"สนธิญาณ" วอน! "พระธัมมชโย" ถ้าเป็นพระในพุทธศาสนา ต้องมอบตัว เพราะต้องเชื่อในกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นสัมมาทิฐิ!!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง)  ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย)  กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : ตอนนี้ต้องเรียกว่าร้อนเสียยิ่งกว่าร้อนนะครับ ร้อนไม่ใช่อยู่ที่สถานการณ์ แต่ความร้อนอยู่ที่ใจคน ฟากฝั่งของผู้ที่อยากจะให้วัดพระธรรมกายหรือพระธัมมชโยเดินเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายก็ร้อนจวบจนเจ้าหน้าที่รัฐ ว่าเมื่อไหร่จะดำเนินการสักที ปล่อยให้เป็นรัฐอิสระอยู่ได้ ฟากฝั่งลูกศิษย์วัดพระธรรมกายก็ร้อนเช่นกันว่า ทำไมมารังแกหลวงพ่อซึ่งถือเป็นที่รักที่เคารพสูงสุดของบรรดาลูกศิษย์ ความร้อนอยู่ที่ตรงนี้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำตามกฎหมาย ไม่ทำก็ไม่รู้จะกินเงินเดือนไปทำไมเมื่อมีการกระทำความผิดกฎหมายและที่สำคัญอาจจะเข้าข่ายการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งหนักเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นสถานการณ์นำพามาถึงจุดนี้แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐอย่างไรก็ต้องดำเนินการ ลูกศิษย์วัดและพระในวัดเมื่อพระธัมมชโยไม่ยอมมอบตัวก็ต้องขัดขวางกันสุดฤทธิ์ไม่มีทางที่จะมอบตัวหรือไม่มีทางที่จะยินยอม เจ้าหน้าที่รัฐก็รับทราบสถานการณ์นี้ดี ไม่ทำอะไรก็แสดงว่าที่วัดพระธรรมกายก็จะเป็นเหมือนรัฐอิสระต่อไปและผู้ที่กระทำความผิดกฎอยู่นอกเหนือกฎหมาย ส่วนจะผิดจริงไม่จริงไม่ได้หมายความว่าพระธัมมชโยผิดนะครับ หลักการไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะหลักการของกระบวนการยุติธรรมให้ถือว่าผู้ต้องหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ถ้ามีหลักฐานและเข้าเกณฑ์ทางกฎหมายนี่ต้องชัดเจนว่าจะต้องเข้าไปพิสูจน์กระบวนการยุติธรรม เขาถึงทำกระบวนการยุติธรรมไว้ 4 - 5 ขั้นตอน แต่ท่านไม่ยอม ท่านใช้สิทธิ์อะไรในการไม่ยอมก็ไม่มี แต่เพราะท่านมีอำนาจเหนือมวลชน มีผู้คนเคารพศรัทธา เหมือนสมัยโบราณมีกบฏผีบุญ แต่เราจะไปรื้อข้อมูลเหล่านี้มาให้ดู ตั้งตัวเป็นผู้วิเศษแล้วเอาหลักของพระศาสนามาทำให้คนช่วย ส่วนพระธัมมชโยท่านจะตั้งตัวเป็นผู้วิเศษด้วยหรือไม่นั่นก็แล้วแต่จะไปตีความกันไป ฉะนั้นมาดูวันนี้เจ้าหน้าที่รัฐเอาจริงไหม หลายคนก็บอกว่าเบื่อหน่ายเจ้าหน้าที่รัฐเหลือเกิน ผมต้องเรียนนะครับว่าต้องเห็นใจและเข้าใจทุกคนอยากให้เรื่องจบลงไปด้วยดี ไม่มีใครบอกว่าไม่อยากทำ เขาอยากให้จบแต่ทำไม่ได้เพราะถ้าเกิดทำไปแล้วเกิดการกระทบรุนแรง จะเกิดผลเสียหายต่อประเทศ ส่วนวัดพระธรรมกายและลูกศิษย์วันนี้ผมก็คิดว่าแรงมากกเกินไป ฟังผมพูดแบบนี้แล้วจะบอกว่า ทีนิวส์เหมือนศัตรู ไม่มีหรอกครับ อันที่จริงเรารายงานข้อเท็จจริงตลอด เว้นแต่เมื่อวานเอาอะไรไปบิดเบือน ไปเที่ยวตัดต่อใส่ร้ายทีนิวส์ก็ว่ากันไป ยกตัวอย่างนะครับเมื่อวานการแถลงข่าวดูหัวข้อนะครับ ที่อำนาจรัฐต้องไประงับเพราะอะไร คณะองค์กรผู้นำชาวพุทธได้จัดงานแถลงข่าว หัวข้อว่า "การแก้วิกฤตของพระพุทธศาสนาเพื่อความรักสามัคคี ในสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐอาจมีความพยายามใช้มาตรการทางกฎหมาย และความรุนแรงต่อพระสงฆ์ ชาวพุทธ รวมถึงในวัดพระพุทธศาสนา" นี่ชัดเจนครับ ไม่ใส่ชื่อวัดพระธรรมกายก็หมายถึงวัดพระธรรมกาย ไม่ใส่ชื่อพระธัมมชโยก็หมายถึงพระธัมมชโย ไม่ต้องตีความเป็นอย่างอื่นเลย พยายามที่จะแถลงปลุกเร้าต่อต้าน อำนาจรัฐเขายอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ครับ เพราะนั่นเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมายอยู่ในกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ไม่เพียงเท่านั้นวันนี้ที่รุนแรงมากก็เพราะมีลูกสิทธิ์วัดพระธรรมกายจะร่วมถึงผู้บริหารในวัดด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่ความพยายามในการขยายข่าวว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์และเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเครื่องมือของศาสนาอิสลาม ต้องการที่จะทำลายศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลามจะแผ่ขยายความเชื่อไปทุกจังหวัด และต้องการจะยึดเอาวัดพระธรรมกายมาทำเป็นมัสยิดกลาง ดูสิครับใครที่ทำแบบนี้ ผมเรียนว่าเลว ต้องย้ำแบบนี้ครับ ยิ่งถ้าเป็นคนที่อยู่กับพระพุทธศาสนามีการปฏิบัติธรรม มีการฝึกสติอยู่ตลอดเวลาทำแบบนี้ไม่ได้ เอาความรักความหลงที่มีมาทำลายชาติ มาทำลายความแตกแยก ทำลายความเป็นมนุษย์ที่มีต่อกัน คนอื่นจะคิดอย่างไรศาสนาอื่นจะคิดอย่างไรไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญของศาสนาพุทธที่สอนเป็นหลักคือความเมตตา พรหมวิหาร 4 คือธรรมอันเป็นสาระที่ชาวพุทธทั้งหลายต้องตระหนักไม่มี กฎอันสำคัญที่คนในพระพุทธศาสนาจะต้องยอมรับมิเช่นนั้นจะเป็นมิจฉาทิฐิ คือการยอมรับในกฎแห่งกรรม พระธัมมชโยไม่ยอมรับกฎแห่งกรรมนี่คือมิจฉาทิฐิ ไม่ใช่สัมมาทิฐิ ผมไม่เคยกล่าวหาท่านเลยนะครับ แต่ผู้ที่เป็นมิจฉาทิฐิ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนานั่นคือไม่เชื่อกฎแห่งกรรมไม่ได้หรอกครับ ผิดเป็นพื้นฐานแล้ว ทำไมผมถึงกล่าวว่าท่านไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ผลอย่างใดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับท่านในปัจจุบันล้วนเป็นกรรม แม้ไม่เคยทำในปัจจุบันก็เคยทำมาแล้วในอดีตชาติ ยิ่งท่านประกาศตัวเองว่าเป็นผู้มีญาณ ท่านก็ต้องรู้ว่าท่านเคยทำกรรมอะไรไว้ เป็นเรื่องปกติต้องยอมรับ พระจะไม่มีวันพูดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม เพราะผลล้วนมาแต่เหตุนี่คือคำสอนของพระพุทธศาสนา นี่คือหัวใจของพระพุทธศาสนา นี่คือสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเอาไว้ ความพยายามที่ท่านทำให้บ้านเมืองแตกแยกและเกิดความเสียหาย นี่น่าจะหลุดจากความเป็นพระนะครับ ไม่ได้ใส่ร้ายไม่ได้รุนแรงนะครับ ขอให้ผู้ที่ใจเป็นธรรมช่วยเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่รัฐครับ เขาก็ตั้งใจทำด้วยความระมัดระวังแต่กฎหมายก็ต้องเดินไปตามกฎหมาย ท่านมั่นใจในความบริสุทธิ์ก็เข้ามาสู้เข้ามามอบตัว และถ้าท่านเชื่อในกฎแห่งกรรม เป็นพระในพระพุทธศาสนา อะไรที่เกิดขึ้นนั่นเป็นสิ่งที่ท่านได้ทำไว้