ซัดหงายอีกดอก!?!? "ปราชญ์ สามสี"ถามขำๆถึง"พระมหาไพรวัลย์" เคลียร์ให้ชัดอะไรคือปานะ...จวกเละ ทำตัวเป็น ทัดดาว เรียก "เจ้าฮะๆ" (รายละเอียด)

ซัดหงายอีกดอก!?!? "ปราชญ์ สามสี"ถามขำๆถึง"พระมหาไพรวัลย์" เคลียร์ให้ชัดอะไรคือปานะ...จวกเละ ทำตัวเป็น ทัดดาว เรียก "เจ้าฮะๆ" (รายละเอียด)

เดือดเป็นไฟอีกแล้วสำหรับเพจดังอย่าง "ปราชญ์ สามสี" ซึ่งได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงวิเคราะห์สำหรับกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งในช่วงนี้คงไม่พ้นเรื่องวัดพระธรรมกายและบรรดาพระแต่ละรูปที่ออกตัวปกป้องวัดพระธรรมกาย หนึ่งในนั้นคือพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักพูดซึ่งได้ออกมาพูดปกป้องวัดพระธรรมกายในเชิงวิเคราะห์ด้วยตรรกะ หยิบยกเรื่องเสรีในการนับถือวัดพระธรรมกายมากล่าวอ้าง และพยายามพูดปรามไม่ให้ประชาชนเกลียดวัดพระธรรมกาย

ล่าสุดหลังได้ฟาดฟันกันผ่านเฟสบุ๊ค ทางปราชญ์ สามสี ก็ได้ออกมากล่าวถึงพระมหาไพรวัลย์อีกครั้ง โดยระบุว่า เป็นเพียงการถามขำๆ

ซัดหงายอีกดอก!?!? "ปราชญ์ สามสี"ถามขำๆถึง"พระมหาไพรวัลย์" เคลียร์ให้ชัดอะไรคือปานะ...จวกเละ ทำตัวเป็น ทัดดาว เรียก "เจ้าฮะๆ" (รายละเอียด)

(พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ)


"เอางี้นะ ถามขำๆ ...ไพรวัล ...ไอติมแมคนั่มเป็น"ปานะ"หรือป่ะ?
ปัญหาของ ไพรวัล มีตั้งแต่ กรณีช่วยแก้ตัวให้ ธรรมกายแถเรื่องปานะ กับ ไอติมแมคนั่มแล้ว
ปานะ มีไว้เพื่อไม่ให้ทรมานเพราะหิว เพราะพระไม่ฉันหลังเพล
บางรูป อาจหิวมาก จึงอนุโลมให้ฉันน้ำที่ให้พลังงานบางชนิด
จุดประสงค์คือ เพื่อให้ปฏิบัติธรรมได้โดยไม่ทรมาน
ไม่ใช่ เป็นของว่าง บำรุงบำเรอกิเลส
คำว่า “ปานะ” แปลว่า เครื่องดื่ม หรือน้ำสำหรับดื่มที่คั้นจากผลไม้ ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตไว้ ๘ ชนิด หรือที่เรียกว่า น้ำอัฏฐบาน ได้แก่ น้ำมะม่วง, น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า, น้ำกล้วยมีเมล็ด, น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด, น้ำมะซางต้องเจือด้วยน้ำจึงจะควร, น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น, น้ำเหง้าบัว และน้ำมะปรางหรือลิ้นจี่ หากเทียบเคียงกับปัจจุบันก็น่าจะหมายถึง บรรดาน้ำผลไม้ทั่วไปนั่นเอง
วิธีทำน้ำปานะที่ท่านแนะไว้ คือ ปอกหรือคว้านผลไม้เหล่านี้ที่สุก เอาผ้าขาวบางห่อแล้วบิดให้ตึง อัดเนื้อผลไม้ให้คายน้ำออกจากผ้า อย่าให้มีกาก จากนั้นเติมน้ำลงไปให้พอดี แล้วผสมกับน้ำตาลและเกลือเป็นต้นเพื่อให้ได้รสที่ดีขึ้น
แต่ปานะดังกล่าวก็มีข้อจำกัดที่จะพึงทราบคือ ปานะนี้ให้สุกด้วยแสงแดดเท่านั้น ห้ามให้สุกด้วยไฟ และน้ำปานะจัดเป็นยามกาลิก จึงควรเก็บไว้ฉันได้ตลอด ๑ วัน กับ ๑ คืนเท่านั้น เมื่อขึ้นอรุณของวันใหม่แล้วเป็นอันฉันไม่ได้
เรื่องคนนี้ มนุษย์เป็นพระ ก็ต้องรู้แก่ใจ
จริงๆเห็นแก่ความเป็นมนุษย์นะ คือ เข้าใจว่า พยายาม อธิบาย ความสับสน เพราะโลกมันก็พัฒนาไกล กว่ายุค เมื่อ 2560ปีที่แล้ว มันมีสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ที่เรียกว่า ไอติมขึ้นมา ...ก็ต้องมานั้งเคลียกันว่าอะไรคือปานะ ...แล้วไอติมเป็นปานะไหม?
มันก็ต้องไปดูที่ราก ...ว่าอะไรคือปานะ แท้ๆ... ปานะคือมีไว้ไม่ให้ ทรมานเพราะหิว....
แต่ดันมาบอกว่า "ไอติมแมคนั่ม" ทานได้เพราะละลายเป็นน้ำได้ เห๊ย! แล้วการถวายไอติม ที่ธรรมกายด้วยการเจาะจง"แม๊กนั่ม"แล้วระดมคนบริจาก"แม๊กนั่ม" 1500แท่ง นี่เลี้ยงความโลภหรือไม่? นี่มัน "หิว" หรือ "โหย" .... NEED หรือ WANT ?

ข้าพเจ้าเกิดมาในยุค "ตักบาตรอย่าถามพระ" และ "แกงรวมมิตรที่ญาติโยมถวายให้ กินในบาตรเดียว" แต่เดี๋ยวนี้เราต้องตักบาตรจะต้องบำเรอพระให้อิ่มหมีพีมันสนองความโลภบูชาเปรตกันแล้วรึ ไม่ไหวๆ สึกเถอะ ...อายแทน
ปล. ผมไม่เคยพูดนะ ว่าไพรวัล เป็นธรรมกาย... แต่ ไพรวัล เป็นพระการเมือง อันนี้จริง ... จะไปบอกว่าจุดเพื่อนั้นเพื่อนี่ไม่ได้ คุณต้องรู้ว่ามันเป็นเรื่อง"การเมือง"
ส่วน เรื่อง "เจ้า" ที่พูดย่อ เห๊ย... อันนี้ก็กำกวมเกินไป สังคมติฉินนินทาได้
ถ้าจะย่อ แทน"หม่อมเจ้าจุลเจิม" ก็น่าจะเรียก"หม่อมฯ" ไม่ใช่หรือ?
เวลาผมเรียกหม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ ย่อๆ ยังเรียก "หม่อมปลาดุก" ตามฉายาที่สื่อมอบให้เลย หรือจะพี่หม่อม อาหม่อม ...ก็ว่ากันไป
เพราะเวลาเรียก "เจ้า" มันกำกวม ว่า จะเป็น "เจ้าที่" "เจ้ามือ" หรือ "เจ้าพ่อ"อันนี้ มันกำกวมมาก ก็พึ่งรู้เหมือนกัน ว่า"ไพรวัล" ทำตัวเป็น ทัดดาว บุษยา เรียก "เจ้าฮะๆ"
เป็นพระอย่าเทศกำกวม สังคมติฉินนินทาได้
สุดท้าย ... เรื่องธรรมกาย อยู่นิ่งๆ ปล่อยให้กฎหมายเขาจัดการเถอะใครผิดใครถูกก็ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม เถอะ เป็นพระก็อยู่ใต้กฏหมายนะครับ
ปล.2. ถ้าประเทศไทยมันเป็นเผด็จการที่เลวร้ายแบบประเทศอยูโรปบางประเทศในอดีต อย่างที่ลูกเพจไพรวัลโวยวายอยู่จริง ..คุณ ผม และทุกคน ไม่ได้มาเล่นนั่งเฟสบุ๊ก ดื่มสตาบัคสบายๆหรอกครับ ... ป่านนี้ทำงานเหมือง เผลอๆ โดนรมแก๊สตายไปแล้วมั้ง ปากขนาดนี้"

ซัดหงายอีกดอก!?!? "ปราชญ์ สามสี"ถามขำๆถึง"พระมหาไพรวัลย์" เคลียร์ให้ชัดอะไรคือปานะ...จวกเละ ทำตัวเป็น ทัดดาว เรียก "เจ้าฮะๆ" (รายละเอียด)

 

 

 

อ้างอิงข้อมูลจาก เฟสบุ๊ค ปราชญ์ สามสี

...สินีนุช ทีนิวส์...