“ทิลเลอร์สัน” ย้ำ ประเทศใด ก็ตาม ถ้าไม่เชื่อฟัง “สหรัฐฯ” จะโดนแบบ “ซีเรีย” พร้อมเดินหน้าจัดการ “เกาหลีเหนือ”

       สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว กรณี สหรัฐฯ ส่งกองเรือจู่โจมมุ่งหน้าคาบสมุทรเกาหลี โดยกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วิลสัน พร้อมด้วยหมู่เรือพิฆาต มุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเป็นการเปิดเผยข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ภายในกองทัพเรือสหรัฐฯ

     เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วิลสัน พร้อมด้วยหมู่เรือพิฆาต ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ออกเดินทางจากสิงคโปร์ โดยจะเคลื่อนไปทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับคาบสมุทรเกาหลี โดยทางเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯในกรุงลอนดอน ได้ให้ข้อมูลกับทางด้านรอยเตอร์ เมื่อวันเสาร์     การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเกิดความกังวลเกี่ยวกับโครงการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เดือนก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธสกั๊ดที่ใช้เชื้อเพลิงเหลวแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากการทดสอบยิงออกไป       
      ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือหลายคน รวมถึง คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุด ได้เรียงหน้ากันออกมาประกาศว่า อาจทำการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ซึ่งอย่างเร็วที่สุดอาจเป็นวันที่ 15 ที่จะถึงที่เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 105 ปีของอดีตผู้นำและผู้ก่อตั้งประเทศ และงานฉลอง วันสุริยะประจำปี
    

      ผู้ช่วยด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์ เสร็จสิ้นการทบทวนทางเลือกในการจัดการกับเกาหลีเหนือแล้ว ซึ่งรวมถึงมาตรการทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร แต่มีความโน้มเอียงไปทางมาตรการลงโทษและเพิ่มความกดดันจีนให้ช่วยจัดการกับเกาหลีเหนือมากขึ้น แม้มีตัวเลือกในการโจมตีก่อน แต่บรรดาที่ปรึกษาเหล่านี้ให้ความสำคัญกับขั้นตอนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าและลดการเน้นย้ำการดำเนินการทางทหารโดยตรง       
       ขณะที่ รัฐบาลเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีซีเรียของสหรัฐฯ โดยระบุว่า การกระทำของสหรัฐฯ "เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้"
การกระทำของสหรัฐฯถือเป็นการแทรกแซงอำนาจอธิปไตยของชาติอื่นอย่างโจ่งแจ้ง ด้วยเหตุนี้ เกาหลีเหนือจึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และเพิ่มแสนยานุภาพทางทหาร เพื่อป้องกันการรุกรานจากสหรัฐฯรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ก็ไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนๆเลยแม้แต่น้อย

       เกาหลีเหนือที่ถูกโดดเดี่ยวทางการทูตถือว่าซีเรียเป็นพันธมิตรสำคัญ โดยทางเคซีเอ็นเอรายงานว่า คิมจอง อึน และประธานาธิบดี บาชาร์อัลอัสซาด ของซีเรีย ได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนความปรารถนาดีต่อกัน รวมทั้งให้คำมั่นในการร่วมมือระหว่างสองประเทศ
       หลายฝ่ายเชื่อว่าเกาหลีเหนือกำลังพัฒนาขีปนาวุธที่สามารถโจมตีถึงสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่เข้าข่ายละเมิดมาตรการลงโทษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์มาแล้ว 5 ครั้ง โดยในจำนวนนี้มี 2 ครั้งที่เริ่มต้นทดสอบตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งยังทดสอบขีปนาวุธอีกหลายครั้ง

       เร็กซ์  ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า การโจมตีทางทหารของสหรัฐฯ กับซีเรีย เกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีเป็นคำเตือนแก่ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งเกาหลีเหนือว่าการตอบสนองเป็นไปได้ หากพวกเขาก่อให้เกิดอันตราย นอกจากนั้นทางรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้บอกว่าการที่สหรัฐฯ ส่งกองเรือจู่โจม ยูเอสเอส คาร์ล วิลสัน เดินทางไปยังคาบสมุทรเกาหลี นั้น เป็นการเป็นพ้องกันกับจีน ว่าจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพื่อแก้ไปปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกันระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ และ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ที่ผ่านมา   ผู้สื่อข่าว ABC ได้ตั้งคำถามกับทางเร็กซ์ทิลเลอร์สัน ว่า การโจมตีซีเรีย เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมานั้น เป็นการส่งสื่อความหมายไปยังเกาหลีเหนือหรือไม่ เขาก็ตอบว่า มันอาจจะเป็นข้อความสื่อไปยังประเทศใดก็ตาม ที่ ถ้าคุณฝ่าฝืนบรรทัดฐานสากลถ้าคุณละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศหากคุณไม่ปฏิบัติตามข้อผูกพัน ถ้าคุณกลายเป็นภัยคุกคามต่อผู้อื่นในบางช่วงเวลาการตอบสนองน่าจะได้รับการดำเนินการ เช่นเดียวกับซีเรีย ในแง่ของเกาหลีเหนือ เขากล่าวเสริมว่าเห็นได้ชัดว่าวัตถุประสงค์ของเราคือคาบสมุทรเกาหลีต้องปลอดจากนิวเคลียร์

       สหรัฐฯ ยังแสดงความอหังการ ต่อเนื่อง ถึงวันนี้ ก็คงยังคิดว่าตนเองเป็นมหาอำนาจของโลก จะทำอะไรกับประเทศใดก็ได้ ระวังให้ดีเถอะถ้ายังคิดแบบนั้นอยู่ สักวัน สหรัฐฯ จะน้ำตาตก เพราะโดนรุมกินโต๊ะ จากประเทศเล็ก ๆ ที่โดนสหรัฐฯรังแก ถึงวันนั้นแล้วจะรู้สึกตัวว่า “เล็กพริกขี้หนู” มันทั้งเจ็บทั้งแสบ ปวดร้าวอย่างไร

ชมคลิป นาทีที่0.30-5.52