สิ่งที่พณ.ไม่ควรทำ.. สะพัดเตรียมประมูลข้าวเสื่อมรอบ 3 ควรเคลียร์ปมสองมาตรฐาน รอ “ศาลปกครอง” พิพากษาก่อน

“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคลียร์ชัดประเด็นขายข้าวในสต็อครัฐบาลว่าไม่ได้กีดกันเอกชนรายใด เพียงแต่วางหลักเกณฑ์ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ห้ามขายข้าวให้กับบริษัทที่ติดแบล็คลิสต์-โดนดำเนินคดี

ขณะที่ “ดวงพร รอดพยาธิ์” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นำหนังสือที่อ้างว่าเป็นคำสั่งของ “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กฉัตร” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ตัดสิทธิการเข้าประมูลของบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ไม่ให้เข้าร่วมการประมูลข้าวชนิดที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์
 

 

 

โดยบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ชนะการประมูลครั้งแรก 5 แสนตัน แต่ไม่ได้รับข้าว ครั้งที่ 2 บริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด เข้าร่วมประมูลอีกครั้ง แต่โดนแจ้งว่าถูกตัดสิทธิ์การประมูลไปแล้ว จากคำสั่งของ “บิ๊กตู่” – “บิ๊กฉัตร” โดยคำสั่งดังกล่าวมีต้นต่อมาจากหลักเกณฑ์ในที่ประชุมนบข.ที่วางเอาไว้

โดยในอดีตบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด มีชื่อ “วันชัย ตั้งติพงศ์กูล” เป็นกรรมการของบริษัท และ “วันชัย” เคยเป็นกรรมการในบริษัท ที.เอช.นครหลวง จำกัด และบริษัท ไทยยุโรป ฟีด จำกัด ซึ่งเอกชนทั้ง 2 ราย เป็นผู้กระทำความเสียหายแก่ทางราชการตามโครงการแทรกแซงสินค้าเกษตรภายใต้นโยบายของรัฐบาล

ทว่าปัจจุบันกลุ่มทุนใหม่ได้เข้าเทคโอเวอร์บริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ไปแล้ว จึงเป็นคำถามว่าหากกลุ่มทุนใหม่เข้ามาขอประมูลซื้อข้าวจะสามารถกระทำได้หรือไม่

แต่ประเด็นหลักอยู่ที่ “กรมการค้าต่างประเทศ” กลับปล่อยให้มีบริษัทที่ติดแบล็คลิสต์รายอื่นเข้าร่วมการประมูลได้หน้าตาเฉย แถมมีอยู่อีกหนึ่งบริษัทที่ปรากฏชื่อ “พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ” (หมอโด่ง” อดีตเลขานุการของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท ซึ่ง “หมอโด่ง” กำลังอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี

ทุกคำถามเลยยิงตรงไปที่ “กรมการค้าต่างประเทศ” ว่าการประมูลข้าวในสต็อครัฐบาลครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใสหรือไม่ แม้ “ดวงพร” จะอ้างว่าบริษัทอื่นที่เข้ามาประมูลข้าวได้ทั้งที่ติดแบล็คลิสต์ เพราะ “ลูกน้อง” ตรวจสอบเอกสารแล้วไม่เจอว่าติดแบล็คลิสต์ แต่เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น

หน่ำซ้ำ “ศาลปกครอง” ยังเห็นว่าคำสั่งให้บริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย ประกาศดังกล่าวทำให้บริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ไม่สามารถเข้าเสนอราคาประมูลข้าวรัฐครั้งที่ 2/2560 ได้ จึงคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา

และมีคำสั่งให้ “กรมการค้าต่างประเทศ” ระงับกระบวนการประกวดราคา การเข้าทำสัญญาใดๆ ระหว่างกรมการค้าต่างประเทศ กับเอกชนรายอื่น รวมทั้งการดำเนินการตามสัญญาในการประกวดราคาจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ตามประกาศคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2560 ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

เมื่อ “ศาลปกครอง” เห็นว่าคำสั่งตัดสิทธิ์บริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้ “กรมการค้าต่างประเทศ” ระงับการประมูลข้าวที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ครั้งที่ 2/2560 ทาง “กรมการค้าต่างประเทศ” ก็ควรหยุดรอคำพิพากษาก่อน เพื่อไม่ให้ถูกครางแคลงว่าสองมาตรฐาน

แต่ล่าสุดมีกระแสข่าวมาว่า “กรมการค้าต่างประเทศ” เตรียมจัดประมูลข้าวที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 3/2560 ทำให้ยิ่งถูกสงสัยไปอีกว่าจงใจสองมาตรฐานหรือไม่ หรือจงใจกีดกันบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด หรือไม่

เพราะแว่วมาว่ากลุ่มทุนที่เข้าร่วมประมูลข้าวที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเก่าที่หากินกับ “ข้าว” มานมนาน เห็นบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด เป็นกลุ่มใหม่จึงกลัวจะเสียสัมปทานไป

คนวงการข้าวรู้กันดีว่า “กลุ่มทุนเก่า” มักจะประมูลข้าวเสื่อมสภาพไปขายต่อ หากประมูลได้ในราคาถูกแล้วนำไปขายต่อกับบริษัทที่จะนำข้าวไปแปรรูปจะได้ผลกำไรมาก

 

 

ฉะนั้น “กรมการค้าต่างประเทศ” ควรเคลียร์ประเด็นสองมาตรฐาน ที่ปล่อยให้บริษัทติดแบล็คลิสต์รายอื่น เข้าร่วมประมูลข้าวที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ให้ได้ก่อน และควรรอให้ “ศาลปกครอง” พิพากษาปมคำสั่งตัดสิทธิ์บริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด เสียก่อน

“กรมการค้าต่างประเทศ” ควรเคลียร์และรอเพื่อไม่ให้ “บิ๊กตู่-บิ๊กฉัตร” เสียหายกับคำสั่งตัดสิทธิ์ที่อ้างไป หากฝืนเปิดประมูลครั้งที่ 3 มีหวังพังกันหมด แล้วจะโดนขั้วตรงข้ามนำไปโจมตีทางการเมือง

 

 

///
จันทรา
///