ภาพนี้ทำให้น้ำตาไหล..."ก้อย รัชวิน" โพสต์ภาพเด็กน้อยยืนอยู่บนรถทหารชูป้าย"สู้ๆ" ในดินแดนที่เขาว่า"น่ากลัวที่สุด"...เดินทางครั้งนี้

เข้าสู่วันที่ 4 แล้วสำหรับโครงการก้าวคนละก้าวของนักร้องชื่อดัง "ตูน บอดี้สแลม" หรือ นายอาทิวราห์ คงมาลัยโดยได้ออกจากจุดสตาร์ทวิ่งที่ป้ายใต้สุดแดนสยาม ปากอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ในโครงการ "ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" จากเบตง จ.ยะลา ถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย บนระยะทาง 2,191 กิโลเมตรตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. - 25 ธ.ค. โดยเงินบริจาคที่ได้จากกรวิ่งไปช่วยสมทบทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 11 โรงพยาบาล ทั่วประเทศ 

โดยตลอดเส้นทางในทุกๆวันที่ผ่านมา มีทั้งประชาชน คนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุ ลูกเด็กเล็กแดง ออกมาให้กำลังใจพี่ตูนอย่างมากมาย  โดยสำหรับความพร้อมทาง ของ ตูน บอดี้สแลม ขณะนี้ ได้รับการยืนยันจากแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ว่าสุขภาพแข็งแรงพร้อมที่จะออกวิ่งในระยะทางไกล ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังกันเพื่อรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านจราจรตลอดเส้นทาง รวมถึงประสานเจ้าหน้าที่อีโอดีมาตรวจสอบความเรียบร้อยของเส้นทางด้วย

ทุกเส้นทางที่พี่ตูนและคณะวิ่งผ่านก็ได้สร้างรอยยิ้มและภาพความทรงจำที่น่าประทับใจขึ้น ซึ่งบรรดาช่างภาพที่ติดตามไปได้นำมาเผยแพร่ลงบนสื่อและโลกออนไลน์ให้สังคมได้ติดตามรับชมกันไม่ขาดสาย และนอกจากคำบอกเล่าจากช่างภาพแล้วบนเฟซบุ๊กของ ก้อย รัชวิน แฟนสาวของตูน บอดี้สแลมที่ได้ร่วมเดินทางและร่วมวิ่งในโครงการก้าวคนละก้าวเคียงข้างพี่ตูนไม่ห่างก็ได้โพสต์รูปภาพและเล่าเรื่องราวความประทับใจที่ได้พบเจอในระหว่างทาง

ก้อยได้โพสต์รูปภาพเด็กน้อย 4 คนที่ยืนอยู่บนรถทหารพร้อมชูป้ายส่งกำลังใจที่เขียนข้อความสั้นๆว่า "สู้ๆ" แต่เปี่ยมไปด้วยพลังที่สร้างกำลังใจและเรียกน้ำตา อีกทั้งยังเปลี่ยนทัศนคติและความคิดของก้อย รัชวิน ไปตลอดกาล

ภาพนี้ทำให้น้ำตาไหล...
เด็กน้อยยืนอยู่บนรถทหาร 
พร้อมกับชูป้ายเป็นกำลังใจให้พี่ตูน "สู้ๆ" 
สั้นๆแต่กินใจ
มองภาพนี้แล้วคุณเห็นอะไร?
เห็นเด็กน้อยที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญในดินแดนที่คนส่วนใหญ่มองว่าน่ากลัวที่สุดในประเทศ
หรือมองเห็นการเป็นผู้ให้จากเด็กน้อยที่บริสุทธิ์
ไม่ว่าคุณจะเห็นอะไร
การเดินทางมาใต้สุดครั้งนี้ มันเปลี่ยนความคิดก้อยไปตลอดกาล
.
.
ขอบคุณกำลังใจจากเด็กน้อยชาวยะลาทุกคน 
#ก้าวคนละก้าว
#ก้าวคนละก้าวเพื่อ11โรงพยาบาลทั่วประเทศ

 

 

ขอบคุณ Rachwin Wongviriya