- 11 มี.ค. 2560
ชัดเจนแจ่มแจ้ง!?!? "ปราชญ์ สามสี" วิเคราะห์ให้....23 วัน บุก"ธรรมกาย"สิ่งที่เสียไป-สิ่งที่ได้กลับมา (รายละเอียด)
สรุปให้เป็นข้อๆเลยสำหรับการวิเคราะห์เปรียบเทียบสิ่งที่เสียไปกับสิ่งที่ได้กลับมาจากกรณีรัฐใช้ ม.44 ควบคุมวัดพระธรรมกายเพื่อบุกค้นจับกุมพระธัมมชโย โดย ปราชญ์ สามสี ซึ่งได้ออกมาแจกแจงละเอียดยิบผ่านทางเฟสบุ๊ค ระบุว่า
"สิ่งที่เสียไป : สิ่งที่ได้กลับมา จากกรณีรัฐใช้ ม.44 : 23วัน
กับโครงข่ายองค์กรฟอกเงิน
1.สิ่งที่เสียไป
-เวลา & เงินงบประมาณ
-ภาพขัดแย้งของคนพุทธ
-ความรู้สึกของกองเชียร์
-จบแบบค้างๆคาๆไม่สวย
-ถูกวิจารณ์ครหาทางลบ
2.สิ่งที่ได้กลับมา
-ภาพกบฏผีบุญเด่นชัดขึ้น
-ผู้ต้องหาไม่ป่วยหนักจริง
-ผู้นำพาหลบหนีซุกซ่อนตัวผู้ต้องหาจะต้องมีความผิด
-ได้ ผอ.พศ.คนใหม่(ดีขึ้น)
-ได้ถอดสมณศักดิ์ที่ได้กันมาแบบผิดๆกับผู้ต้องหาทั้ง2
-ได้เสนอเรื่องสึกผู้ต้องหาคาไว้ใน มส.ให้ต้องเดินหน้าต่อ เพื่อรักษายศตำแหน่งพระของตัวเองไม่ให้ถูกปลดแบบผู้ต้องหาทั้ง2(จึงต้องสึกแน่)
-เมื่อสึกเป็นทางการแล้วจะได้ดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมใหม่กับคน(ไม่ใช่พระ) เช่นคดีเป็นพระเอาเงินวัดไปซื้อที่ดิน เอาเงินวัดไปเล่นหุ้น และคดีรับของโจร ฟอกเงิน ฯลฯ ง่ายมากยิ่งขึ้น มส.จะได้ยื่นมือสกปรกที่เคยรับอามิสเข้ามายุ่งเหยิงกับคดีทางโลกไม่ได้
-เจอตัวผู้ต้องหา2ตัว ก็จับยัดเข้าคุกได้เลย ศาลก็ไม่มีทางให้ประกันเพราะมันทั้ง2 มีพฤติการณ์หลบหนี!
-ดีเอสไอ ปปง ยังตามยึดอายัดทรัพย์(ในส่วนที่โกงเงินสมช.สคจ.ไปฟอก)ต่อไปได้เรื่อยๆ ถือว่าตัดท่อน้ำเลี้ยง!
-ตร.ทำคดีในส่วนอื่น เช่น บุกรุกทำลายทรัพยากร สร้างอาคารสถานที่ ขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลผิดกฏหมายได้ง่ายขึ้น ข้ออ้างว่าคดีนี้รัฐแค่กล่าวหาฟังไม่ขึ้น เพราะทุกเรื่องถ้าไม่มีใบอนุญาตก็ถือว่าเขาทำผิดชัดๆ แล้ว ไม่อาจบิดเบือนได้
-โอกาสที่จะนำไปสู่การสั่งยุบองค์กรโครงข่ายที่ร่วมกันฟอกเงินมีความเป็นไปได้สูง ไม่ว่าจะใช้กฏหมายธรรมดาหรือกฏหมายพิเศษ ม.44
-ญาติธรรมที่เป็นคนพุทธตาสว่างในทางธรรมมากขึ้น เสียงเรียกร้องตามธรรมชาติ (ไม่ใช่จัดตั้งสร้างภาพ)จะเกิดมากขึ้นเอง ส่งผลให้จัดทำคดีเกี่ยวกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ง่ายดี
-ส่งผลดีทางอ้อมให้วัดวาอารามสำนักสงฆ์ ลดการมอมเมาชาวพุทธที่มีศรัทธา แต่ไม่มีปัญญาได้ดีขึ้นมาก เพราะ พระสังฆาธิการเจ้าอาวาสเจ้าคณะต่างๆโดยรวม จะทำงานทำการตามหน้าที่ดีขึ้น เนื่องจากกลัวถูกถอดยศ/ตำแหน่ง
-ศาสนาพุทธจะได้มีพุทธบริษัทสาม คือภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา ที่เป็นพุทธะมากขึ้น คือไม่หลอกลวงกัน และถึงจะหลอกลวงก็ทำได้ยากแล้ว เพราะพุทธะก็คือผู้ที่ตื่นจากความเป็นผู้งมงายโง่เขลาเบาปัญญา ไม่เชื่อมั่นในตนเอง!
-ตัวผมมีมุมมองแบบนี้นะ คนอื่นอาจมีมุมมองต่างกันได้
...ธรรมนูญ..
11 มี.ค.60
ย้อนไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมามีการแถลงผลการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจค้นไม่พบตัวพระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ พระธัมมชโย หลังจากนี้จะยุติการเข้าตรวจค้น และจัดให้พระธัมมชโยเป็นผู้หลบหนีตามหมายจับ ทางเจ้าหน้าชุดสืบสวนดีเอสไอ ตำรวจ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ติดตามตะวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นตม. ยังไม่พบข้อมูลการออกนอกประเทศของพระธัมมชโย โดยการยุติการเข้าตรวจค้น เนื่องเจ้าหน้าที่คลายข้อสงสัยในเรื่องการที่พระธัมมชโยอาพาธ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งจากการเข้าตรวจ ก็คลายข้อสงสัยและสรุปได้ว่าพระธัมมชโยไม่ได้อาพาธและสามารถเคลื่อนย้ายหลบหนีได้
พ.ต.อ. ไพสิฐ ระบุว่า หลังจากนี้ทางวัดและศิษย์วัดพระธรรมกาย จะยุติการชุมนุม ทั้งพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวง และพื้นที่วัดพระธรรมกาย ในวันพรุ่งนี้จะไม่เห็นภาพศิษย์นั่งสวดมนต์กีดกันเจ้าหน้าที่ตามประตูต่างๆ และจะเปิดให้พระสงฆ์ที่เป็นพระของวัดพระธรรมกายและพระวัดอื่นๆ รวมทั้งศิษย์เข้ามาประกอบศาสนกิจได้ตามปกติ และจะเคลียร์พื้นที่ต่างๆ ให้เข้าสู่สภาวะปกติ แต่ยังคงตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ทหารไว้อยู่ เพื่อป้องกันมือที่ 3 เข้ามาก่อเหตุ เรื่องจากทางการข่าวพบการแทรกซึมของบุคคลไม่ประสงค์ดี
ในส่วนของวัดพระธรรมกาย จะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เข้ามาดูแลวัดพระธรรมกายต่อไป ซึ่งวัดก็ไม่ได้คัดค้าน สำหรับคดีที่เกิดขึ้นช่วงบังคับใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคดีอาญา 43 คดี มีหมายเรียกบุคคลมารายงานตัว 316 ราย และหากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีการขักชวนมาชุมนุม หรือต่อต้าน จะเสนอเรื่องขอยกเลิกการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อส่งเรื่องต่อไปยังคสช. ยืนยันว่ายังไม่ยกเลิกตัดสัญญาณโทรศัพท์ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
นอกจากนี้พ.ต.อ. ไพสิฐ ขอวิงวอนให้พระธัมมชโยเข้ามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย เนื่องจากคดีฟอกเงิน มีผู้เสียหายกว่า 5 หมื่นคน มูลค่าความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับทางวัด และการทำงานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่ใช่อาวุธ เป็นไปอย่างละมุนละม่อม เพื่อป้องกันการสูญเสีย
อ้างอิงข้อมูลจาก เฟสบุ๊ค ปราชญ์ สามสี
...สินีนุช ทีนิวส์...