แหล่งพลุกพล่านทั้งนั้น!!!"ตำรวจ" รวบแก๊งเขมร กรีดกระเป๋าฉกมือถือ ของกลางเพียบ! แผนการทำกันเป็นทีม (มีคลิป)

ตำรวจท่องเที่ยว รวบแก๊งกรีดกระเป๋าชาว กัมพูชา ลงมือห้างดัง ย่านปทุมวัน 
  
       พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. แถลงการจับกุม แก๊งกัมพูชา ที่มีพฤติการณ์กรีดกระเป๋า ประชาชน ตามห้างดัง ย่านปทุมวัน  โดยได้สั่งการ  พ.ต.ต.สมัชญ์  บำรุงชาติ  สว.กก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ต.ธนศักดิ์  สว่างศรี ,พ.ต.ต.ณัฐพล  คนหลัก สว.สส.สน.ปทุมวัน พร้อมด้วย  เจ้าหน้าที่ตำรวจ  งานสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน.สน.ปทุมวัน และ สน.พญาไท ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 6 ราย โดยมีคนไทยร่วมกระบวนการ 1 คน  มี น.ส.วิริยา  สืบชาติ  อายุ 27 ปี  สัญชาติไทย /   น.ส.นิน     ลายนิน  อายุ 28 ปี  สัญชาติกัมพูชา / น.ส.เตือย   เปา  อายุ 17 ปี  สัญชาติกัมพูชา / นายตี       เอียน  อายุ 34 ปี  สัญชาติกัมพูชา / นายอุง ลอง เล็ก  อายุ 29 ปี  สัญชาติกัมพูชา  /น.ส.นา      เปา  อายุ 16 ปี  สัญชาติกัมพูชา

 

แหล่งพลุกพล่านทั้งนั้น!!!"ตำรวจ" รวบแก๊งเขมร กรีดกระเป๋าฉกมือถือ ของกลางเพียบ! แผนการทำกันเป็นทีม (มีคลิป) แหล่งพลุกพล่านทั้งนั้น!!!"ตำรวจ" รวบแก๊งเขมร กรีดกระเป๋าฉกมือถือ ของกลางเพียบ! แผนการทำกันเป็นทีม (มีคลิป)

พร้อมด้วยของกลางคือ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่าง ๆ   รวม  52   เครื่อง 
 โดยแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร และ  หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้ รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด 

  หลังได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ว่า ถูกคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ โดยการล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋า ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบด้วย บก.ทท.1 , 191 , สน.ปทุมวัน และ สน.พญาไท จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวน รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์แผนประทุษกรรม กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ปรากฏพบว่า สถานที่ก่อเหตุบ่อยครั้งคือ บริเวณศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เกิดขึ้นย่าน สยาม มาบุญครอง และประตูน้ำ จึงร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายเรื่อยมา กระทั่งเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2561 ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 6  ราย

      พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 52 เครื่อง มูลค่าโทรศัพท์มือถือที่ตรวจยึดประมาณร่วม 1,000,000 บาท ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติให้การรับว่า ได้หลบหนีเข้ามาและพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักร และร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือตามแหล่งท่องเที่ยวจริง โดยจะแบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งทำหน้าที่ล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สิน โดยอีก 2-3คน ทำหน้าที่เบียดบังไม่ให้ผู้อื่นสังเกตเห็นขณะก่อเหตุ เมื่อได้โทรศัพท์จะนำไปเก็บซุกซ่อนที่ห้องพัก และจะลักลอบนำโทรศัพท์ที่ได้มา เดินทางออกไปขายต่อยังประเทศของตนหรือประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฯ ได้ติดต่อไปยัง ผู้เสียหาย ให้มาตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่ตรวจยึด เพื่อยืนยันของกลางดังกล่าวและดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย  

 

แหล่งพลุกพล่านทั้งนั้น!!!"ตำรวจ" รวบแก๊งเขมร กรีดกระเป๋าฉกมือถือ ของกลางเพียบ! แผนการทำกันเป็นทีม (มีคลิป) แหล่งพลุกพล่านทั้งนั้น!!!"ตำรวจ" รวบแก๊งเขมร กรีดกระเป๋าฉกมือถือ ของกลางเพียบ! แผนการทำกันเป็นทีม (มีคลิป)

แหล่งพลุกพล่านทั้งนั้น!!!"ตำรวจ" รวบแก๊งเขมร กรีดกระเป๋าฉกมือถือ ของกลางเพียบ! แผนการทำกันเป็นทีม (มีคลิป) แหล่งพลุกพล่านทั้งนั้น!!!"ตำรวจ" รวบแก๊งเขมร กรีดกระเป๋าฉกมือถือ ของกลางเพียบ! แผนการทำกันเป็นทีม (มีคลิป)

 

พฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวต่างชาติ หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด แฝงตัวเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ด้วยการล้วงกระเป๋า,กรีดกระเป๋า ตามแหล่งท่องเที่ยว เป็นภัยอาชญากรรมที่ต้องเร่งปราบปรามอย่างต่อเนื่อง   จึงขอความร่วมมือ สื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์การจับกุมคนร้าย ในคดีนี้ ให้ผู้เสียหาย ที่เคยถูกกลุ่มคนร้ายลักทรัพย์ตามสถานที่ดังกล่าวข้างต้น เดินทางมาตรวจสอบของกลางได้ที่ สน.ปทุมวัน เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ต่อไป 

  ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นางสาวนิน เป็นหัวหน้าขบวนการล้วงกระเป๋า ได้ชวนพรรคพวกชาวกัมพูชาอีก 4 คน และชาวไทย 1 คน ให้มาร่วมขบวนการในการก่อเหตุ ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา จะออกไปก่อเหตุเฉพาะวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ซึ่งเลือกเหยื่อเฉพาะเด็ก และผู้หญิง โดยมีการแบ่งหน้าที่กันก่อเหตุ ตามที่ได้มีการซักซ้อมกันมาก่อน ซึ่งให้คนไทยทำหน้าที่ดึงความสนใจของผู้เสียหาย ก่อนอีก 3 คน จะเข้าไปกรีดหรือล้วงกระเป๋า เพื่อขโมยทรัพย์สินของผู้เสียหายภายในห้างสรรพสินค้าดังและตลาดที่มีคนจำนวนมาก ย่านปทุมวัน ซึ่งการก่อเหตุแต่ละครั้ง จะได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ 40-50 เครื่อง ก่อนจะนำกลับไปขายที่ประเทศกัมพูชา เครื่องละ 3000-5000 บาท ทำมานานกว่า 5 ปี
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัตินางสาวนิน พบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว และถูกจับกุมดำเนินคดี แต่ระหว่างการขอประกันตัวชั่วคราวในชั้นศาล ได้หลบหนีกลับไปประเทศกัมพูชา แล้วกลับเข้ามาในประเทศไทย เพื่อก่อเหตุซ้ำอีก

    ทั้งนี้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จะดำเนินการเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันกลุ่มชาวต่างชาติ เข้ามาก่อเหตุล้วงหรือกรีดกระเป๋าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ เพื่อให้ประชาชนออกมาเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างมีความสุข แต่อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงประชาชนที่จะออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ตามสถานที่ต่างๆ ช่วยกันระมัดระวังทรัพย์สินมีค่าของตนเอง พร้อมขอให้ประชาชน ช่วยเป็นหูเป็นตาหากพบเหตุร้ายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที