- 14 ต.ค. 2568
โหรฟองสนาน จามรจันทร์ เปิดดวง 1 ลัคนาปี 2569 เตรียมออกจากช่วงทุกข์หนักระรานชีวิต เทวดาประจำตัวอวยพรชะตาเจิดจ้า แต่ปลายปีมีเรื่องต้องระวัง
“โหรฟองสนาน” เปิดดวงลัคนากรกฎ ปี 2569 ผ่านพ้นช่วงหนักหนา 2 ปีครึ่ง เตรียมรับพลังฟื้นตัวจากดาวใหญ่ แต่ระวังปลายปีมีเกณฑ์ชะตาแรงเรื่องความรัก–หุ้นส่วนชีวิต ชีวิตกำลังเปลี่ยนผ่านจากช่วงดวงตกสู่ช่วงฟื้นตัว เตือนระวังเรื่องคู่ครอง หุ้นส่วน และการลงทุนปลายปี ขณะเดียวกันยังมีเกณฑ์ได้รับโชคด้านการเงินและความสำเร็จจากผู้ใหญ่หนุนหลัง
แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 605 โดย ฟองสนาน จามรจันทร์
ภาพลัคนาสถิตราศีกรกฎกับเรื่องราวของชีวิตและดาวจรสำคัญที่ทำมุมกับดวงชะตา
มฤตยูจร (0) - เดินในพฤษภตลอดปี (มีเดินผิดปกติ)
พระเสาร์จร (7) - เดินในกุมภ์ต้นปี-14 ก.พ. 69
เดินในมีน 14 ก.พ.-สิ้นปี 69 (มีเดินผิดปกติ)
ราหูจร (8) - เดินในราศีกุมภ์ต้นปี-22 พ.ย. 69
เดินในราศีมังกร 23 พ.ย.-สิ้นปี 69
พฤหัสบดีจร (5) - เดินในเมถุนต้นปี-31 พ.ค. 69
เดินในกรกฎ 31 พ.ค.-19 ต.ค. 69
เดินในสิงห์ 20 ต.ค.-สิ้นปี 69 (มีเดินผิดปกติ)
ลัคนากรกฎกับลีลาสำคัญของชีวิตปี 2569
ในบรรดาเรื่องบวกและลบที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ที่บ่งบอกเหตุการณ์สำคัญ (ยังมีเรื่องยิบย่อยอีกมาก) ที่จะเกิดกับท่านที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎ (ทำนายตามลัคนาเท่านั้น โปรดอย่านำไปใช้ผิดประเภทเป็นชาวราศี) จะเป็นแนวนี้
ไม่ว่าชีวิตจะบวก–ลบแค่ไหน ตลอดทั้งปีพวกท่านยังอยู่ในระยะเจ็ดปี (เริ่มมาตั้งแต่กลางกรกฎาคม 2565) ของการปฏิวัติใหญ่สังคม-เพื่อนฝูง-มิตรสหาย หารายได้หรืองานพิเศษเพิ่มจากอาชีพประจำ หากเป็นงานเก่าที่เคยทำก่อนก็ต้องต่อยอดจากเดิม (มฤตยูจร 0 เดินในราศีพฤษภ ภพที่สิบเอ็ด–ลาภะ) เช่น เคยอยู่แวดวงการเมือง กลับพลิกไปอยู่ในแวดวงนักวิชาการ หรือเคยมีเพื่อนมากมายในที่ทำงานพอเกษียณกลับพบแต่เพื่อนตามโรงพยาบาล หรือเคยคบเพื่อนมานานกลับมีเรื่องแตกแยก หรือบางท่านพบเพื่อนใหม่แปลก ๆ ไปเลย เช่น พวกสายแสวงบุญ หรือโชคร้ายเจอเพื่อนฝูงชักจูงไปทางอบายมุขก็มี
สำหรับอาชีพที่พิเศษ หรืออาชีพที่สอง-สามนั้น ทุกวันนี้มีทางให้เลือกมากมาย เช่น ท่านหนึ่งกลางวันทำงานประจำแต่เขียนนิยายรักขายช่วงกลางคืนเพราะชอบ ได้เงินหลายล้าน แต่หากอยากทำอาชีพเก่าก็ต้องหาทางต่อยอด เช่น เป็นหมอต่อยอดเป็นเฉพาะทาง เป็นต้น
ผลจากเกณฑ์นี้ที่เมื่อจบลงประมาณกลางกรกฎาคม 2572 หากยืนอยู่หน้าบ้าน พวกท่านจะถามตัวเองว่า สังคม เพื่อนฝูง อาชีพหลัก อาชีพ-รายได้พิเศษไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร
อีกทั้งปรากฏการณ์นี้อาจส่งผลถึงแฟน หรือลูก ๆ หรือเด็กในดูแลด้วย เช่น บางคนได้สะใภ้เข้าบ้านแบบช็อกหรือขัดแย้ง แต่พอมีหลานก็ราบรื่นมีความสุขดี (มฤตยูจร 0 ที่พฤษภเล็งใส่ราศีพิจิก ภพปุตตะ)
2.โดยภาพรวมของชีวิตแล้ว ท่านที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎทั้งหลาย ไม่ว่าด้านบวกจะมาหล่อเลี้ยงชีวิตเพียงใด แต่ก็เจอปรากฏการณ์หนัก หรือด้านลบ หรือบางท่านถึงขนาดสาหัสทางโหรมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2566 ในระดับที่บางท่านสะอื้นก็มี
แล้วตั้งแต่ต้นปี 2569 เลยทีเดียว ที่พวกท่านส่วนใหญ่ยังจะเจอปรากฏการณ์ด้านลบต่อเนื่อง อันเป็นลางจากตรีเทพทั้งสามดวง คือ พระเสาร์จร (7) พระราหูจร (8) และพฤหัสบดีจร (5) เดินอยู่ในมุมอับของดวงชะตาที่จะสร้างสภาวะดวงตกให้สมบูรณ์แบบเป็นรอบสุดท้าย คือ
2.1 ปรากฏการณ์แรกที่เป็นมาตั้งแต่มีนาคม 2566 ยาวข้ามมาถึงต้นปี 2569 ที่คาดว่าได้เล่นงานพวกท่านมาหนักหนาสาหัสมาก ส่งเกณฑ์ทุกข์และลบกระจายเป้าใส่หลายเรื่องของชีวิตมาสองปีครึ่ง มีทั้งอย่างต่ำ–อย่างกลางและสาหัสตามโฉลก “เกรงชีวา มรณาให้เกรงไฟ” (พระเสาร์จร 7 เดินในราศีกุมภ์–ภพที่แปด มรณะ) เช่น ป่วยหนักเอง หรือคู่ครองป่วย หรือจากเป็นเช่นหย่า จากตายเช่นคู่ครองขอไม่รักษาต่อเพราะทนกระบวนการรักษาไม่ไหว เศร้าเสียใจมาก หรือพ่อแม่ป่วยหนักหรือจากไป หรือแบกภาระงานหนัก หรือหน่วยงานที่ทำอยู่เกิดปัญหาเสียหายจนหยุดกิจการ หรือพรรคการเมือง (หุ้นส่วนชีวิต) แตกเละ ฯลฯ
ข่าวดีคือปรากฏการณ์นี้ ที่ฝากรอยแผลเป็นให้ชีวิตพวกท่านสักคนละแผลสองแผลให้ติดตัวไปตลอดชีวิตนั้น จะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569
2.2 ตั้งแต่ต้นปียังอึดอัดทางชีวิต หรือเรื่องในบ้าน หรือคนสนับสนุน หรือลูกน้อง หรือหนี้สิน หรือถูกจำกัดเสรีภาพ หรือเสียเงินทอง ตามโฉลก “ทรัพย์วิบัติ ข้าคนพลัดกระจัดกระจาย” (พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีเมถุน–ภพที่สิบสอง–วินาสน์) เช่น หาหมอถี่ยิบแทบทำอะไรไม่ได้ หรือเฝ้าไข้ หรือดูหนังสือสอบไปไหนไม่ได้ หรือถูกโยกย้ายหรือตั้งกรรมการสอบ หรือถูกหักอก ทรยศหักหลังเป็นต้น
ปรากฏการณ์นี้จะคล้าย ๆ หัวหน้าเทวดาประจำตัวของพวกท่านเข้าห้องขัง ไม่สามารถคุ้มครองลัคนาพวกท่านได้ แต่ก็จะจบลงสำหรับรอบนี้ตั้งแต่ 31 พฤษภาคม 2569 เป็นต้นไป
2.3 ตั้งแต่ต้นปี–22 พฤศจิกายน 2569 ปรากฏการณ์คู่ครองหรือหุ้นส่วนชีวิตถล่ม ใช้เงินมาก หรือพวกท่านเองไปลงทุนแล้วพลาดเพราะประมาท เช่น คู่ครองสร้างหนี้ให้มหึมา หรือเสียเงินให้หุ้นส่วนเหมือนถูกค้นกระเป๋า หรือใช้เงินตามอารมณ์ หรือรู้ว่าเขาจะหลอกให้ลงทุนแต่อุตส่าห์ลองของ เสียเงินซื้อประสบการณ์เป็นต้น
อีกอาการหนึ่งที่จะอุบัติจากเกณฑ์นี้ คือต้องรับมือการบาดเจ็บที่ขา ตามโฉลก “เสียแข้งขา ยกยาตราให้เกรงกลัว” (พระราหูจร 8 เดินในราศีกุมภ์–ภพที่แปด มรณะ) เช่น ไปต่างประเทศหกล้มใส่เฝือก หรือคู่ชีวิตผ่าเปลี่ยนเข่าต้องดูแล เป็นต้น
3. ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นต้นไป ถึงเวลาฉลองเล็ก ๆ เพื่อให้กำลังใจตัวเองว่าได้ตีฝ่าความโหดของหัวหน้าดาวร้ายมาได้ครบสองปีครึ่ง ที่แม้จะมีบาดแผลของชีวิตมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละคนก็ตาม
แล้วจากนั้นจนถึงสิ้นปี 2569 (ยาวนานถึง 21 เมษายน 2571) พวกท่านจะเจอปรากฏการณ์ใหญ่ของชีวิต คือ หาลาภได้แต่มักจะรักษาไว้ไม่ได้ ตามโฉลก “หาลาภได้ แต่เก็บไว้ไม่ยืนยง” (พระเสาร์จร 7 เดินในราศีมีน–ภพที่เก้า–ศุภะ) เช่น ได้งานแล้วทำไม่ตลอด หรือได้เซ็นสัญญางานแล้วทำไม่ได้ หรือได้เงินมาก็ต้องใช้หนี้ หรือมีอันต้องใช้ไป หรือได้มรดกมาก็ขาย เป็นต้น
เกณฑ์นี้ไม่ว่าจะอย่างไร สำหรับผู้เขียนแล้วยังถือว่าเป็นลาภที่หาได้ ส่วนหน้าที่รักษาไว้ก็ขึ้นอยู่กับชั้นเชิงของพวกท่านเอง
4. วาระฉลองที่สองเริ่มตั้งแต่ 31 พฤษภาคม–19 ตุลาคม 2569 หัวหน้าเทวดาประจำตัวออกจากห้องขัง มาอำนวยโชคชัยให้ชะตาอย่างเจิดจ้าที่สุดในรอบสิบสองปี ถ้าป่วยสุขภาพก็จะดีขึ้น มีความสุข เกิดความนึกคิดในทางที่ดี จะได้โชคหรือมีคนสนับสนุนและทรัพย์สิน หรือทุน หรือสมองแจ่มใส มีโอกาสได้แฟน หรือลูก หรือแต่งงาน อีกทั้งหากมีคนหาเรื่อง ผู้ใหญ่กว่าจะช่วยตามโฉลก “ผู้มีศักดิ์จักบีฑา ภายหลังจึงราชาให้ลาภาคนยำเกรง” (พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีกรกฎ ทับลัคนา–มาตรฐานอุจ) อีกทั้งระยะนี้ หากมีเรื่องลบสาหัสรอเกิดในชีวิตพวกท่านจากเกณฑ์อื่น แต่บารมีหัวหน้าเทวดาประจำตัวจะลดทอนให้เหลือประมาณลบ หากระดับลบจะเหลือลบน้อย หากลบน้อยจะปัดเป่าไปได้ และเปิดทางให้เกณฑ์ด้านบวกปรากฏในชีวิตได้เต็มที่
5. ตั้งแต่ 20 ตุลาคม–สิ้นปี 2569 โชคจากหัวหน้าเทวดาประจำตัวเคลื่อนจากตัวพวกท่านไปเอื้ออำนวยต่อในเรื่องเงิน ที่แม้จะเหนื่อย ต้องต่อสู้แข่งขัน ประมูล แต่ถือว่ามีโชคมากเชียวละ
อีกทั้งหากมีศัตรูคู่แข่งขัน ก็จะมีขอคืนดี หรือหากพวกท่านคืนดีกับใครที่เคยขุ่นข้องหมองใจกันมาก็จะเกิดโชคได้ตามโฉลก “ศัตรูมีมาคืนดีโอนอ่อนเอง” (พฤหัสบดีจร 5 เดินในราศีสิงห์ ภพที่สอง–กฎุมภะ) เช่น เกิดคดีความ คู่ความนำเงินมาวางในศาลหรือถอนฟ้องกันในสำนักงาน แล้วได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นก็มี
6. มาแล้วตัวแสบ คือตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน–สิ้นปี 2569 และยาวนานไปถึงสิบแปดเดือน เมื่อพระราหูจร (8) จะมาอาละวาดอย่างโลดโผนแบบไม่คาดคิด ทำพวกท่านชะตาแตก หรือพินทุบาทว์อีกแบบหนึ่ง (พระราหูจร 8 เดินในราศีมังกร–ภพที่เจ็ด–ปัตนิ–มาตรฐานมหาจักร) ทำให้
6.1 เดือดร้อนยุ่งยากในชีวิตครอบครัว หรือไม่มีความสุขในชีวิตสมรส จึงเป็นระยะที่ต้องประคองชีวิตครอบครัวอย่างมาก ที่เคยเห็นมา เช่น คู่ครองป่วย หรือมีอันต้องจากกัน หรือถ้าได้คู่ครองช่วงนี้จะเป็นไปอย่างผาดโผนผิดธรรมดา
6.2 หรือไม่ก็อาจจะไปออกอาการที่หุ้นส่วนชีวิตทั้งหลายของพวกท่าน เช่น แตกแยกกับหุ้นส่วน หรือหุ้นส่วนป่วยหรือจากไป หรือหน่วยงานที่ทำอยู่ (พวกท่านเป็นส่วนหนึ่งของหน่วย) แตกกระเจิงเปลี่ยนแปลงอุตลุด
6.3 สำคัญคือเกณฑ์นี้ต้องระวังการลงทุนแบบเสี่ยง–เก็งกำไรและความประมาท เช่น เสียหายจากการเก็งกำไรฟอเร็กซ์หลายล้านจนเจ้าชะตาออกปากว่า “ไม่รู้จักตลาดนี้จะดีกว่า”
6.4 เกณฑ์นี้ยังต้องระวังมีเรื่องราวหรือคดีความที่จะเกิดแบบครึกโครมในชีวิต ตามระดับของแต่ละท่าน ตามโฉลก “จะมัวเมา ว่าความเขาภัยถึงตัว” วิธีการรับมือสิบแปดเดือนนี้ควรสงบปาก–คำ และระวังการพูด–เขียน–พิมพ์โดยใช้อารมณ์
กล่าวโดยสรุป ขณะที่ตลอดทั้งปีพวกท่านยังอยู่ในระยะเจ็ดปีของการปฏิวัติสังคม เพื่อนฝูง หรือมองหาอาชีพ–รายได้พิเศษพร้อมต่อยอดอาชีพเดิมนั้น
ตั้งแต่ต้นปี 2569 อะไรที่หนักหน่วงทางลบยังจะมีอยู่ แต่จะทยอยคลี่คลาย คือกลางกุมภาได้ออกจากสถานการณ์ทุกข์หนักที่ถูกเล่นงานมาสองปีครึ่ง เพื่อเข้าสู่สภาวะใหม่คือหาลาภได้เพียงแต่ต้องรักษาไว้ให้ได้ และปลายพฤษภาหัวหน้าเทวดาประจำตัวมาคุ้มครองดวงชะตาเจิดจ้าอำนวยโชคชัยให้ชีวิต หลังจากนั้นจะเป็นโชคชัยเรื่องเงิน เพียงแต่ปลายพฤศจิกายนเป็นต้นไปต้องประคองชีวิตคู่ หุ้นส่วนชีวิต ทั้งระวังการเสี่ยง–วู่วาม และคดีความ
ฟองสนาน จามรจันทร์
10 ตุลาคม 2568






