- 11 ก.ย. 2560
ขยายผลตามจับกุม น.ส.จริยาภรณ์ ได้ที่ถนนตลาดเก้าแสน แยกกระทุ่มแบน ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมยึดของกลาง
จากกรณี น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือภรณ์ หรือน้ำมน อายุ 32 ปี อยู่บ้าน 574 ม.11 ต.ศรีสงคราม อ.วังสะพุง จ.เลย ถูกจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 529/2560 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน,หมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 190/2559 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง,หมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ 417/2560 ลงวันที่ 5 กันยายน2560 คดียักยอกทรัพย์, หมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ 144/2559 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2559 คดีฉ้อโกงทรัพย์และศาลจังหวัดเลย คดีดำที่ 3446/2555 คดีแดงที่1046/2556 หนีประกันศาลคดีฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารราชการ และจับกุม นายกิตติศักดิ์ ตันติวัฒน์กุล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่1294/1 หมู่ 16 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร แฟนคนปัจจุบันของ น.ส.จริยาภรณ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 274/2559 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2559 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
นายกิตติศักดิ์ ถูกจับกุมได้ที่โรงแรมไลค์อินน์ ถนนพุทธมณฑล สาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม ขณะพากิ๊กไปหลับนอน ก่อนขยายผลตามจับกุม น.ส.จริยาภรณ์ ได้ที่ถนนตลาดเก้าแสน แยกกระทุ่มแบน ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมยึดของกลางรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน 4 กจ 4319 กรุงเทพมหานคร รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน 1 ฒถ 1219 ระยอง แอร์ 1 เครื่อง ป้ายทะเบียนรถยนต์ 2 แผ่น บัตรประชาชนของ น.ส.สร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ กุญแจรถยนต์ และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 2 เล่ม
ก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหาย 14 รายเข้าแจ้งความความพนักงานสอบสวนกองปราบปรามว่าได้รู้จักกับ น.ส.จริยาภรณ์ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะพูดคุยตีสนิทในเชิงชู้สาว จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน จากนั้นฝ่ายหญิงได้ชวนแต่งงานและร่วมลงทุนธุรกิจขายผลไม้ รวมทั้งอ้างว่ากำลังตั้งครรภ์ และขอให้ฝ่ายชายจัดงานแต่งงาน แต่ภายหลังกลับเชิดเงินสินสอดจากผู้เสียหายแล้วหลบหนีไปรายละหลายแสนบาท รวมแล้วนับล้านบาท
น.ส.จริยาภรณ์ ได้ให้ข้อมูลกับทีมจับกุมว่าตนเองนั้นประกอบอาชีพค้าขายผลไม้จริง และจากข่าวที่บอกว่าตนหลอกลวงผู้ชาย 14 รายนั้นไม่เป็นความจริง ตนรักชอบพอกับผู้เสียหายและคิดแต่งงานจริงจังแค่ 7 ราย ส่วนที่เหลือยอมรับว่าเป็นการฉ้อโกง โดยคนที่คบหาแต่ละคน และแต่งงานด้วยนั้นก็มีการไปมาหาสู่กันและพูดคุยกัน แต่ละคนมีระยะเวลาที่พูดคุยกันอยู่ ไม่ได้มีเจตนาที่จะล่อลวง หรือมีเจตนาที่จะหลอกลวงใครให้มาแต่งงานและทุกคนยินยอมจะให้เงินกับตน เพื่อทำธุรกิจค้าขายผลไม้ร่วมกัน ส่วนรถกระบะนั้นฝ่ายชายเอามาให้เอง ไม่ได้หลอกลวง เอามาทำธุรกิจรับซื้อผลด้วยกัน
จากเหตุการณ์ข้างต้นหลายคนก็ตั้งคำถามว่า ทางด้าน น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือภรณ์ หรือน้ำมน ทำเสน่ห์ยาแฝดหรือไม่ ถึงทำให้ผู้ชายนับสิบคน ตกลงที่จะแต่งงานด้วย และยอมที่จะมอบทรัพย์สินต่าง ๆ ให้เธอ เป็นจำนวนมาก รวมแล้วหลายล้านบาท ซึ่งล่าสุดได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้ออกมายอมรับว่าที่ผ่านมานั้น ทางด้าน น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือภรณ์ หรือน้ำมน ไม่ได้ทำยาเสน่ห์ แต่อย่างใด แต่ทว่าเธอนั้น เป็นคนพูดจาหวานมาก พูดจาดี ใช้มารยาหญิง ในการหว่านล้อม ในการเจรจา ตนจึงได้หลงในวาจาของเธอ จึงยินยอมที่จะแต่งงานกับเธอ และก็ขอยืนยันอีกครั้งว่า น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือภรณ์ หรือน้ำมน ไม่ได้ทำมนต์ดำ ใส่อย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด