ของมันต้องมี !! "บิ๊กเน" หนุนโครงการ "โมโตจีพี" ใน "ไทย" , กร้าว!! หากจัดเเล้วคนดูต่ำกว่าเเสน ...."มาตัดหัวผมไปได้เลย" !!! (รายละเอียด)

     "บิ๊กเน” นายเนวิน ชิดชอบ บอสใหญ่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ออกโรงหนุน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าฯ กกท. เดินหน้าโครงการจัดโมโตจีพีในประเทศไทย ชี้คนค้านควรทำความเข้าใจมิติอื่นบ้าง การันตีคนดูในสนามทะลุแสน และผู้ชมทั่วโลกมากกว่าพันล้านคน รายได้โตหมื่นล้าน ขณะ ดอร์น่า สปอร์ตเจ้าของลิขสิทธิ์รอไทยประเทศเดียว กำหนดเส้นตายเซ็นสัญญาภายในเดือนเมษายนนี้

 

 

 

 

     ก่อนหน้านี้ เมื่อปลายเดือน มกราคม ที่ผ่านมา ทาง “ฟอนซ่า” หรือ คณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองด้านการกีฬา ชะลอโครงการไทยจัด “โมโตจีพี” ของคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) พร้อมขู่ฟ้องหากมีการอนุมัติงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เบื้องต้น 100 ล้านบาท เป็นค่าดำเนินการ    โดย "มาดามน้อง" นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธาน บอร์ด กกท. ได้หารือในกรณีดังกล่าวแล้ว ซึ่ง บอร์ด กกท.เห็นชอบในหลักการในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “โมโตจีพี” ให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนากีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (สปอร์ตทัวริสซึ่ม) แต่จะต้องหาแหล่งของงบประมาณใหม่ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อระเบียบ และกฎหมายการใช้จ่ายเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งกกท.จะได้หารือกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง เพื่อหาแนวทางต่อไป

 

 

  ด้าน  "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หรือ ฟอนซ่า เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้ถูกหยิบยกมาหารือกันอย่างกว้างขวางในคณะกรรมการฟอนซ่า ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่เห็นด้วยกับการเสนอตัวจัดการแข่งขันโมโต จีพี เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยยังไม่มีความพร้อมหรือความจำเป็นจะต้องจัดการแข่งขันรายการดังกล่าว เพราะไม่ก่อให้ประโยชน์กับสังคมในภาพรวม ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวหากนำมาสนับสนุนสมาคมกีฬาน่าจะเกิดประโยชน์ที่ชัดเจนกับสังคมไทยมากกว่า     นอกจากนี้ การที่มาเสนอของบประมาณมาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ถือเป็นเรื่องที่ผิดหลักการและวัตถุประสงค์ของการใช้เงินกองทุนฯ เพราะการจัดโมโต จีพี เป็นอีเว้นท์กีฬา ไม่ใช่การแข่งขันกีฬาอย่างแท้จริง ดังนั้น ทาง ฟอนซ่า จึงมีมติร่วมกันว่า หากมีการอนุมัติงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการจัดแข่งขัน "โมโต จีพี" จะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป

 

 

     ฟอนซ่าเห็นร่วมกันว่าการจัดแข่งขันโมโต จีพี เป็นเพียงอีเว้นท์กีฬา หากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติอนุมัติก็ถือว่าผิดหลักการและวัตถุประสงค์ รวมทั้งประเทศไทยยังไม่มีความจำเป็นจะต้องดึงรายการนี้มาจัดให้ได้ เพราะต้องใช้เงินมหาศาล ซึ่งเงินดังกล่าวสามารถนำไปพัฒนาวงการกีฬาในเมืองไทยได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่า ส่วนสิทธิ์ประโยชน์ที่บอกว่าจะหากมาเพื่อทดแทนนั้น ก็อยากให้มองย้อนกลับไปถึงการแข่งขันเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4 ค.ศ.2014 ที่ จ.ภูเก็ต ตอนนั้นก็มีการคาดว่าจะหาสิทธิประโยชน์ได้ประมาณ 200 ล้านบาท แต่สุดท้ายแล้วแทบไม่มีเลย

    เเละล่าสุด ฝั่งของ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กล่าวในงานแถลงข่าวการแข่งขัน เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ปีที่ 3 ของไทยว่า “ตั้งแต่วันแรกที่สร้าง สนามช้างฯ ก็ประกาศจุดยืนมาตลอดว่าเราพร้อมสนับสนุนการจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตอันดับสูงสุดของโลก ทั้งฟอร์มูล่าวัน และโมโตจีพี ว่าเราจะให้ใช้สนามฟรี หากรัฐบาลจะดึงมาจัดในประเทศไทย”

 

   “นี่คือปีที่ 3 ของเราในการจัดการแข่งขัน เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ถือเป็นการประกาศความพร้อมของประเทศไทยในการจัดการแข่งขัน โมโตจีพี ซึ่ง 3 ปีแห่งการจัดการแข่งขันมันพิสูจน์แล้วว่า ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ของประเทศไทยสามารถจัดการแข่งขันอันดับหนึ่งของโลกได้ ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดุเดือด เราได้เห็นมอเตอร์ไซค์ที่เป็นโปรดักชั่นไบค์ที่เร็วที่สุดของโลกในสนามแข่ง”

 

 

 

 

    “ตอนนี้ผมขอให้กำลังใจ 2 คนที่กำลังเดินหน้าเรื่องนี้อยู่ คนแรกคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร และผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย คุณสกล วรรณพงษ์ ที่เข้าใจ และผลักดันนโยบายสปอร์ต ทัวริซึ่ม ตอนนี้มาถูกทางแล้ว เราเหลือเวลาไม่มากแล้วที่ต้องให้คำตอบกับ ดอร์น่า เจ้าของลิขสิทธิ์คือภายในเดือนเมษายนนี้ ว่าประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โมโตจีพี หรือไม่ ผมเชื่อว่าการจัดการแข่งขันโมโตจีพีในประเทศไทยจะทำให้รายได้โตไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน”

 

 

 

 

 

 

 

 

     “ด้วยการที่รัฐบาลประกาศเป็นเจ้าภาพ และออกค่าลิขสิทธิ์จัดการแข่งขันไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ ประเทศอื่นๆ หากต้องการจัดโมโตจีพีต้องลงทุนเอง 100 เปอร์เซ็นต์ สร้างสนามเอง 100 เปอร์เซ็นต์ มีประเทศไทยที่มีคนสร้างสนามไว้ให้ และออกค่าลิขสิทธิ์เกินกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ไว้ให้แล้ว เพียงแค่เอาชื่อของรัฐบาลเข้ามาเป็นเจ้าภาพเท่านั้น”

 

     “ทั่วโลกมีกว่า 220 ประเทศ หากไทยถูกเลือกเป็น 1 ใน 18 ประเทศที่ได้จัดการแข่งขันระดับท็อปของโลกอย่าง โมโตจีพี ในแง่ของชื่อเสียงและการประชาสัมพันธ์ประเทศมันคุ้มค่ามหาศาล ด้วยการจ่ายแค่ 100 ล้านบาท มีผู้ชมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยกว่า 50,000 คน ผมเชื่อว่าไม่มีรายการไหนที่คุ้มค่าและตอบสนองนโยบายสปอร์ต ทัวริซึ่ม ได้ดีเท่า โมโตจีพี แล้ว”

 

     ด้านประเด็นโรงแรมที่พักที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงว่าจะเพียงพอหรือไม่หากจัด โมโตจีพี นายเนวิน เผยว่า “หากไปดูการแข่งขันทุกประเทศจะทราบดีว่าการเดินทางไปชม โมโตจีพี จากที่พักไปสนามจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาทีแน่นอนตอนนี้ บุรีรัมย์ อาจจะมีที่พักอยู่ราว 5,000-6,000 ห้อง แต่ต้องคิดถึงจังหวัดรอบข้างทั้ง นครราชสีมา ที่มีเขาใหญ่แหล่งที่พักเยอะมาก จ.สุรินทร์, ร้อยเอ็ด และสารคาม รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ อยากให้คนที่ค้านพยายามทำความเข้าใจในอีกมิติด้วย”

 

 

     “แน่นอนถ้ามีการจัดไฟลท์พิเศษจากสุวรรณภูมิ และดอนเมือง หรือจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆ ของไทย ไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ต, เชียงใหม่ หรือ สมุย ลองหลับตานึกดูครับ บินจากสนามบินเชียงใหม่มาสนามบินบุรีรัมย์ในเวลา 1 ชั่วโมง และจากสนามบินบุรีรัมย์มาสู่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ใช้เวลา 30 นาที รวมแล้ว 1  ชั่วโมง 30 นาที”

 

 

      “ประเทศไทยมีโรงงานผลิตจักรยานยนต์ไม่ต่ำกว่าแสนล้าน ถือเป็นธุรกิจกีฬาที่มีอุตสาหกรรมต่อเนื่อง มันไม่ได้เกี่ยวข้องแค่การท่องเที่ยว แต่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหลักจริงๆ มันไม่ได้จบแค่การแข่งขันแต่มันส่งผลเกี่ยวเนื่องถึงภาคเศรษฐกิจด้วย นั่นคืออุตสาหกรรมการผลิตจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนต่างๆ การจ้างงาน รายได้ ภาษี มันมีประโยชน์มากกว่ากันมหาศาล ใช้เงินน้อยกว่ามหาศาล ถามว่าเราจัดกีฬาระดับโลกอื่นๆ แข่งเสร็จแล้วอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่คนในประเทศได้รับคืออะไร ผมท้าได้เลยถ้าจัด โมโตจีพี ถ้าคนดูต่ำกว่าแสนมาตัดหัวผมไปได้เลย”

 

 

      “ดีใจที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเข้าใจ ดีใจที่ท่านรัฐมนตรีพยายามผลักดัน หวังว่าท่านจะต่อสู้ใน ครม. แล้วประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่บุรีรัมย์ แต่เพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมต่อเนื่องของประเทศไทย และเพื่อผลักดันนักกีฬาไทยในกีฬาแข่งจักรยานยนต์ระดับโลก”

 

     “ตอนนี้ ดอร์น่า สปอร์ต รอทางเราคอนเฟิร์ม โดยมีกำหนดเส้นตายในเดือนเมษายน ประเทศอื่นเขาไม่รอนะครับเขารอเราประเทศเดียว หวังเราจะได้ข้อสรุปก่อนเดือนเมษายนนี้ครับ”