"สนธิญาณ" เชียร์ ! "พล.อ.ประยุทธ์" เดินหน้าปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติและปรองดองเป็นเรื่องจำเป็น แต่ควรให้ภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วมขับเคลื่อนและเสนอแนะได้ นักการเมืองอย่าขวาง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 13 มกราคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : เมื่อวานน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งครับ สำหรับการประชุมเตรียมการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์และการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีทุกคน เพิ่มเติมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สำคัญเมื่อวานก็มีคุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เป็นเลขาธิการ คุณสุวิทย์เป็นผู้ที่มีบทบาทอันสำคัญในการเตรียมการแผนการประชุมในครั้งนี้ ผมหยิบยกเรื่องนี้มาเล่าพูดคุยให้ท่านผู้ชมทราบก็เพราะว่า คือสิ่งที่ได้มีการทำงานมาตลอดเวลา แต่ยังไม่ได้มีการขมวดและเตรียมการให้เกิดเป็นแผนยุทธศาสตร์ขึ้น ประเด็นดูชื่อดูหัวข้อการเตรียมการบอกว่ามีอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน คือ การปฏิรูปยุทธศาสตร์และปรองดอง 3 เรื่องที่จะต้องเดินไปจะต้องเกิดความสัมพันธ์กันนะครับ คือจะบอกว่าทำการปฏิรูปประเทศตั้ง สปช. สปท. ขึ้นมามีข้อเสนอเยอะแยะมากมายแล้ว วันนี้มีข้อเสนอมากองอยู่เต็มไปหมดแล้ว ทั้งการเมืองเศรษฐกิจ สังคม กีฬา การศึกษาและอื่นๆ มากองอยู่หมดแล้วครับ แต่จะปฏิรูปในแต่ละเรื่องใครคิดอะไรได้ว่าควรจะปฏิรูปอะไรจะเดินไปอันนี้ไม่ได้ จะต้องมีแผนยุทธศาสตร์มากำกับ และจัดหัวข้อการปฏิรูปต่างๆ ให้สอดร้อยรัดเชื่อมโยงกันให้ต่อเนื่องอยู่ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ของชาติ ไม่ใช่ต่างคนอยากปฏิรูปอะไรก็ทำไป แผนยุทธศาสตร์เราก็ได้ยินกันมานาน แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ครั้งนี้ก็จะได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าจากแผนปฏิรูปแต่ละกลุ่มจะมาร้อยเรียงกันภายใต้แผนแผนยุทธศาสตร์ แต่จะทำการปฏิรูปจะมีแผนแล้วหากไม่มีการทำความเข้าใจกันในหมู่ประชาชนว่า ไม่ควรจะแตกแยกกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ควรจะไปตามที่นักการเมืองปั่นหัว หันกลับมามองประเทศบนข้อมูลพื้นฐานความจริง หันมามองสภาพของโลกที่เป็นอยู่และเดินหน้าไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นในแนวทางที่มีการเตรียมการกัน พล.อ.ประยุทธ์ ถึงย้ำว่าเวลาพูดถึงเรื่องการปรองดอง เรื่องการสมานฉันท์อย่าเพิ่งไปพูดเรื่องจะนิรโทษกรรมผู้ที่ติดคุกก่อน หันกลับมาดูภาพรวมของสังคมไทย หันกลับมาให้คนไทยเข้าใจร่วมกันก่อน ถ้ายังแตกแยกกันอยู่ความคิดยังขัดแย้งกันอยู่จะมาพูดอะไรเรื่องแผน ต้องทำไปพร้อมๆ กันครับ เรียงแผนปฏิรูปให้เสร็จอยู่ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ของชาติ และผู้คนทั้งสังคมเดินไปด้วยกัน เป็นสิ่งที่รัฐบาลและ คสช.กำลังคิดอยู่ในขณะนี้ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องกลับมาดู พล.อ.ประยุทธ์ ก็บอกว่าจะใช้เวลา 15 ปี เวลาแผนยุทธศาสตร์เราจะพูดกันมา 20 ปี พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าจะใช้เวลา 15 ปี นำพาประเทศจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปอยู่ที่ลำดับประเทศที่มีรายได้สูง มีเป้าหมายมีความมุ่งมั่นที่จะเดินไป แต่สาระสำคัญที่จะต้องเป็นข้อสังเกตและเราจะต้องช่วยกันขบคิดและติดตามดูกันนะครับว่า การที่จะพาประเทศของเราจากประเทศปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง มีเรื่องที่น่าขบคิดอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกความมีรายได้สูงนั้นเป็นการวัดค่าจาก GDP หรือไม่ เพราะว่าถ้าเป็นการวัดค่าจาก GDP รายได้สูงดังกล่าวอาจจะตกอยู่ในมือของบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ค้ารายใหญ่เพียงไม่กี่รายเท่านั้น นี่เป็นข้อสังเกตที่ตั้งไว้แต่เราก็ต้องมองต่อไปว่าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีสิ่งที่เราได้เห็นและพูดมาตลอดในเรื่องของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คือการนำพาประเทศเดินตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะฉะนั้นก็ยังน่าอุ่นใจได้ที่นายกได้มาพูด คุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ ได้พูด นายกได้ตอกย้ำว่าให้เห็นว่าให้ความสำคัญกับการจัดการภาคเกษตร อย่างมีแผนยุทธศาสตร์มีการจัดการเชื่อมโยง ซึ่งเราก็จะต้องกลับมาดูต่อว่าภายใต้สิ่งที่กำลังเตรียมอยู่จะถูกผลักดันออกมาเป็นอย่างไร แนวคิดที่จะผลักดันออก ก็จะมีคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ชื่อนี้จะเป็นชื่อสำคัญและจะได้ยินต่อไป จำไว้ครับ ซึ่งจะมี คุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นเลขาธิการ ย้ำนะครับคนนี้เป็นนักยุทธศาสตร์ เป็นมือของอาจารย์สมคิด เอาไปอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีบริหาร เป็นเรื่องย่อยๆ ไม่ได้ผลไม่ได้ประโยชน์ ปรับครม. ครั้งนี้ จึงมานั่งอยู่ที่จุดนี้ สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะมาขับเคลื่อนและเดินต่อเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ โดยในคณะกรรมการชุดใหญ่ดังกล่าวจะแบ่งเป็นกรรมการย่อย 4 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการเตรียมสร้างความปรองดองแห่งชาติ และคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินยุทธศาสตร์ 3 คณะแรกจะเห็นภาพว่าเดินไปตามหัวข้อจะทำยุทธศาสตร์จะจัดการเชื่อมโยงอย่างไร จะทำให้ผู้คนปรองดองและเดินไปด้วยกันอย่างไร และมีคณะกรรมการชุดที่ 4 เป็นคณะกรรมการลงเล็กไปอีก จากคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อจะดูแลทางด้านบริหาร ถ้าเปรียบเทียบกับท่านที่ทำธุรกิจก็จะเห็นได้ว่ามีคณะกรรมการบริษัทชุดใหญ่แล้ว ยังมีคณะกรรมการบริหารที่มาตามขับเคลื่อน เพื่อให้เห็นผลจริง และข้อที่สำคัญในเชิงการบริหารจัดการ ในรัฐบาลที่ผ่านมาพอพูดแล้วจะล่องลอยเพราะในแง่การติดตามการขับเคลื่อนและจะไปตกอยู่ที่รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง หรือแต่ละรองนายกฯที่รับผิดชอบ แต่เที่ยวนี้จะมีการจัดตั้งสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายสำคัญของประเทศ ผลักดันการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 4 ชุดให้เดินไปข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการดึงจากภาครัฐและเอกชนผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาขับเคลื่อน วันนี้เอาวิชาการล้วนๆ นะครับ ผมย้ำนะครับให้เห็นภาพว่าความตั้งใจของรัฐบาลถูกจัดสร้างให้เป็นรูปธรรม และภายใต้รูปธรรมที่ขับเคลื่อนนี้ จะให้ชัดเดี๋ยวต้องถามนายกรัฐมนตรีต่อไป หรือนายกรัฐมนตรีต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่าการขับเคลื่อนดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบของเศรษฐกิจพอเพียงใช่หรือไม่ ซึ่ง ณ ที่นี้ผมคิดว่าน่าจะใช่กว่า แต่ต้องได้ยินจากปากนายกรัฐมนตรีว่าจะต้องเดินไปใต้กรอบของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง นำพารากฐานไปสู่ความมั่นคง ความเข้มแข็งความแข็งแรง เพราะเมื่อวานนายกรัฐมนตรีก็พูดถึงเรื่องภาคการเกษตร พูดถึงเรื่องการทำที่ดินแปลงใหญ่ เอาภาคเอกชนมาทำงานร่วมกับภาคประชาชน เพื่อจัดการบริหารในเชิงยุทธศาสตร์ขึ้นในการบริหารการเกษตร ซึ่งมีรายละเอียดเชิงลึกที่ต้องดูว่าทำยังไงไม่ให้ภาคเอกชนรายใหญ่ เข้ามาสวาปามหรือเข้ามาเอารัดเอาเปรียบประชาชน จะมีการจัดการอย่างไร แต่แน่นอนครับเมื่อจัดมาเป็นกรรมการแบบนี้ดูแลกันแบบนี้อย่างเปิดกว้าง ก็อาจจะทำให้ภาคเอกชนตั้งใจมาทำงานจริง หรือถ้าคิดจะสวาปามอะไรก็ไม่สะดวกนัก ก็ต้องพูดกันแบบนี้ครับเวลาเราพูดถึงภาคเอกชน มาทันทีชื่อซีพีจะผุดขึ้นมาในใจของผู้คนทั้งหลาย และสิ่งที่เราได้เห็นคือซีพีกำลังกินรวบทั้งประเทศ อันนี้คือสิ่งที่ต้องเรียนไปยังรัฐบาลและ คสช. ว่าจะต้องชัดเจนเรื่องนี้จัดการดูแลให้ระบบเข้าที่เข้าทาง ย้ำนะครับตัวจำนำข้าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ รังเกลียดนักหนาว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่น ซีพีตัวดีเลยครับที่สนับสนุน มาถึงวันนี้ทำหน้าเจี๋ยมเจี๊ยมไม่รู้ไม่ชี้ คลิปที่เคยพูดก็ไปตามลบหมด นี่ก็ขยับขยายตอกย้ำกันให้เห็นนะครับว่า นี่คือสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดมาและเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมนะครับ ในระยะเวลาที่เหลืออีกปีเศษๆ สิ่งเหล่านี้จะปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมอย่างไร และต่อเนื่องให้เห็นว่าอีกอีก 20 ปีข้างหน้า จะเป็นอย่างไรต่อ อย่าลืมนะครับนักการเมืองโต้แย้งน่าดู บอกว่าอย่ามียุทธศาสตร์ จะมีตีกรอบให้กับคณะที่จะบริหารชุดหน้า แต่ผมเรียนท่านผู้ชมนะครับ ยุทธศาสตร์ชาติเป็นเรื่องจำเป็น นักการเมืองเห็นว่าไม่ถูกต้องก็สามารถตามแก้ได้ แต่เวลานั้นถ้ายุทธศาสตร์นี้ได้รับการเปิดเผยไปสู่ประชาชน ประชาชนทั้งประเทศมองเห็นภาพรวมที่จะเดิน ซึ่งเป็นหน้าที่และเป็นงานหลักของรัฐบาลและ คสช. ที่จะต้องขยับขยายในครั้งนี้ให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วม ไม่ใช่ให้คณะกรรมการทำกันเองนะครับ ให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการขับเคลื่อน เสนอแนะ ให้เขารู้สึกเป็นเจ้าของ นี่ล่ะครับแผนยุทศาสตร์ถึงจะยั่งยืน มั่นคง และแข็งแรง