- 07 ก.ย. 2560
กอดกันกลมเลยนะ !!!! ประยุทธ์ถกฮุนเซนสุดชื่นมื่น ยันจับมือโตด้วยกันไม่ทิ้งใครข้างหลัง
ประยุทธ์ถกฮุนเซนสุดชื่นมื่น ยันจับมือโตด้วยกันไม่ทิ้งใครข้างหลัง ตั้งเป้าลดความหวาดระแวง ไทยเล็งสร้างรถไฟเชื่อมกัมพูชาถึงพนมเปญ ผู้นำเขมรอ้อนไทยช่วยซื้อสินค้าเกษตร ขยายการค้าการลงทุน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย และ สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงข่าวถึงผลการประชุมร่วม นายกฯและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
โดยสมเด็จฯ ฮุนเซน กล่าวแถลงข่าวว่า แม้ว่าจะมีการเตรียมการระยะสั้นแต่การหารือระหว่างทั้ง 2 ประเทศก็เป็นไปได้ด้วยดี ผลการหารือถือเป็นเข็มทิศชี้ทางสว่างระหว่างไทยกับกัมพูชา เกือบทุกบริบทที่นำมาหารือและเห็นชอบร่วมกัน เราหวังจะเห็นการเชื่อมต่อเรื่องการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศให้มากขึ้นกว่านี้ รวมถึงการขยายช่องทางทั้งทางบก เรือ และอากาศ การเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้มากขึ้น โดยฝ่ายไทยรับปากว่าจะซื้อสินค้าเกษตรของกัมพูชาที่กำลังมีปัญหาให้มากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มมูลค่าการค้าให้มากขึ้นที่ปัจจุบันไทยมีมูลค่าทางการค้าสูงกว่ากัมพูชาถึง 5 เท่า ในส่วนของการเชื่อมต่อตามพรหมแดน ทั้งไทยและกัมพูชาเห็นชอบที่จะเปิดจุดผ่านแดนระหว่างกันอีก 4 จุด เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงไทยจะช่วยในเรื่องการแก้ไขปัยหายาเสพติดตามแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
ด้านพล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณการต้อนรับของกัมพูชาอย่างอบอุ่นหลังจากที่มากัมพูชาล่าสุดเมื่อปี 2557 และกัมพูชาวันนี้เจริญและพัฒนาขึ้นมาก สำหรับหัวข้อในการหารือไทยยินดีจะช่วยเหลือกัมพูชาด้วยการซื้อสินค้าเกษตรให้เพิ่มมากขึ้น ร่วมถึงเร่งรัดคณะกรรมการเจบีซีให้เร่งรัดการเปิดจุดผ่านแดน 4 จุดที่ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนและการค้าขายระหว่างสองประเทศ ในส่วนของการขยายการค้าการลงทุนก็จะเร่งทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ 15,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในปี 2563 รวมถึงการดูแลภาคเอกชนของกัมพูชาให้ได้รับสิทธิประโยชน์และแรงจูงใจในการลงทุน
ขณะเดียวกันก็จะเร่งการลงทุนเส้นทางรถไฟระหว่างไทยถึงกัมพูชา (อรัญประเทศ – ปอยเปต – ศรีโสภณ – พระตะบอง - พนมเปญ กำหนดเสร็จปี 2563 ) ให้เร็วที่สุด เพราะจะเป็นเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์เส้นแรกที่เชื่อมประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมทั้งการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด ทั้งการป้องกัน ปราบปราม และพื้นฟู รวมทั้งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน
“ เราต้องเติบโตไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ช่วยสร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจซึ่งกันและกัน โดยไม่สร้างความหวาดระแวง เพื่อผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันและเป็นธรรมของประชาชนทั้งสองประเทศ” นายกฯสรุป
///////////////////