“ สันธนะ”ป้องพี่ชาย ยัน“สีหนาท”ทำงานสุจริต ลั่นถ้าเอี่ยวคดี"สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น"จริง พร้อมติดคุกแทนพี่ 40 ปี

         พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล  กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ซึ่งเป็นพี่ชาย ถูกคำสั่งย้ายให้ไปปฎิบัติราชการชั่วคราวที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพราะถูกพาดพิงเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ว่า ตนขอยืนยันว่าพี่ชายทำงานด้วยความสุจริตและโปร่งใส โดยเฉพาะในคดีนี้มีการยึดทรัพย์ที่คิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ก็เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งการที่พี่ชายจะไปช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องในทางที่ไม่ชอบมาพากลนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ที่สำคัญ คำสั่ง ปปง.ที่ 265/2559 ลงวันที่ 28 เม.ย.2559 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฏข่าวการกระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอกและเบียดบังของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ที่ปรากฏในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 120 /2560 นั้นเป็นคำสั่งที่พี่ชายของตนยืนยันว่าเป็นคนตั้งคณะกรรมการสอบเอง ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่มีหน้าที่มาสอบ  แต่หากจะสอบสวน ต้องตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาสอบพี่ชายของตนแทน  

 

 

        พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวอีกว่า พี่ชายของตนเป็นข้าราชการ และทำงานตามกรอบกฎหมายมาตลอด การจะออกมาชี้แจงหรือตั้งข้อสังเกตว่าการถูกตรวจสอบมีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่นั้น คงไม่สามารถทำได้ แต่ตนในฐานะน้องชาย จำเป็นที่จะต้องยืนยันหรือตั้งข้อสังเกตได้ เพราะตนเชื่อมั่นในความสุจริตของพี่ชาย  โดยขอตั้งคำถามไปถึงเลขาธิการปปง.คนปัจจุบันว่า การตรวจสอบพี่ชายของตนมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ ซึ่งตนมีข้อมูลที่เตรียมจะไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในประเด็น คือ 1.มาตรฐานจริยธรรม 2.ขอให้ตรวจสอบธุรกรรม ซึ่งตนมีข้อมูลและจะเปิดเผยรายละเอียดในวันที่ไปยื่นหนังสือดังกล่าวในเร็วๆนี้ ส่วนกรณีที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นำเช็ค ไปไถ่ถอนจำนองที่ดิน เพื่อนำเงินไปคืนแก่ผู้เสียหาย แต่ปรากฏว่านำส่งคืนเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งต่อมามีการนำข้อมูลตัวเลขยอดเงิน มาให้สื่อมวลชนในลักษณะบิดเบือนแบบตรงกันข้าม และกล่าวหาว่ามีการนำเงินมาพักในบัญชีหนึ่งกว่า 40 ล้านบาท รวมถึงพาดพิงถึงปปง.นั้น เรื่องนี้ต้องกลับไปถามกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพราะปปง.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ คนที่ต้องตอบคำถามและรับผิดชอบ  คือ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ซึ่งเคยเป็นคนใกล้ชิดกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ไม่ควรมาโยงเรื่องพาดพิงมาถึง ปปง.

 

 

        "พ.ต.อ.สีหนาทไม่เคยติดต่อหรือรู้จักกับนายหญิง หรืออดีตภรรยานักการเมืองคนดัง ตามข้อกล่าวหาของสื่อมวลชน เราสองพี่น้อง คือโต้งกับต่อ ยังตระหนักและคิดถึงการใช้ชีวิตวัยเด็กช่วงหนึ่งในบ้านย่านสี่แยกเทเวศร์ซึ่งเคยให้ความรัก ความเมตตา และเป็นเบ้าหลอมให้พี่ชายของผมปฏิบัติตัวในกรอบกฎหมายมาตลอด ผมจึงมั่นใจว่าพี่ชายเป็นผู้บริสุทธิ์ ทำงานด้วยความสุจริต และหวังว่าจะมีโอกาสทำงานตามความรู้ความสามารถที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์เพื่อตอบแทนบ้านเมืองต่อไป ผมขอท้าว่าหากพี่ชายทุจริต ให้นำผมไปติดคุกแทนพี่ 40  ปีได้เลย"พ.ต.ท.สันธนะ กล่าว