เตรียมจับตามอง!?!?  ไขให้กระจ่าง จาก คดียักยอก "สมีโย" สู่ "เสี่ยเปี๋ยง" (มีคลิป)

วันนี้(24 เม.ย.60) รายงานกรณีบทความเปลวสีเงิน ที่ได้เเสดงความเห็นเรื่องคดียักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกาย

บทความเปลวสีเงิน
Saturday, April 22, 2017 - 00:00
อยู่ว่างๆ........

หยิบเรื่องอัยการ "ถอนฟ้องธัมมชโย" ต่อศาลอาญา "ก่อนวันตัดสิน" ไม่กี่วันมาอ่าน

ก็ในคดียักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกาย เมื่อสิงหา ๔๙ และศาลอนุญาตให้ถอนฟ้องได้

แต่นั้นมา "ธัมมชโย" ก็ฟรุ้งฟริ้งอยู่ในผ้าเหลือง เติบใหญ่กลายเป็น "ตีนโตดำดิน" หนีหมายจับข้อหายักยอกฟอกทรัพย์รับของโจร ใน "คดีเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น" จนปัจจุบันนี้!

อ่านๆ แล้วก็คิดถึง "คน ๒ คน" ขึ้นมาเฉยๆ

คือ ท่านรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม กับท่านอัยการสูงสุด "ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร"

รองนายกฯ วิษณุนั้น ในปี ๔๙ เป็นเนติบริกรข้างกายนายกฯ ทักษิณและจันทร์ส่องหล้า

เป็นที่รู้กันว่า ด้วย "อภินิหารทักษิณ" สมัยนั้น ..........

ทำให้อัยการสูงสุดยุคนั้น คือ “นายพชร ยุติธรรมดำรง" มีคำสั่งให้อัยการฝ่ายคดีอาญา ๕ ถอนฟ้อง “ธัมมชโย” กับพวก พ้นข้อหาไป

คือตอนนั้น อัยการฟ้องธัมมชโยกับลูกศิษย์ "นายถาวร พรหมถาวร" ว่าร่วมกันยักยอกทรัพย์และเงินบริจาควัดพระธรรมกาย ๖.๘ ล้านบาท ไปซื้อที่ดินเขาพนมพา วังทรายพูน พิจิตร

โดยโอนกรรมสิทธิ์ใส่ชื่อนายถาวร และเงิน ๒๙,๘๗๗,๐๐๐ บาท ไปซื้อที่ดิน ๙๐๒ ไร่เศษ ที่วังทรายพูน และที่เพชรบูรณ์ โอนกรรมสิทธิ์ให้นายถาวรเช่นกัน

คดีเริ่มตั้งแต่ตุลา ๔๒ และเมื่อ ๒๑ ส.ค.๔๙ ก่อนศาลจะตัดสิน อัยการก็ไปยื่นคำร้องขอถอนฟ้องธัมมชโยกับศิษย์ ดังคำร้องบางตอนว่า

"ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ กับพวกได้มอบทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งมีทั้งที่ดินและเงินจำนวน ๙๕๙,๓๐๐,๐๐๐ บาท คืนให้แก่วัดพระธรรมกาย

การกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ ๑ กับพวก จึงเป็นการปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ครบถ้วนทุกประการแล้ว....ฯลฯ..........

โจทก์จึงขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้ทุกข้อกล่าวหา ขอศาลโปรดอนุญาต"

ครับ คดียักยอก เป็นคดียอมความได้!

เมื่อโจทก์ถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้าน แม้เป็นนัดสุดท้ายก่อนวันตัดสิน ศาลท่านก็ต้องอนุญาต และจำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาล

ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับอัยการสูงสุดคนปัจจุบัน

แต่ในฐานะอัยการคือทนายแผ่นดิน คิดถึงเรื่องคดีความ ก็ต้องคิดถึงอัยการโดยรวม เป็นธรรมดา

คืออย่างนี้ครับ ไม่ทราบว่าท่านรองนายกฯ วิษณุ จำเรื่อง "เสี่ยเปี๋ยง" ได้เปล่า?

เสี่ยเปี๋ยง ก็..."นายอภิชาติ จันทร์สกุล" พ่อค้าข้าว "เพรสิเดนท์อะกริเทรดดิ้ง" คู่บารมีระบอบทักษิณนั่นไง

ตอนนี้ ถูกอัยการศาลแขวงสมุทรปราการฟ้อง กรณียักยอกข้าวที่รับจ้าง "กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์" ปรับปรุงข้าวส่งให้รัฐบาลอิหร่าน ๒ คดี

ศาลตัดสินแล้วเมื่อ ๒๔ มิ.ย.๕๗ คดีแรก จำคุกเสี่ยเปี๋ยง ๓ ปี และให้คืนข้าว ๑๖,๔๐๐ ตัน หรือชดใช้เงินแทน ๑๗๕,๔๘๐,๐๐๐ บาท

อีกคดี ตัดสินจำคุก ๓ ปีเช่นกัน และให้ร่วมกันคืนข้าว ๔,๗๔๒.๙๖ ตัน หรือใช้ราคาแทนจำนวน ๕๔,๓๘๕,๙๐๒.๐๗ บาท

๒ คดี รวมโทษคุกเสี่ยเปี๋ยง ๖ ปี!

ท่านรองและท่านอัยการสูงสุด ต้องทราบแน่ว่า เสี่ยเปี๋ยงอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ ก็พิพากษาออกมาแล้ว คือ

"ยืนตามศาลชั้นต้น"

เสี่ยเปี๋ยงฎีกา ตอนนี้ ทั้ง ๒ คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาในขั้น "ศาลฎีกา"!

และทั้งท่านรองฯ ท่านอัยการสูงสุด ก็ต้องทราบ......

เสี่ยเปี๋ยงขอเลื่อนฟังคำพิพากษาของศาลฎีกามา ๒ ครั้งแล้ว โดยอ้างว่า "กำลังเจรจากับกรมการค้าต่างประเทศ"!

เจรจาในประเด็นไหน...เท่าที่เป็นเสียงลือ-เสียงเล่าอ้าง ดังไปทั่ววงการคดีความก็คือ

เสี่ยเปี๋ยง เจรจาขอยอมชดใช้ค่าเสียหาย

และตอนนี้ นำเงินไปวางศาลแล้วด้วยซ้ำ!

ก็หวังให้ผู้เสียหายคือ "กรมการค้าต่างประเทศ" ถอนแจ้งความ เพราะคดีนี้ ฟ้องในข้อหา "ยักยอกข้าว"

ก็คือ "ยักยอกทรัพย์" เป็นคดีที่ยอมความกันได้!

เหมือน "คดีธัมมชโย" ยักยอกเงินวัด รู้ตัวว่าติดคุกแน่ ก็ยอมคืนเงินให้วัด แล้วอัยการก็ไปถอนฟ้องต่อศาลพ้นข้อหาไป

ท่านรองฯ วิษณุ เป็นมือกฎหมายอยู่ในรัฐบาลทักษิณ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙

คงรู้.........

ด้วยอภินิหารอำนาจทักษิณ ทำให้อัยการต้องขอถอนฟ้องกลางศาล ประหนึ่งสมยอมกับจำเลย คือธัมมชโยมาแล้ว

และวันนี้ พ.ศ.๒๕๖๐ ด้วยเนติบริกรบันดาล ท่านก็มาเป็นรองนายกฯ ในรัฐบาล คสช.ประยุทธ์อีก

และร่องรอยแห่งความอัปยศอดสู "กำลังจะเกิดซ้ำรอย"

ตอนนี้ ทั้งคลัง ทั้งอัยการ และทั้งกรมการค้าต่างประเทศ กำลังถูกแส้มโนธรรมสำนึกหวด จนดูเหมือนยับเยิน อ่อนล้า

ว่าจะ เจริญรอยตามคดีธัมมชโย รับเงินชดใช้ เกี้ยเซี้ย-สมยอมกับขบวนการทุจริตคอร์รัปชัน

"ถอนคดี-ถอนฟ้อง" ให้เสี่ยเปี๋ยงพ้นข้อหา ก่อนศาลฎีกาตัดสินดีมั้ย?

หรือ....รับเฉพาะเงินชดใช้ค่าข้าวที่ถูกยักยอกไป

ส่วนคดี ให้ดำเนินต่อไปตามกระบวนการพิจารณาของศาลฎีกา?

ท่านรองฯ วิษณุพอทราบมั้ยครับว่า

ตอนนี้ มีคนสวมหน้ากากทองคำ "ทั้งบีบ-ทั้งข่มขู่-ทั้งเร่งเร้า" กรมการค้าต่างประเทศ ให้ถอนคดี!?

ท่านว่า "มันเลวมั้ย?" ช่วยดูแลเรื่องนี้ทีเถอะ อย่าปล่อยให้ประวัติศาสตร์อัปยศต้องบันทึกว่า

ในสมัย เป็นรองนายกฯ ใน ๒ รัฐบาล.........

เกิดคดีลักษณะ "ตัดตอนคดี" ด้วยการ "ถอนฟ้อง" ให้จำเลยผู้ทรงอิทธิพลพ้นคดี ก่อนศาลตัดสิน เหมือนกัน ๒ คดีเลย!

จะอ้างว่า ก็คดียักยอก "ยอมความได้" ในทางกฎหมาย ไม่เถียง

แต่ทางสังคม "โลกติเตียน" ครับ

เพราะถ้าทำงานด้วยดุลยธรรม ย่อมเข้าถึงเจตนารมณ์กฎหมาย และรู้ว่าจะใช้เงื่อนไขนี้กับกรณีเช่นใด

คดีนี้ "โกงระดับโลก" คนรัฐบาลสมคบ ประเทศชาติเสียหาย ๖-๗ แสนล้าน ระบบค้าข้าวประเทศฉิบหาย

แต่ลงท้าย คนที่โกงไปก่อน ถ้าจับได้ จวนตัวก็คายคืน แล้วรัฐบาลไม่เอาเรื่อง-เอาความ เหมือนสนับสนุนให้คนโกงก่อน

แบบนี้ "สังคมชาติ-สังคมประเทศ" ฉิบหายสถานเดียว

และถ้าสมยอม "ตัดตอนคดี" ก่อนศาลตัดสินแบบนี้ ผลร้าย จะตกกับความน่าเชื่อถือในระบบกฎหมายและระบบศาลของไทย

แต่น่าดีใจอยู่นิด ที่ยังไม่มีการถอนคดี ทั้งที่หน้ากากทองคำบีบให้ถอนทุกวัน

นั่นเพราะคนเป็น "อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ"

เขา "ไม่ยอม"!

เสี่ยเปี๋ยงใช้เงินคืนหลวงเป็นค่าเสียหาย หลวงก็รับไว้ แต่คดีให้เป็นไปตามกระบวนการศาล ศาลฎีกาตัดสินอย่างไร ก็ให้เป็นไปตามนั้น

ก็ไม่รู้อธิบดีจะทนแรงบีบได้ซักเท่าไหร่ นัยว่าทั้งคลัง ทั้งอัยการ คล้อยไปทางว่า "รับเงินแล้วก็ถอน"

ทำไม ๒ หน่วยงานนี้จึงคล้อย คล้อยตามใคร หรือจากแรงบีบใคร รองฯ วิษณุช่วยดูทีเถอะ อย่าต้องถึงให้ท่านนายกฯ ประยุทธ์ลงมาดูเลย

ก็ไม่อยากเห็น "คนถูกกระชากหน้ากาก" นอกจอน่ะ!

ใครล่ะ เป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ "คุณดวงพร รอดพยาธิ์" ใช่มั้ย พวกเราต้องเป็นกำลังใจท่านหน่อย ท่านอย่ายอมตามแรงบีบเขานะ

ตัวอย่างก็เห็นอยู่แล้วมิใช่หรือ............

ทั้งอดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ อดีตรองฯ และอดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ เพราะยอมนักการเมืองยิ่งลักษณ์ ผลเป็นไง เห็นคาตาอยู่

พูดถึงท่านรองฯ วิษณุ อยากเรียนท่านว่า หนังสือ "โลกนี้คือละคร" ที่ท่านเขียน และมติชนพิมพ์จำหน่ายนั้น ผมชอบมากครับ

โดยเฉพาะตอนที่ท่านเขียนว่า.........

วันที่ 30 กันยายน 2545 ท่านนายกฯ เรียกผม (นายกฯ ทักษิณ-เปลว) ไปทำบัญชีรายชื่อคณะรัฐมนตรีใหม่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า

วันนั้นเองที่ท่านได้เริ่มเปรยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกว่า เลขาฯ อย่าอยู่เลย ที่ สลค.อยู่มานานแล้วไม่เบื่อบ้างหรือไง ทำงานซ้ำๆ ซากๆ อยู่ได้ ออกมาหาอะไรใหม่ๆ ทำเถิด.....ฯลฯ.......

ผมถามท่านว่าตกลงจะให้ผมทำอะไรครับ เพราะฟังดูราวกับจะให้ไปช่วยเป็นมัคนายกวัด

ท่านตอบว่ามาเป็นรัฐมนตรีสำนักนายกฯ ผมตกใจและแปลกใจ ถามย้ำอยู่สองสามครั้งว่า ทำไมจึงต้องเป็นผม เป็นความต้องการของท่านหรือใครไปเสนอเข้า ท่านตอบว่าฟังมาจากหลายทาง.........ฯลฯ..........

เวลานั้น บัญชีรายชื่อรัฐมนตรีก็ยังไม่เรียบร้อย ท่านนายกฯ เองก็ไม่ได้คาดคั้นคำตอบ มีแต่คุณหญิงพจมานที่เคยถามผมว่านายกฯ ไปพูดอะไรหรือ ที่จริงคุยกับคุณหญิงแล้วรู้สึกได้ว่า ท่านจะเห็นอกเห็นใจ ถ้อยทีถ้อยเจรจาช่างหว่านล้อมมากกว่าท่านนายกฯ เสียอีก

เช่น บอกว่าคุณวิษณุมาเป็นรัฐมนตรีอย่างเดียว ไม่ต้องเป็นสมาชิกพรรค เวลาเขาเลือกตั้งก็ไม่ต้องลงเลือกตั้งกับเขา เราอยู่เป็นกลางอย่างนี้แหละคอยดึงๆ นายกฯ ไม่ให้เป็นอินทรชิต

ถ้าอยู่ไปไม่สบายใจอะไรให้มาบอกอ้อ รวมทั้งมธุรสพจมานอีกเป็นอันมากฟังแล้วเกิดความเกรงใจมากกว่านายกฯ เสียอีก

มีคนเคยบอกผมว่า คุณหญิงพจมานเป็นคนฉลาด และที่จริงดุมาก ตอนแต่งงานใหม่ๆ คุณทักษิณทั้งกลัวทั้งเกรงใจ เรื่องพวกนี้จริงหรือไม่ผมไม่ทราบ

แต่ถ้าว่าถึงความฉลาดนุ่มนวลแล้วผมว่าจริง!

ถ้าคุณทักษิณได้ความนุ่มนวลอย่างนี้มาสักครึ่ง บางทีลงท้ายจะไม่เป็นอย่างนี้

เมื่อทำบัญชี ครม.ชุดใหม่ต่อในวันรุ่งขึ้น ท่านนายกฯ ได้ย้ำอีกครั้งว่าให้มาร่วมรัฐบาลช่วยงาน 2-3 เรื่อง

ผมได้ยกเอาเรื่องที่คุณหญิงพจมานเอ่ยถึงมาเป็นเงื่อนไข ซึ่งนายกฯ เห็นชอบทุกข้อ แต่ก็มิวายกระเซ้าว่า...ถ้าติดใจแล้วอย่ามาขอผมลงสงขลาก็แล้วกัน

ครับ...ก็ยกมายืนยันว่า ผมเป็นแฟนหนังสือที่ท่านเขียนจริงๆ ยังมีอีกหลายตอนครับ คงได้เก็บมาเล่าอีกหรอก.
 

เตรียมจับตามอง!?!?  ไขให้กระจ่าง จาก คดียักยอก "สมีโย" สู่ "เสี่ยเปี๋ยง" (มีคลิป)

เตรียมจับตามอง!?!?  ไขให้กระจ่าง จาก คดียักยอก "สมีโย" สู่ "เสี่ยเปี๋ยง" (มีคลิป)

เตรียมจับตามอง!?!?  ไขให้กระจ่าง จาก คดียักยอก "สมีโย" สู่ "เสี่ยเปี๋ยง" (มีคลิป)

เตรียมจับตามอง!?!?  ไขให้กระจ่าง จาก คดียักยอก "สมีโย" สู่ "เสี่ยเปี๋ยง" (มีคลิป)

เตรียมจับตามอง!?!?  ไขให้กระจ่าง จาก คดียักยอก "สมีโย" สู่ "เสี่ยเปี๋ยง" (มีคลิป)