- 13 ต.ค. 2560
เวียดนามวิกฤต !! เขื่อนใหญ่เก็บน้ำไม่อยู่ ปล่อยท่วมทั้งเมือง อพยพ ปชช.กว่า 17,000 ครัวเรือน คร่าแล้ว 37 สูญหายอีก 40 (คลิป)
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกรณี น้ำท่วมในเวียดนามซึ่งเกิดจากพายุดีเปรสชั่นเขตร้อนพัดเข้าถล่มเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ส่งผลให้เขื่อนหลายแห่งถึงกับพังทลายไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 37 ราย และสูญหายอีก 40 ราย โดยพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่บริเวณภาคเหนือและภาคกลางของเวียดนาม ส่งผลให้ทางหลวงสายหลักเป็นอัมพาต การไฟฟ้าเวียดนามต้องให้หยุดเดินเครื่องปั่นไฟทั้ง 6 หน่วยของเขื่อนเซินลา
ขณะที่บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 18,000 แห่งได้รับความเสียหายจากระดับน้ำท่วมสูง และประชาชนอีกมากกว่า 17,000 ครัวเรือนต้องอพยพออกจากพื้นที่ ด้านพื้นที่การเกษตรที่ส่วนใหญ่เป็นไร่นาได้รับความเสียหายมากกว่า 8,000 เฮกเตอร์ และปศุสัตว์ราว 40,000 ตัวถูกกกระแสน้ำเชี่ยวกรากซัดหายไป ด้านสถิติของรัฐบาลเวียดนามระบุน้ำท่วมครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศอย่างน้อย 1,195.2 ล้านบาท
ด้านประเะทศไทย กรมอุตุฯได้ทำการพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีแนวโน้มฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกหรือบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน“ขนุน” (Khanun) แล้ว คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์และลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันนี้ (13 ต.ค.60) ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยโดยตรง
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง
กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย
หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา และบุรีรัมย์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี
อุทัยธานี ชัยนาท และนครสวรรค์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว
ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา และชลบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร
สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง
พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.