โล่งเลย!!!ศาลให้ประกัน"เบนซ์ เรซซิ่ง" สั่งห้ามออกนอกราชอาณาจักร

 หลังจากที่เมื่อช่วงเช้า ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ธนยศ บวรเดชธนากูล พนักงานสอบสวน บก.ปส.1 บช.ปส. คุมตัว นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินมายื่นคำร้องฝากขัง ผัดแรกเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 6 -17 มี.ค. นี้เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 20 ปาก รอผลการตรวจประวัติต้องโทษ และรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวน ซึ่งท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวด้วยจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เนื่องจากคดีมีการกระทำผิดลักษณะเป็นเครือข่าย หากได้รับการปล่อยชั่วคราวไปเกรงว่า ผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
        
  ทั้งนี้คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดี ข้อหาลักลอบจำหน่ายยาเสพติดเป็นเวลานานและพบว่า นาย ณัฐพล หรือ บอย ได้เกี่ยวข้องร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดกับนายวสุพล หรือไมค์ แก้วกระจ่าง ซึ่งหลบหนีไปโดยพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 55 ข้อหาร่วมกันมียาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
        

กระทั่งวันที่ 31 ม.ค.-2 ก.พ. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายณัฐพล หรือบอย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา รวมทั้งผู้ต้องหารายอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับ นาย ณัฐพล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลกรณีที่จับกุมตัว นาย ณัฐพล และความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 60 พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดี นาย ณัฐพล หรือ บอย และ นาย อัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ ผู้ต้องหาคดีนี้ว่าสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้กระทำความผิดฐานฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ มาตรา 3,5,9 และ 60
         
 ซึ่งการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่า นายณัฐพล และนายอัครกิตติ์ ผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงิน โดย นาย ณัฐพล นำเงินที่ได้จากการจำหน่าย ยาเสพติดมามอบให้ผู้ต้องหาไปดำเนินการฟอกเงินด้วยการซื้อทรัพย์สินหรือถือครองทรัพย์สิน หรือการโอนเงินเพื่อนำไปดำเนินการแปลสภาพในธุรกิจ ซึ่งการสอบสวนพบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างทั้งสองคนเป็นเงินจำนวนมากผิดปกติ โดยช่วงปี 2557 -2559 มีการโอนเงินระหว่างกันประมาณ 8.7 ล้านบาท
          นอกจากนี้ นาย ณัฐพล ยังได้ถือครองทรัพย์สินโดยใช้ชื่อของนายอัครกิตติ์ ผู้ต้องหาในการทำสัญญาเช่น รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ส่วนการซื้อรถยนต์ ลัมโบกินี สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กจ 51 กรุงเทพมหานคร ก็มีการโอนเงินระหว่างกัน
          เหตุเกิดที่ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง ,แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ, แขวงจอมพล เขตจตุจักร และแขวง-เขตดินแดง กทม.เกี่ยวพันกัน โดยเมื่อวันที่ 6 มี.ค.60 ผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้
         

 ต่อมา นายสิทธิโชค ตรีเนตร ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากประจำ ธนาคารออมสิน มูลค่า 5 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว
       

  ล่าสุด ศาลอาญา อนุญาตประกันตัว นายอัครกิตติ์ โดย ตีราคาประกันเป็นจำนวนเงิน  5 แสน บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

 

 

รายงานโดย นาตยา เอนกธนะเศรษฐ์  สำนักข่าวทีนิวส์