- 19 ก.พ. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่ารถเบนซ์ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นรถผิดกฎหมาย
พร้อมกับเปิดเผยรายชื่อของตัวละครสำคัญที่คาดว่าน่าจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด ฐานกระทำผิดกฎหมายตามข้อกล่าวต่างๆนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนเราจะได้ย้อนมาพิจารณาว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ว่านั้นมีใครบ้าง
1.หลวงพี่แป๊ะ ก็คือพระมหาศาสนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งเป็นผู้ที่ไปติดต่อให้อู่แห่งหนึ่งทำการประกอบรถยนต์
2.นายวิชาญ รัษฐปานะ เจ้าของอู่รถโบราณวิชาญ ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ประกอบรถยนต์คันดังกล่าวขึ้น
3.นายชลัช นิติฐิติวงษ์ เป็นผู้ที่นำเอาเอกสารไปชำระภาษีสรรพสามิต แต่ได้มีการปลอมลายเซนต์ ของนางกาญจนา มากเหมือน เจ้าของ อู่ N.P.การาจ
4.นายสมนึก บุญประไพ ที่ได้รับการว่าจ้างจากนายชลัชให้นำรถไปจดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกและได้มีการปลอมลายเซนต์ของนางกาญจนาก่อนจะทำการโอนลอยไปให้กับสมเด็จช่วง
5.ผู้ครอบครองรถ ก็คือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ
และจากพฤติการณ์ทั้งหมดของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ก็คาดกันว่าจะถูกดำเนินคดีมากกว่า 10 ข้อหาเลยทีเดียว
ทั้งนี้ จากข้อเท็จจริงทั้งหมดผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและจดประกอบรถคันดังกล่าว ต้องถูกดำเนินคดีไม่น้อยกว่า 10 ข้อหา ประกอบด้วย
1.ร่วมกันหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร
2.ร่วมกันซ่อนเร้น จำหน่าย เอาไปเสีย ซื้อหรือรับไว้โดยประการใด ทั้งที่รู้ว่าเป็นของที่นำเข้าในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร
3.ร่วมกันขายหรือมีไว้เพื่อขายสินค้า ซึ่งรู้ว่ามิได้เสียภาษี
4.ครอบครองซึ่งสินค้าโดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน
5.แจ้งข้อความเป็นเท็จ ตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ นำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง
6.ร่วมกันทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต
7.ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน
8.ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ
9.ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม
10.ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร
12.พ.ร.ก.พิกัดอัตราศุลกากร
13.พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต
14.พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
15และกฎหมายอาญา มาตรา 137, 267, 264, 265 และ 268
แหล่งข่าวจากดีเอสไอเปิดเผยว่า ล่าสุด พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สั่งโอนสำนวนการสอบสวนคดีรถเบนซ์คลาสสิกเลี่ยงภาษีของสมเด็จช่วง จากเดิมที่สำนวนชั้นสืบสวนอยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ให้ไปอยู่ในความรับผิดชอบของพ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจน นิรันดร์กิจ ผบ.สำนักคดีภาษีอากร
เนื่องจากคดีนี้มีความผิดหลักจากการหลบเลี่ยงภาษี โดยสำแดงราคานำเข้า 1,665 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 51,399.72 บาท ชำระอากรขาเข้า 41,119.78 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 6,476.37 บาท รวมภาษีที่ จ่ายไว้ 298,396.15 บาท ขณะที่ราคาประเมินของรถดังอยู่ที่ 6-8 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,852,242 บาท มีอัตราภาษีจริง 3,548,895.07 บาท จึงมีส่วนต่างของภาษีขาดอยู่ 3,250,498.92 บาท
ในส่วนของใบขนสินค้าจากสหรัฐพบพิรุธว่าเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด เพราะตามปกติจะใช้เวลาเดินเรือจากสหรัฐมายังสิงคโปร์ 24-27 วัน ก่อนจะใช้เวลาอีก 3 วัน เพื่อส่งต่อมายังท่าเรือกรุงเทพฯ รวมเวลา 27-30 วัน แต่กรณีรถเบนซ์คันนี้ตามใบขนที่นำมาสำแดงใช้เวลาเดินเรือเพียง 18 วันเท่านั้น
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ของตัวละครทั้งหมดก็จะพบว่า จุดเริ่มต้นนั้นเกิดมาจากการไปติดต่ออู่รถจดประกอบโดยพระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ
เพราะฉะนั้นก็ต้องมาตามแกะรอยดูกันล่ะว่าหลวงพี่แป๊ะจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ และดีเอสไอจะสามารถขยายผลไปสู่การเอาผิดสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ด้วยหรือไม่
การจดประกอบชิ้นส่วนขึ้นเป็นรถสมบูรณ์ พบหลักฐานว่า หจก.อ๊อด 89 ได้ร่วมกับอู่วิชาญ (นายวิชาญ รัษฐปานะ) เป็นผู้ประกอบรถยนต์จากเครื่องยนต์และตัวถัง พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบโดยเป็นไปตามการสั่งซื้อของพระมหาศาสนมุนี (ธนกิจ ศรีอุ่นเรือน) หรือหลวงพี่แป๊ะ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ในราคา 4 ล้านบาท โดย หจก.อ๊อด รับเงินไป 2.5 ล้านบาท ส่วนอู่วิชาญได้รับเงินค่าประกอบ 1.5 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนนี้พบความผิดประกอบรถโดยไม่มีใบอนุญาต ไม่มีวิศวกรตรวจสอบ มีการปลอมเอกสารโดยใช้ชื่ออู่ N.P.การาจ ไปใช้ยื่นชำระภาษีสรรพสามิต
สำหรับพระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ หรือพระธนกิจ สุภาโว (ศรีอุ่นเรือน) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ และเป็นเลขานุการสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ โดยได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์จากพระครูพิทักษ์วรานุรักษ์ ในเดือนธันวาคม 2554 ภายหลังรถเบนซ์ดังกล่าวจดทะเบียนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โพสต์ข้อความทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ถึงกรณี พระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ หรือพระธนกิจ สุภาโว (ศรีอุ่นเรือน)ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ที่มีชื่อพัวพันอยู่ในคดี รถยนต์โบราณ ดังนี้ โนเนม สู่ แบรนด์เนม
เคยเห็นหน้าแต่ตอนประคองสมเด็จวัดปากน้ำไปไหนต่อไหน นึกว่าแค่พระรับใช้ ต่อมาได้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง พ่วงเจ้าคุณชั้นสามัญ ปีนั้น ป.9 วัดปากน้ำ อกหักกันเป็นแถวๆ ต่อมาพระมหาศาสนมุนี ติดดีกรีเป็นถึง "กรรมการหมู่บ้านศีลห้า" ซึ่งถือว่าเป็นโครงการใหญ่ระดับประวัติศาสตร์ เดินสายให้โอวาทเป็นว่าเล่น เห็นว่าจ่อติด "ชั้นราช" ปลายปีนี้ ถ้า..สมเด็จวัดปากน้ำได้ขึ้นเป็นสังฆราช "ตุ๊แป๊ะ" ก็คือ..เลขาส่วนตัว ของสมเด็จพระสังฆราช อันเป็นตำแหน่งเดียวกับ "ป๋าเหนาะ" แห่งภูเขาทอง
แต่แล้วสวรรค์ก็พังครืน เมื่อดีเอสไอเผยชื่อ "หลวงพี่แป๊ะ" เป็นผู้สั่งซื้อรถเบนซ์โบราณเจ้าปัญหา ในราคา 4 ล้าน ถวายสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพื่อตั้งโชว์ไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดปากน้ำ
งานนี้ส่งผลให้ "ตุ๊แป๊ะ" โด่งดังขึ้นมาทันที
1. ในฐานะพระโนเนม แต่มาแรงแซงพระดังที่ยึดข่าวหน้าหนึ่งหน้าสองอยู่หลายรูป เช่น เจ้าคุณประสาร เจ้าคุณเบอร์ลิน เป็นต้น และ
2. ในฐานะ "จำเลย" หมายเลข 1 ในคดีรถเบนซ์โบราณของสมเด็จช่วง
เซียนพระดูน้ำดูเนื้อแล้ว งานนี้เห็นที "ตุ๊แป๊ะ" ต้องยอม "สละชีพเพื่อชาติ" ยอมตายเพื่อเจ้านาย ยอมรับข้อหาทั้งปวง เพื่อหลวงพ่อที่เคารพ ตามหลักการ "สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต" เพราะถ้ารูปคดีพัวพันถึงหลวงพ่อสมเด็จฯ ก็เสร็จกันทั้งวัดปากน้ำ หมากสำคัญของคดีรถหรู จึงอยู่ที่..ป ปลา ดังนั้น ถ้าท่านแป๊ะ เสียสละ ก็จะกลายเป็น เดอะฮีโร่ !
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของสำนักข่าวทีนิวส์ จากข้อมูลในเวปไซต์ alittlebuddha.com พบว่ามีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลวงพี่แป๊ะและ ความสัมพันธุ์ระหว่างวัดปากน้ำภาษีเจริญและวัดธรรมกาย เป็นจำนวนมาก
พระมหาศาสนมุนี พระโนเนม จากเด็กถือย่ามตามก้นสมเด็จวัดปากน้ำ วันนี้ พาสชั้นขึ้นเป็น "กรรมการโครงการหมู่บ้านศีลห้าระดับประเทศ" สามารถ "คุมวัดปากน้ำ" ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ถึงขนาด "ออกงานเปิดป้ายสำนักงานหมู่บ้านศีลห้า" ในวัดปากน้ำเสียเอง ก็ไม่รู้ว่า นอกจากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์แล้ว วัดปากน้ำคงไม่มีพระเถรานุเถระผู้มีอายุพรรษา วิทยฐานะ และตำแหน่งแห่งหนอื่นๆ อีกแล้ว ถึงได้ปล่อยให้ให้ "พระมหาศาสนมุนี " ออกหน้า เสมือนเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำเสียเอง งานนี้ก็ชี้ชัดว่า "แค่ในวัดปากน้ำเองยังไม่สมานฉันท์กันเลย" ทุกคนต่างโบ้ยออกนอกตัว ไม่มีใครช่วยงานสมเด็จ โยนให้พระมหาศาสนมุนี ทำคนเดียว ทั้งๆ ที่คุยแล้วคุยอีกว่า เป็นโครงการของสมเด็จฯและรัฐบาล เป็นโครงการแห่งชาติ โครงการนี้แหละที่จะ "รื้อโครงสร้างการบริหาร" ภายในวัดปากน้ำอย่างพลิกแผ่นดิน
ทำเนียบพระราชาคณะวัดปากน้ำ
1. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ.9) เจ้าอาวาส ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
2. พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ ป.ธ.9) รองเจ้าอาวาส เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม
3. พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เจ้าคณะภาค 5 แม่กองบาลี กรรมการมหาเถรสมาคม
4. พระธรรมรัตนากร (สงัด อํสุมาลี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
5. พระเทพปริยัติวงศ์ (พาย ภทฺทโก) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
6. พระเทพวรเวที (บุญศรี ปุญฺญสิริ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
7. พระราชสุตาภร์ (ประชัน ฐิตปญฺโญ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
8. พระราชมังคลาจารย์ (พุ่ม อคฺคธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
9. พระปริยัติกวี (สุบิน ธีรวํโส ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
10. พระปิฎกโกศล (นิกร มโนกโร ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
11. พระศรีคัมภีรญาณ (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
12. พระศาสนานุรักษ์ (ทรงเกียรติ ปุณฺฑริโก) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
13. พระวิเชียรกวี (วิศิษฏ์ ทสฺสนีโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
14. พระมหาศาสนมุนี (ธนกิจ สุภาโว) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
15. พระวิเทศโพธิคุณ (ผดุงพงษ์ สุวํโส) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
16. พระศาสนพิลาส (ไพรัตน์ ฐิตเปโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
17. พระปิฎกเมธี (ทองดี ปญฺญาวชิโร ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
18. พระวิเทศธรรมมงคล (น้อม กาญจนรํสี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
19. พระมหาสิทธิวิเทศ (สิทธิผล สิทฺธิผโล) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
จำนวนพระภิกษุสามเณร วัดปากน้ำภาษีเจริญ
พระภิกษุ 243 รูป
สามเณร 59 องค์
แม่ชี 127 ท่าน
ต่อจากนี้สำนักข่าวทีนิวส์จะตามแกะรอยทุกตัวละครที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มานำเสนอให้กับคุณผู้ชมได้รับทราบกันต่อไป






