- 28 ส.ค. 2561
งานนี้ไม่จบง่ายๆ ฝั่ง"ทนายตั้ม"ซัดกลับ จัดหนัก "อัจฉริยะ" หลังเปิดศึก หมดศรัทธา (รายละเอียด)
วันที่ 28 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานศาลจังหวัดมีนบุรี นัดคำพิพากษาคดี นางสาวอาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ นางเอกสาวลูกครึ่งไทย-ฮอลแลนด์จากละครดังเรื่องธิดาวานร และนายปุณยวัจน์ หรือพล หิรัณย์เตชะ อายุ 41 ปี ผู้จัดการผับดังย่านถนนเทพารักษ์ แฟนหนุ่ม ในข้อหาเสพยาเสพติด และร่วมกันมียาไอซ์และยาอีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังถูกตำรวจจับกุมได้ที่บ้านพักย่านสายไหม เมื่อวันที่19 กันยายน 2560
โดยศาลพิพากษาจำคุกนายปุณยวัจน์ ตลอดชีวิต ปรับ 2 ล้าน 5 แสนบาท แต่จำเลยรีบสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง จำคุก 25 ปี. 4 เดือน 15 วัน ปรับ 750,000 บาท ส่วนเอมี่คดีเสพยาจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท รับสารภาพคงจำคุก 3 เดือนปรับ 5พันบาท ส่วนคดีร่วมกันครอบครองยาเสพติดศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพิเคราะห์แล้วว่า คำให้การของโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานยืนยันได้ว่านางสาวอาเมเรีย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ซึ่งโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี โดยให้คุมประพฤติรายงานตัวทุก 3 เดือน เป็นเวลา 1 ปี โดยให้ตรวจหาสารเสพติดทุกครั้งที่ไปรายงานตัว และให้บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง
ขณะที่ครอบครัวของเอมี่ ยอมรับว่า รู้สึกดีใจที่ลูกสาวได้ปล่อยตัว ซึ่งหลังจากนี้จะดูแลลูกอย่างใกล้ชิดไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติดอีก
ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความของเอมี่ ระบุว่า เอมี่เป็นเพียงผู้เสพที่ต้องเข้ารับการบำบัด และขอบคุณที่ศาลได้โปรดเมตตาเอมี่ ซึ่ง หลังจากนี้ครอบครัวเอ็มมี่จะเดินทางไปรับตัว เอมมี่กลับบ้าน ก่อนจะแถลงข่าวอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เวลา 10:00 น. ที่สำนักงาน ทีมงานทนายประชาชนจังหวัดสมุทรสาคร
"วันนี้ตนได้คุยกับน.ส.อาเมเรีย และถามว่า ออกมาจะทำอะไร ซึ่งน.ส.อาเมเรียก็บอกกับตนว่า จะออกมาทำงานช่วยเหลือสังคม จะมาช่วยมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพราะทางเรามีโครงการสอนน้องๆ สถานที่ต่างๆทั่วประเทศ ซึ่ง น.ส.อาเมเรียก็ได้ขอเป็นวิทยากรเกี่ยวกับยาเสพติด" ทนายตั้ม กล่าว
นอกจากนี้บนเฟซบุ๊กของทนายตั้มได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวระบุ ศาลจังหวัดมีนบุรี ยกฟ้อง!! เอมี่ อาเมเรีย จาคอป(ธิดาวานร) ข้อหาครอบครองยาไอซ์ 70 กรัม เพื่อจำหน่าย คงจำคุก 3 เดือนแต่รอลงอาญาข้อหาเสพยาเสพติดเท่านั้น พรุ่งนี้เวลา 10.00 น. เอมี่จะแถลงเปิดใจบทเรียนราคาแพง ต้องสิ้นอิสระภาพ 11 เดือนในเรือนจำ ที่มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ จ.สมุทรสาครครับ
ล่าสุด อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม" โดยมีเนื้อหาดังนี้
หมดศรัทธา
นับวันที่เห็นการทำงานของคนรูปหล่อในฐานะนักกฏหมาย พบว่าเขาลืมอุดมการณ์ในการทำงานเพื่อประชาชน มีหลายคดีที่ทางชมรมฯ ต้องรับเรื่องร้องเรียนของเหยื่ออาชญากรรมของนักกฏหมายคนนี้ โดยล่าสุดได้มาระบายความทุกข์ทรมานใจที่ต้องกลายเป็นคนพิการจากการถูกยิง แต่นักกฏหมายหนุ่มกลับรับจ้างทำคดีช่วยโจรที่ยิงพวกของหนุ่มพิการเสียชีวิต 2 คน ส่วนหนุ่มคนนี้ต้องกลายเป็นคนพิการ
นอกจากนี้ยังรับงานคดียาเสพติด ช่วยคนที่ค้ายาหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนี้หรือเน็ตไอดอลของประชาชน สิ่งที่ผมเห็นคือการกระทำที่ไม่ต่างอะไรกับนักกฏหมายที่รับจ้างโดยเห็นแก่เงินไม่มีอุดมการณ์เหมือนที่เคยพูดกับผม วันนี้สิ่งที่ผมสงสัยและเคยนับถือยกย่องมันหมดไปแล้วจากใจของผม เพราะศรัทธาคนเราไม่ได้อยู่ที่เงินมันอยู่ที่คุณธรรมมากกว่า ที่สำคัญของจริงของปลอมวันหนึ่งทุกคนจะเห็นเอง แต่สำหรับผมวันนี้สิ้นศรัทธา
โดยทนายตั้ม ได้ตอกกลับข้อความดังกล่าวว่า
โบราณว่าไว้ “ดีได้แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย”
บางคนสร้างดราม่า กล่าวหาคนนู้นคนนี้ข่มขืน กล่าวหาโรงพยาบาล กล่าวหาตำรวจรับเงิน ผมยังไม่เคยไปยุ่งเล้ย ก็ดีเหมือนกันเปิดหน้าออกมามัวไปสิงอยู่ในกลุ่มดาร์ค ใส่ร้ายผมมานานแล้ว “มินแว่น”
ทางด้าน นายอัจฉริยะ ได้โพสต์สวนกลับอีกโพสต์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ชมรมไม่ต้องเป็นอีแอบลูกผู้ชายเต็มร้อยไม่ต้องเกาะกระโปรงผู้หญิงครับ
Cr.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม // ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ