ความเชื่อโบราณ ทำไมของขลัง วัตถุมงคล ต้องปลุกเสกในคืนเดือนดับ

ความเชื่อวัตถุมงคล เบื้องหลังพิธีกรรม "คืนเดือนดับ" ที่คุณอาจไม่เคยรู้ หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องการปลุกเสกวัตถุมงคลในคืนเดือนดับ หรือคืนเดือนมืดที่ไร้แสงจันทร์ แต่ทำไมต้องเป็นคืนนั้น?

 

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกความเชื่อโบราณที่ไม่ใช่งมงาย พร้อมหาคำตอบว่าทำไมคืนเดือนดับจึงถูกยกให้เป็นช่วงเวลาที่ทรงพลังที่สุดในการประกอบพิธีกรรม
 

ในบรรดาความเชื่อเรื่อง เครื่องรางของขลัง หนึ่งในพิธีกรรมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือการปลุกเสกใน "คืนเดือนดับ" ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เชื่อกันว่าพลังอาถรรพ์มีอานุภาพสูงสุด จนเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า หากไม่ปลุกเสกในคืนนี้ ของขลังนั้นก็จะไม่ขลังจริง

 

คืนเดือนดับคืออะไร?

คืนเดือนดับ (New Moon) คือช่วงที่ดวงจันทร์โคจรตรงกับดวงอาทิตย์ ทำให้ด้านที่หันเข้าหาโลกเป็นด้านมืด มองไม่เห็นแสงจันทร์เลยในท้องฟ้า ตามหลักโหราศาสตร์ไทย คืนนี้สัมพันธ์กับดาวราหูและดาวอังคาร ซึ่งเป็นดาวธาตุลม ส่งผลให้เกิดความผันผวนและไม่แน่นอนในพลังงานรอบตัว

 

ทำไมต้องปลุกเสกในคืนเดือนดับ?

• เชื่อว่าพลังงานมืดในคืนเดือนดับจะช่วย “เปิดช่อง” ให้ของขลังดูดซับพลังลี้ลับได้เต็มที่
• ผู้มีวิชามักใช้ช่วงเวลาโพล้เพล้หรือหลังเที่ยงคืนในการปลุกเสก เพราะเป็นเวลาที่พลังงานนิ่งและแรงที่สุด
• วัตถุมงคลที่ปลุกเสกในคืนเดือนดับจะมีอานุภาพสูง ใช้ป้องกันภัยหรือเสริมดวงได้ดีเยี่ยม
• บางสายวิชาเชื่อว่าเป็นช่วงที่ “วิญญาณ” เคลื่อนไหวแรง จึงเหมาะกับการทำพิธีกรรมที่ต้องการพลังเหนือธรรมชาติ

 

ข้อควรระวังในคืนเดือนดับ

• หากไม่มีเครื่องรางหรือจิตแข็งพอ ไม่ควรออกจากบ้านในคืนนี้ เพราะอาจโดน “ลมเพลมพัด” หรือพลังลบที่ปล่อยออกมาจากพิธีกรรม
• ห้ามทำพิธีมงคล เช่น แต่งงาน หรือขึ้นบ้านใหม่ เพราะเชื่อว่าจะเปลี่ยนจากดีเป็นร้าย
• ห้ามพูดคำหยาบหรือเรียกชื่อคนตาย เพราะอาจเปิดช่องให้สิ่งลี้ลับเข้ามาใกล้ตัว

 

ตัวอย่างของขลังที่นิยมปลุกเสกในคืนเดือนดับ

• ตะกรุดสายพราย
• ผ้ายันต์ลงอาคม
• พระเครื่องสายมหาอำนาจ
• เครื่องรางป้องกันคุณไสย
• วัตถุปลุกเสกเพื่อเรียกทรัพย์หรือเสริมดวง