“อย่ามั่ว”วิษณุแจงต่อพ.ร.บ.มั่นคง 5 อำเภอไม่เกี่ยวสกัดม็อบต้านโรงไฟฟ้าเทพา ยันต่อมาตลอดทุกปีกฎหมายจะหมดอายุ30พ.ย.นี้ระบุไม่มีใส่ไข่เพิ่มเติม

“อย่ามั่ว”วิษณุแจงต่อพ.ร.บ.มั่นคง 5 อำเภอไม่เกี่ยวสกัดม็อบต้านโรงไฟฟ้าเทพา ยันต่อมาตลอดทุกปีกฎหมายจะหมดอายุ30พ.ย.นี้ระบุไม่มีใส่ไข่เพิ่มเติม

จากกรณีที่รัฐบาลได้ออกประกาศ ให้  4 อำเภอ ในพื้นที่ จ.สงขลา  คือ อ.จะนะ อ.นาทวี อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย และ 1 อำเภอใน จ.ปัตตานี คือ อ.แม่ลาน  เป็นพื้นที่กระทบความมั่นคง  ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2560 ถึง 30 พ.ย. 2561 โดยงานนี้มีการนำไปโยงแบบมั่วๆว่าเป็นการออกกฎหมายเพื่อจัดการควบคุมกลุ่มม็อบที่เดินขบวนค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จนมีการออกมาด่าพล.อ.ประยุทธ์ด่ารัฐบาลกันจนมั่วไปหมด

 

ล่าสุดนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงดังกล่าวได้มีการประกาศอยู่แล้วและมีระยะเวลาในการใช้งาน 1 ปี และจะครบกำหนดวันที่ 30 พ.ย.นี้  เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงมีความจำเป็นต้องต่อเวลาการใช้พ.ร.บ.ดังกล่าวออกไปอีก 

“ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับม็อบอย่าเอาไปโยงกัน  ก่อนหน้านี้เขาก็ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 58 ก็หมด 59 จากนั้นก็มาต่ออีกเพราะอายุมัน 1 ปี  มันไม่เหมือนกฏอัยการศึกที่ต้องต่อทุก 3 เดือน “ รองนายกฯกล่าว

 

 

ต่อข้อถามว่าการต่อพ.ร.บ.มั่นคงออกไปคราวนี้มีการเพิ่มข้อห้ามอะไรพิเศษ เพิ่มเติมหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี ทุกอย่างเหมือนเดิม เป็นการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายเท่านั้น  ไม่มีอะไรแปลกประหลาด 

วานนี้ 28 พ.ย. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีใจความว่า ด้วยสถานการณ์ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี และอำเภอจะนะ อำเภอนาทวีอำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ยังคงปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร ซึ่งปรากฏเห็นชัดในรูปแบบของเหตุการณ์รุนแรง  ทั้งนี้ ห้วงเวลาที่ผ่านมาได้มีการประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นผล ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถแก้ไขและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ระดับหนึ่ง

 

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงาน รวมทั้งการบริหารจัดการรักษาความสงบและความปลอดภัยให้มีเอกภาพและเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ยังคงต้องกำหนดมาตรการป้องกันไว้เช่นเดิม เพื่อมิให้สถานการณ์ขยายตัวลุกลาม หรือหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถแก้ไขปัญหาให้ยุติโดยเร็วโดยไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายใน ราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ดังต่อไปนี้  

1. ให้เขตพื้นที่อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี และอำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

 

2. ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือหน่วยงานภายในที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมอบหมายให้เป็นศูนย์อำนวยการเป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และจัดทำแผนการดำเนินการในการบูรณาการ การกำกับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด

 

3. เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติ การป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ให้บรรดาประกาศ คำสั่ง หรือการดำเนินการใดที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรกำหนดขึ้น หรือการปฏิบัติการใดของศูนย์อำนวยการ หน่วยงาน พนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ใดที่ได้รับมอบหมายจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ซึ่งมีผลใช้บังคับในเขตพื้นที่อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี และอำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ยังคงมีผลใช้บังคับโดยต่อเนื่อง จนกว่าจะมีการกำหนดเป็นอย่างอื่น    ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561  ประกาศ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560  พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
แชร์อย่างมีสติ ไม่งั้นจะตกเป็นเหยื่อ ขยายความขัดแย้งทางการเมืองซะเอง