- 04 ม.ค. 2560
ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ กร่างหนัก
สืบเนื่องจากการแถลงการณ์สุนทรพจน์ เปิดศักราชใหม่ ของนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยในสุนทรพจน์ปีใหม่มีความยาว 30 นาที ซึ่งถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยผู้นำคิมอ้างว่าเปียงยางได้ผงาดเป็น “มหาอำนาจนิวเคลียร์” แล้ว และขณะนี้ก็เป็น “มหาอำนาจด้านการทหารในโลกตะวันออก ที่แม้แต่ศัตรูที่เข้มแข็งที่สุดก็ไม่อาจแตะต้องได้” คิม ยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ “ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ และยุตินโยบายก้าวร้าวต่อเกาหลีเหนือ”แต่ไม่ได้เอ่ยถึงว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตรงๆ
ขณะที่คำแถลงของ ทรัมป์ มีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ผู้นำ คิม จอง อึน ประกาศในสุนทรพจน์ปีใหม่ว่า โครงการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ของโสมแดงนั้นคืบหน้ามาถึง “ขั้นตอนสุดท้าย” (final stages) ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการขู่กลายๆ ให้รัฐบาล ทรัมป์ ปรับจุดยืนเป็นมิตรต่อเกาหลีเหนือมากขึ้น “เกาหลีเหนือแค่บอกว่าโครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่อาจจะเดินทางมาถึงดินแดนบางส่วนของสหรัฐฯ คืบหน้ามาถึงขั้นตอนสุดท้าย... แต่นั่นไม่มีวันเกิดขึ้นได้!” ทรัมป์ ระบุ
ทั้งนี้ตั้งแต่ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. นายโดนัล ทรัมป์ได้ใช้ทวิตเตอร์เป็นสื่อแสดงความคิดเห็นและตอบโต้พวกนักวิจารณ์ และบางครั้งก็พูดถึงประเด็นด้านความมั่นคงร้ายแรง จนนักวิเคราะห์ต่างออกมาทำนายทายทักว่านโยบายของสหรัฐฯ จะมุ่งไปในทิศทางใด หลังจากที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวในวันที่ 20 ม.ค.
เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ 2 ครั้ง และยังนำขีปนาวุธรุ่นต่างๆ ออกมาทดลองยิงเป็นว่าเล่นในปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่การสร้างระบบขีปนาวุธที่สามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์ไปโจมตีได้ถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ
เรียบเรียง : อาทิชา