ประธานป.ป.ช.ว่าไง? หลังหลายเสียงจับตา ‘กล้า’ อุทธรณ์คดีพันธมิตรฯ หรือไม่

 เป็นไปตามที่คาดหมายของใครหลายคนว่า ที่สุดจำเลยทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.

และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.น. จะหลุดพ้นข้อกล่าวหา หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องคดีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551

 

 

นั่นเพราะ มีความพยายามล้มคดีนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะทันทีที่ “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ได้รับการสรรหาให้เป็นประธานป.ป.ช.คนใหม่ เพียงไม่กี่วัน พล.ต.อ.พัชรวาท ในฐานะผู้บังคับบัญชาเก่า ได้นำทีมยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ขอให้ถอนฟ้องคดีออกจากศาลฎีกาฯ โดยอ้างว่า มีพยานหลักฐานใหม่

แรกๆ ทำท่าว่า จะถอน แต่เมื่อกระแสสังคมต่อต้านมากมาย ตั้งแต่การรื้อประวัติพล.ต.อ.วัชรพล ที่มีความสัมพันธ์กับ “บ้านวงษ์สุวรรณ”  ตลอดจนการได้รับการผลักดันให้มานั่งตำแหน่งประธานป.ป.ช. ทำให้ที่สุดต้องพับเรื่องเก็บเข้าลิ้นชัก และแม้จะพับเรื่อง ก็มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า ป.ป.ช. ในฐานะโจทก์ ในยุคของ “บิ๊กกุ้ย” จะสู้คดีในศาลฎีกาฯ แบบเต็มที่หรือไม่

 

 เมื่อคำพิพากษาออกมาแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย!อย่างไรก็ดี สิ่งที่พล.ต.อ.วัชรพล จะพิสูจน์ข้อครหาที่ทุกคนตั้งเอาไว้ก็ไม่ใช่ว่า หมดไปแล้ว เพราะตามรัฐธรรมนูญปี 2560   ในมาตรา 195 วรรค 4 บัญญัติให้คู่ความสามารถอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
 

สำหรับเรื่องนี้ป.ป.ช.ในยุคของ “ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ” อดีตประธานป.ป.ช. มีการลุยอย่างเต็มที่ ขนาดอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง ป.ป.ช.ก็หอบสำนวนไปฟ้องเอง เพราะมั่นใจว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 กระทำผิดจริง

 

 

 

เมื่อศาลตัดสินออกมาแบบนี้ ในฐานะโจทก์ย่อมต้องพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่า สำนวนที่ทำมามีความแน่นหนาแล้ว เพราะเรื่องการแพ้คดีถือเป็นเรื่องใหญ่ แล้ว “พล.ต.อ.วัชรพล” หัวเรือใหญ่แห่งป.ป.ช.ว่าอย่างไรเพราะ “การนิ่ง” อาจยิ่งทำให้ข้อครหาทั้งหมดมีน้ำหนัก!

 

 

 

 

////
พันธ์ุศักดิ์ เมืองชัย