- 22 ธ.ค. 2568
ฟองสนาน จามรจันทร์ เปิดคำทำนายดวงเมือง ชี้ศึกไทย–เขมรรอบสองเป็นหนึ่งในวิกฤตใหญ่ที่ถูกกำหนดไว้ในชะตาปี 2568 วิเคราะห์จุดเริ่ม–จุดจบการสู้รบ
ท่ามกลางสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย–กัมพูชาที่ปะทุขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปี 2568 โหรฟองสนาน จามรจันทร์ นักโหราศาสตร์ชื่อดัง ได้ออกบทวิเคราะห์ดวงเมืองรัตนโกสินทร์ ชี้ชัดศึกเขมรรอบสองครั้งนี้อยู่ในเกณฑ์คำทำนายสำคัญของปี เป็นหนึ่งในวิกฤตใหญ่ที่บ้านเมืองต้องเผชิญ พร้อมคาดการณ์จุดสิ้นสุดของการสู้รบ บทบาทการทูต และสถานะของประเทศหลังผ่านพ้นศึกอย่างละเอียดตามหลักโหราศาสตร์ดวงเมือง โดยทำนายไว้ดังนี้
แม่หมอสมัครเล่น ตอนที่ 615 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ สถานะเมืองรัตนโกสินทร์หลังศึกเขมรรอบสอง
ผู้เขียนขอพักบทความลีลาชีวิตท่านที่ลัคนาสถิตราศีมีนปี 2569 ซึ่งเป็นลัคนาสุดท้ายที่จะเขียนไว้พลางก่อน เพราะเมืองคับขันเกิดการสู้รบระหว่างไทยเขมรรอบที่สองของปี อันจัดเข้าข่ายอุบัติเหตุ สูญเสีย บาดเจ็บล้มตาย เดือดร้อนระดับเบอร์ใหญ่ในเมืองรอบที่สี่ของปี ที่เคยทำนายไว้ว่าปี 2568 เมืองจะเจอสี่รอบ
ก่อนหน้านี้สามรอบคือแผ่นดินไหวที่พม่าแล้วตึกสตง.พังถล่ม-ปะทะไทยเขมรรอบแรกพร้อมน้ำท่วมใหญ่น่านและน้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่ โดยรอบที่สี่เริ่มก่อหวอดมาตั้งแต่วันที่7ธันวาคม 2568 เมื่อทหารไทยถูกยิงบาดเจ็บสองคนที่ผลาญหินแปดก้อน ศรีสะเกษ หลังจากนั้นถล่มกันรุนแรงก็ตามมาขยายวง เดือดร้อนบาดเจ็บล้มตายทั้งสองฝ่าย
ในทางโหรเมื่อย้อนกลับไปดูเกณฑ์ปูมดาวจรที่ทำมุมกับดวงเมืองวันที่ 7 ธันวาคม 2568 อันเป็นจุดเริ่มต้นการปะทะก็อาจจะพอคาดหมายจุดสิ้นสุดได้คือ
1. จุดเริ่มรอบนี้เกิด 7 ธันวาคม 2568 เมื่อดาวประจำชีพเมืองแล้วยังเป็นดาวนักรบสงครามด้วยคือพระอังคาร(3)เริ่มตรึงกับดาวแห่งภัยอาเพทคือมฤตยู(0)การสู้รบก็ระเบิดตูม(มฤตยูจร0เดินในราศีพฤษภทับพระอังคารดวงเดิมและพระอังคารจร 3 เดินในราศีธนูเล็งพระมฤตยูดวงเดิม0ที่สถิตในราศีเมถุน)
ในอดีตการตรึงกันของดาวสองดวงนี้เป็นสื่อล่ออุบัติเหตุเสียหาย บาดเจ็บล้มตายเกิดในเมืองตั้งแต่เหตุการณ์สังหารหมู่ที่นากลาง หนองบัวลำภู38คนหรือโรงงานพลุระเบิดที่สุพรรณตาย28คน หรือรถนักเรียนจากลานสักอุทัยธานีไหม้หน้าห้างเซียร์ รังสิตตายไป 25 คน
แม้แต่ปี 2568 นี้ที่แผ่นดินไหวตึกสตง.ถล่มตายสูญหายเฉียดร้อยก็เกิดจากปรากฎการสื่อล่อของดาวคู่นี้ในเมือง
ส่วนด้านสงครามหรือการสู้รบการตรึงกันของดาวสองดวงนี้เป็นสื่อล่อให้เกิดยุทธนาวีที่เกาะช้าง หรือสงครามมหาเอเชียบูรพาที่กองทัพญี่ปุ่นบุกไทยทุกทิศทางหรือสัมพันธมิตรเอาระเบิดมาหย่อนใส่สะพานพระรามหก
2. คำถามคือศึกรอบนี้จะจบเมื่อใด?
2.1 ฝ่ายทางทหารนั้นจับทางได้ว่าต้องการพื้นที่ตามมาตราส่วน1ต่อ50,000กลับมา และทำลายศักยภาพทางทหารของเขมรไม่ให้เป็นภัยคุกคามอีก
2.2 ทางโหรนั้นคำตอบคือน่าจะสิ้นสุดเมื่อดาวสองดวงนี้หยุดตรึงกันคือ ประมาณ15มกราคม 2569เป็นต้นไป (พระอังคารจร3ย้ายจากราศีธนูเข้าไปเดินในราศีมังกร) แต่อาจเกิดก่อน-หลังได้เล็กน้อยเช่นสามวันหรือเจ็ดวัน
3. แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น จะมีลีลาของการพัฒนาการที่จะนำไปสู่การคลี่คลายเป็นระยะๆคือ
3.1 เริ่มจาก 23 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไปมีปรากฎการณ์ใหญ่ทางโหรที่บ่งบอกการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่จะส่งผลถึงทั้งเมืองรัตนโกสินทร์ และคนทุกลัคนาราศีคือพฤหัสบดีจร(5)หัวหน้าเทวดาประจำเมืองจะเดินถอยหลังจากราศีกรกฎกลับเข้าเดินในราศีเมถุน และจะอยู่ที่นี่ถึง 31 พฤษภาคม 2569
3.2 พฤหัสบดีจร5ที่ราศีเมถุนนี้ จะเสริมความเข้มแข็งให้เมือง(โยคหน้าลัคนาเมือง) แม้จะเดินผิดปกติแต่ยังส่งผลบวก
3.3 ลัคนาเมืองเข้มแข็งด้วยอะไร ก็ด้วยบุญเก่าที่ทำมาดีแล้วจนทำให้คนยำเกรง และมีลาภ ตามโฉลก…ถึงบุญเพรง คนยำเกรงให้ลาภา…ซึ่งเป็นไปได้ว่าผลจากการรบของกองทัพไทยที่ได้ทำแล้วคงจะทำให้เป็นที่ยำเกรง ไม่เสียเปรียบ
3.4 พฤหัสบดีจร(5)ที่ราศีเมถุนนี้ มาตรฐานไม่เด่น-อาภัพ(ปรเกษตร)จึงเป็นช่วงที่เมืองอาจจะใช้มาตรการแบบไม้อ่อน กับเพื่อนบ้าน(พฤหัสบดีจร 5 -เดินในราศีเมถุน-ภพที่สาม-สหัสชะ)
3.5 แต่พฤหัสบดีจร(5)ที่ราศีเมถุนนี้อีกมาตรฐานหนึ่งก็เป็นบุญเก่าของเมือง(อุจจาวิลาส) ให้คุณตามโฉลก…ผลบุญเก่าส่งให้เห็นเป็นสง่า มีอำนาจราชศักดิ์ดุจราชา ไม่ต้องซื้อไม่ต้องหาก็มาเอง…
3.6 เมื่อรวมทั้ง3.3และ3.5เข้าด้วยกันแล้ว บุญเก่าของเมืองจะมากกว่าปกติ
3.7 สรุปจากปรากฎการณ์บุญเก่าเมืองนี้จะมาเสริมให้เมืองเข้มแข็งและหว่าง23ธันวาคม 2568และยาวไปถึง31พฤษภาคม 2569
4. เมื่อบุญเก่าเมืองนำมาเช่นนี้ เชื่อว่าช่วงที่จะแทรกมีการเจรจา หรือการทูตจะมีบทบาทเริ่มตั้งแต่ 2-20มกราคม 2569(พระพุธศรีจร 4ย้ายเดินในราศีธนู) เพราะตามหลักการแล้วทุกสงครามหรือศึกจะจบด้วยการเจรจา
5. คำถามคือเมื่อศึกนี้จบลงแล้วที่กำหนดจุดคือประมาณ15มกราคม 2569 สถานะเมืองหลังจากนั้นจะเป็นเช่นไร?
คำตอบคือต้องดูลีลาการเดินของพระอังคารจร(3)ดาวประจำชีพเมือง และดาวตัวแทนทหาร ลัทธิทหาร สงคราม นักรบที่เริ่มย้ายจากธนูเข้าเดินในมังกรระหว่างตั้งแต่15มกราคม2569เป็นต้นไปว่าสถานะเป็นอย่างไร?
5.1 พระอังคารจร(3)เดินในราศีมังกร ได้มาตราฐานสูงลิ่ว โดดเด่น เจิดจ้า(อุจ)
5.2 พระอังคารจร(3)เดินในราศีมังกรภพที่สิบ-กัมมะ-ของเมืองที่ลัคนาสถิตราศีเมษ ถือว่าให้คุณกับเจ้าชะตาคือจะโดดเด่นเพียงแต่ต้องระวังความร้อนหรือฟืนไฟตามโฉลก….ให้เพริศพราย ได้สบายให้เกรงไฟ…
5.3 เมืองลัคนาสถิตราศีเมษ พระอังคารจร(3)เดินในราศีมังกร ภพที่สิบ-กัมมะทางโหรถือว่าเป็นระยะที่เมืองได้เกณฑ์สำคัญที่เรียกว่าปัศวเกณฑ์ หากเป็นคนเป็นระยะที่จะได้ยศนั้นถึงพระยา คือเป็นใหญ่เป็นโตมียศศักดิ์ เป็นที่เคารพนับถือยำเกรง
สรุปคือเมื่อหากจบศึกที่จะเริ่มระหว่าง 15 มกราคม - 23 กุมภาพันธ์ 2569 ชะตาเมืองและทหาร หรือนักรบของเมืองจะเข้มแข็ง โดดเด่น โด่งดัง
จึงถึงจะเดือดร้อนบาดเจ็บล้มตาย อพยพ พลัดที่นาคาที่อยู่แต่เมืองจะไม่แพ้ และโด่งดัง เพียงแต่กองทัพต้องไม่ประมาทต้องปฏิวัติ หรือเปลี่ยนแปลงใหญ่ต่อไป เนื่องด้วยดาวการปฏิวัติใหญ่เอื้อแต่การทำกองทัพให้ล้ำสมัย ในระดับยืนอยู่ข้างกำแพงพระนครกรกฎาคม 2572เราจะถามตัวเองว่ากองกำลังของชาติไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร(มฤตยูจร 0 ทับ ๓ ดาวประจำชีพเมือง+กองกำลังของชาติ)
หากทำได้ดีกองกำลังของชาติจะพาเมืองรอด หากไม่จะพาเมืองล้มลุกคลุกคลาน
สำคัญคือปี2569 เกณฑ์อุบัติเหตุใหญ่ยังรออยู่ถึงสี่รอบ ไม่แน่ว่าในจำนวนนั้นจะมีเรื่องกับเขมรอีกหรือไม่?
ฟองสนาน จามรจันทร์
19 ธันวาคม 2568
ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์กับดาวจรสำคัญที่บ่งบอกลีลาความเป็นไปจะเป็นไปในศึกไทยรบเขมร
มฤตยูจร(0) -เดินในพฤษภ(มีเดินผิดปกติ)
พฤหัสบดีจร(5)-เดินถอยหลังจากราศีกรกฎกลับเข้าราศีเมถุนเริ่มวันที่23ธันวาคม 2568
-วกกลับเดินหน้าในราศีเมถุนวันที่21มีนาคม 2569
-เดินหน้าในราศีเมถุน21มีนาคม-31พฤษภาคม 2569
พระอังคารจร(3)-เริ่มเดินในราศีธนูตั้งแต่7ธันวาคม 2568
-เริ่มย้ายจากธนูเข้าเดินในมังกรระหว่าง15มกราคม-23กุมภาพันธ์ 2569
พระศุกร์กาลกิณีจร(6)-เดินในราศีธนูระหว่าง1-14มกราคม 2569
พระพุธศรีจร(4)-ย้ายเดินในราศีธนูตั้งแต่ 2-20มกราคม 2569
ดูดวงชะตาโปรดติดต่อ0814002533หรือ
ไลน์ไอดี @194xmjbo






