โหรฟองสนานเตือน ช่วงอันตรายทางน้ำ เตรียมรับมือน้ำท่วมวงกว้าง

โหรฟองสนาน จามรจันทร์ เปิดคำทำนายเมืองรัตนโกสินทร์ ปี 2568 เตือนเกณฑ์น้ำท่วมวงกว้าง ตุลาคม-ธันวาคม แต่ย้ำยังไม่ถึงขั้นมหาอุทกภัยเหมือนปี 2554

โหรฟองสนาน จามรจันทร์ เปิดดวงเตือน เมืองไทยปี 2568 เสี่ยงน้ำท่วมหนักหลายจังหวัด ระหว่าง ต.ค.- ธ.ค. แต่ยังไม่ใช่มหาอุทกภัยซ้ำรอยปี 2554

แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 601 โดย ฟองสนาน จามรจันทร์ เตรียมรับมือน้ำท่วมวงกว้าง

รูปที่ 1 ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ และเกณฑ์น้ำท่วมวงกว้างปี 2568 และช่วงพายุเข้าและช่วงสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

รูปที่ 2 คำทำนายให้ไว้ตั้งแต่ปลายปี 2567 ถึงปรากฏการณ์น้ำท่วมเมืองวงกว้างและช่วงอันตรายทางน้ำ

 

โหรฟองสนานเตือน ช่วงอันตรายทางน้ำ เตรียมรับมือน้ำท่วมวงกว้าง
 

 

โหรฟองสนานเตือน ช่วงอันตรายทางน้ำ เตรียมรับมือน้ำท่วมวงกว้าง

 

ก่อนที่จะมีกรมอุตุนิยมวิทยาที่เครื่องมือเครื่องไม้พร้อมด้วยสรรพกำลังทางวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญไว้พยากรณ์อากาศนั้น ทางโหรก็มีโหราศาสตร์อุตุนิยมวิทยาพอจะเป็นแนวทางให้อาศัยพึ่งพา

อย่างน้อยก็พอจะคลำทางให้ได้รู้กรอบเวลาล่วงหน้าเรื่องน้ำท่วมหรือฝนแล้ง หรือพายุ หรือโรคระบาด หรือแผ่นดินไหว หรือข้าวยากหมากแพง หรือทุพภิกขภัย ฯลฯ ได้บ้าง ขึ้นอยู่กับว่าจะจับหลักใดมาทำนายและให้ความสำคัญขนาดไหน?

บางปีพวกที่เรียนโหรรู้ล่วงหน้าเป็นปี ๆ ในภาพกว้าง

เช่น คราวระบาดของโควิด-19 ก็พอจะรู้ล่วงหน้าว่าภัยอาเพศขนาดใหญ่รอจังหวะเกิดในเมือง (มฤตยูจร 0 เจ้าของภัยอาเพศเดินในราศีเมษทับลัคนาเมือง-และโลก) หรือเมื่อคราวพายุปาบึกเข้าเมื่อ 4 มกราคม 2562 นั้น ผู้เขียนจำได้ว่าคำนวณการเข้าของพายุคลาดเคลื่อนไม่กี่วัน

หรือคราวแผ่นดินไหวสั่นสะเทือนไปทั่วเมืองที่มีศูนย์กลางเมืองมัณฑะเลย์ เมียนมา แล้วตึก สตง. ที่กำลังก่อสร้างถล่มราบกองเป็นภูเขาเลากาเมื่อ 28 มีนาคม 2568 ผู้เขียนก็พอรู้ว่าจะเกิดเหตุ และทำนายเตือนไว้ตั้งแต่ปลายปี 2567 ว่าปีนี้แผ่นดินไหวจะกลับมาเป็นปรากฏการณ์สำคัญ เพียงแต่ไม่มีภูมิพอที่จะรู้ที่เกิดและระยะเวลาเกิด และประเมินความรุนแรงพลาดมาก นึกว่าคงจะเพียงแค่ตึกสูงสั่นไหว แล้วก็สงสัยว่ากลางพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปปรากฏการณ์แผ่นดินไหวอีกรอบจะกลับมาอีก

สำหรับเรื่องน้ำฟ้าน้ำฝนปี 2568 นี้ เมื่อเข้าช่วงฤดูฝนหรือหน้ามรสุม เมืองก็ได้ทั้งร่องฝนและอิทธิพลของหางพายุหลายรอบ ซึ่งมาถึงวันที่ปิดต้นฉบับ น้ำในอ่างเก็บน้ำในเขื่อนหลักภาคเหนือรวมกันแล้วร้อยละแปดสิบของความจุรวม ส่วนภาคอื่นก็ลดหลั่นลงมา โดยอ่างที่น้ำน้อยขอดก้นอ่างก็มีไม่กี่แห่ง รวมทั้งลำตะคองที่ยังเรี่ย ๆ ก้นอ่างจนน่าใจหาย ซึ่งที่นี่ผู้เขียนก็ลุ้นทุกปีจนเหนื่อย อยากให้น้ำเต็มอ่าง
 

ส่วนสถานการณ์น้ำจากนี้ไปขออ้างอิงจากที่เขียนทำนายดวงชะตาเมืองปี 2568 ไว้ตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่น่าจะย้ำอีกครั้ง เพราะหนึ่งในคำถามยอดนิยมที่ผู้เขียนถูกถามเสมอคือ น้ำจะท่วมหรือไม่? บางท่านถึงขนาดไปลงทุนซื้อที่ดินบนที่สูงไว้ด้วยกลัวน้ำจะท่วม

คำตอบคือต่อไปนี้มีโอกาสน้ำท่วมในเมืองแบบวงกว้าง โดยใช้หลักโหราศาสตร์อุตุนิยมวิทยาจับคือ

1. กรอบกว้าง ๆ คือโอกาสที่น้ำจะมากกว่าช่วงเริ่มหน้าฝนที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญจนจะท่วมกว้างมาก หรือหลายจุด หลายจังหวัด หลายช่วง ระหว่างประมาณ 2 ตุลาคม - 22 ธันวาคม 2568 หรือเอากลม ๆ คือต้นตุลาคมถึงปลายธันวาคม 2568 โดยช่วงเวลานี้จะมีเหตุปัจจัยให้ปริมาณฝนตกมากผิดปกติจากร่องฝนทั่วไป (พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีกรกฎ-ธาตุน้ำ เมืองอุดมไปด้วยน้ำ) บางช่วงลงแบบฟ้ารั่ว

2. แคบเข้ามา ระยะที่พายุหมุนเขตร้อนในระดับดีเปรสชันขึ้นไปมีโอกาสจะเข้าเมืองอย่างน้อยหนึ่งลูก คือเริ่มตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป (พระอังคารจร 3 เดินในราศีพิจิกทำมุมฤทธิโยคถึงพระเสาร์จรและพระราหูจร 8 ที่เดินในราศีกุมภ์)

3. เนื่องจากเมืองอยู่ในระยะที่เกณฑ์อุบัติเหตุหรืออุบัติภัยใหญ่รอบสามและสี่ของปีเป็นสื่อล่ออยู่ จึงระหว่างประมาณ 28 พฤศจิกายน - 23 ธันวาคม 2568 เมืองต้องระวังปรากฏบาดเจ็บล้มตาย เสียทรัพย์สินเงินทองขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยจากลม-พายุ-น้ำ (พระศุกร์กาลกิณีจร 6 เดินในราศีพิจิก-ธาตุน้ำ-ภพมรณะดวงเมือง)

แต่ไม่ว่าต่อไปนี้น้ำจะท่วมเพียงใด ข่าวดีคือ ปี 2568 ยังไม่ใช่ปีมหาอุทกภัย เหมือนที่เคยเกิดเมื่อปี 2554 จนเดือดร้อนหนักและเสียหายวงกว้างติดอันดับโลก คราวนั้นเปรียบได้เหมือนข้าศึกคือน้ำตีฝ่าบ่าลงมา แล้วล้อมเมืองจนมาถึงกรุงเทพฯ เกือบทุกทิศทางเลยทีเดียว

ส่วนปีหน้าไม่แน่ เพราะมีเกณฑ์ใหญ่ล่อให้เกิดอยู่ เมื่อแกะคำตอบจากดวงดาวได้จะแจ้งให้ทราบต่อไป แต่ทั้งหลายทั้งปวงควรเงี่ยหูฟังกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นดีที่สุด เพราะนั่นคือมืออาชีพจริง ๆ

ฟองสนาน จามรจันทร์
12 กันยายน 2568