม่สะดวกที่จะนำสิ่งของไปปรุงหรือประกอบอาหารเอง
ขณะที่ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางสายใต้ ว่าขณะนี้ยังคงมีสถานการณ์ ฝนตกหนักต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการเกิดน้ำท่วมขยายเป็น วงกว้างจนกระทบต่อการให้บริการเดินรถของการรถไฟฯ โดยล่าสุดเมื่อเวลา 21.55 น. ของวันที่ 9 ม.ค 60 ได้รับรายงานว่าได้เกิดน้ำท่วมหนักขึ้นสูงหลายจุดจนทำให้ทางขาดระหว่างสถานีบางสะพานใหญ่-ชะม่วง จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้การรถไฟฯ ต้องมีการปรับและงดการ เดินรถบางขบวน พร้อมปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง ในเส้นทางสายใต้ ให้เดินรถได้ถึงแค่สถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารโดยมีรายละเอียดดังนี้
ขบวนรถที่ยังให้บริการ รถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 43 กรุงเทพ - สุราษฎร์ธานี (เดินรถได้ถึงสถานีหัวหิน)
รถไฟฟรี 261 กรุงเทพ-หัวหิน (เดินรถได้ตามปกติ)รถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 39 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี (เดินรถได้ถึงสถานีหัวหิน)ขบวนรถธรรมดาที่ 255 ธนบุรี – หลังสวน (เดินรถได้ถึงสถานีประจวบคีรีขันธ์)
ส่วนขบวนที่เหลือได้งดการให้บริการเดินรถทั้งหมดจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมลดลง และตรวจสอบความพร้อมของสภาพ ทางแล้วเสร็จโดยผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าไปยังจังหวัดต่างๆ ทางภาคใต้แล้วสามารถติดต่อเพื่อขอคืนเงินค่าโดยสาร ได้เต็มราคา และในช่วงนี้การรถไฟฯ ขอแจ้งว่า จะไม่มีบริการขนถ่ายผู้โดยสารต่อทางรถยนต์ เนื่องจาก เส้นทางถนนมีน้ำท่วมสูงเช่นกัน ขณะเดียวกันขอความร่วมมือ ให้ผู้โดยสารที่มีความประสงค์เดินทางในเส้นทางรถไฟสายใต้ให้ตรวจสอบและติดต่อสอบถามรายละเอียดเป็นระยะ ก่อนเดินทางได้ที่สายด่วนโทร 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ้างอิงจาก เพจคนรักบางสะพาน
เรียบเรียงโดย ชนุตรา สำนักข่าวทีนิวส์