"สนธิญาณ" ชี้! พล.อ.ไพบูลย์ ผลงานเด่น ปชช.ชื่นชมเป็นที่ 2 รองจาก. นายกฯ ปรับ ครม.จับตาคนมาแทน?

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 7 ธันวาคม 2559 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง)  ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย)  กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ยุคล : วันนี้คุณสนธิญาณจะมาพูดเรื่องเมื่อวานนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งองคมนตรี 10 ท่าน

 

สนธิญาณ : เมื่อวานนับเป็นข่าวดีและเป็นความปลื้มปิติของคนไทยทุกคนอีกวันหนึ่ง เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งองคมนตรี 10 ท่านด้วยกัน ซึ่งทั้ง 10 ท่านที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมนี้ จำนวนหนึ่งเป็นคนเก่าอีกจำนวนหนึ่งเป็นคนใหม่ แน่นอนครับคนเก่าคือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์, นายแพทย์เกษม วัฒนชัย, นายพลากร สุวรรณรัฐ และนายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ เป็นต้น ส่วนคนใหม่ 3 ท่านคือ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ, พล.อ.ธีรชัย นาควานิช และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา 3 ท่านหลังเป็นนายทหารและเป็นคณะ คสช. ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ชัดเจนที่มีความไว้วางพระราชหฤทัยในนายทหารที่เป็น คสช. และเป็นตัวแทนจากรัฐบาล 2 ท่านอดีตเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นหนึ่งในคณะ คสช. ที่ร่วมเป็นร่วมตายมากับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกท่านหนึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบกที่ทุกคนยอมรับในฝีมือและเห็นในความเข้มแข็งซื่อตรงและจงรักภักดี ใน 3 ท่านนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หรือเรียกว่าเป็นฝ่ายบู๊ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่ได้สร้างผลงานในแง่ของการปราบปรามทุจริตจัดการกับคนที่มุ่งร้ายทำลายสถาบันฯ กระทำความผิดตามมาตรา 112 เข้มแข็งเด็ดขาด ตรงไปตรงมา ไม่มีหน้าไม่มีหลัง เป็นที่ยอมรับสามารถพูดได้ทีเดียวครับว่าเป็นเบอร์ 2 ทางด้านความนิยมของประชาชนในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สิ่งนี้ผมกล้าพูดว่าสิ่งที่ผมพูดไม่ผิด ความรู้สึกของท่านผู้ชม ความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศรู้สึกอย่างไร ดังนั้นการได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้แน่นอนครับ ถือเป็นเกียรติต่อชีวิตตัวเอง และต่อวงศ์ตระกูล ความแตกต่างของคณะองคมนตรีชุดนี้กับชุดที่ผ่านมานั้น แตกต่างกันตรงชุดที่ผ่านมา เป็นชุดที่สืบเนื่องต่อเนื่องยาวนานมาโดยตลอดจากการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แต่สำหรับคณะองคมนตรีชุดนี้ต้องเรียนว่า เป็นการเริ่มต้นแผ่นดินใหม่ที่จะต้องถวายงานรับใช้อย่างมากมายมหาศาล แม้พระองค์ท่านจะตั้งพระทัยสืบสานปณิธานของสมเด็จพระราชบิดาก็ตาม แต่นี่คือการเริ่มต้นใหม่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และผู้รอบรู้จากคณะองคมนตรีชุดเก่าซึ่งได้ถวายการรับใช้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาอย่างยาวนานอยู่แล้ว ประเด็นที่ต้องมาจับตาดูกันในตอนนี้ก็คือทางฟากฝั่งรัฐบาล ฟากฝั่งรัฐบาลจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ประเด็นตอนนี้ที่เราต้องจับตากันก็คือ จะเป็นการปรับใหญ่หรือปรับย่อย แต่เดิมมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งรัฐมนตรีไม่เต็มนะครับ ว่างเพิ่มขึ้นอีก 2 ตำแหน่ง จึงถือโอกาสในการปรับเปลี่ยนอีกซักครั้งไหม หรือจะแค่ตั้งเสริมเข้าไปเพียงแค่แทน 2 ท่าน ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญด้วย 1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งถือว่าเป็นบทบาทและภาระหน้าที่อันสำคัญเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ตอนนี้ก็หมายความว่าลุ้นกัน คนที่ลุ้นก็คือทางฟากฝั่งประชาชนครับ ว่าพล.อ.ประยุทธ์จะหาใครมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ถูกจับตาเท่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรอกครับ เนื่องจากผลงานอันโดดเด่นของ พล.อ.ไพบูลย์ เพราะฉะนั้นตัวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่มาใหม่ แน่นอนจะกล้าหาญจะซื่อสัตย์ ซื่อตรง จะกล้าทำงาน จะกล้าเดินหน้า ฟาดฟันกับผู้ที่กระทำความผิดทั้งหลาย จะรักษากระบวนการยุติธรรมขั้นต้นได้อย่างที่ พล.อ.ไพบูลย์เคยทำหรือไม่นี่ก็เป็นงานหนักที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องคิดหนักและผมคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ ส่วนจะเป็นใครก็มีข่าวเล่าลือกันพอสมควร ณ นาทีนี้ ผมต้องขออุบไว้ก่อน แล้วพรุ่งนี้จะมาขยายความ จะมาเพิ่มเติมให้ฟังครับว่า แนวโน้มการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างไร เดี๋ยวหาข่าวมาเพิ่มเติมแล้วมารายงานกับท่านผู้ชมต่อ