ไหนใครว่า"ปฏิวัติ"เสียของ!!! "บิ๊กตู่"ถกชื่นมื่น"แจ๊ค หม่า"ร่วมมือหนุน SMEs สู่ระบบ e-commerce อาลีบาบากรุ๊ป ขณะสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯก็ฟื้นสดใส

    ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ACD ครั้งที่ 2   แม้ว่านักการเมืองในระบอบทักษิณจะพยายามปรามาสการทำงานของรัฐบาลคสช.อย่างต่อเนื่อง ("วัฒนา" โพสต์ประโคมคสช.ยึดอำนาจเสียของ ไม่เบิ่งตามองความจริงคนไทยพอใจ "รัฐบาลบิ๊กตู่" ขนาดไหน??  http://deeps.tnews.co.th/contents/207868/ )    

      เพราะนอกจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี  และหัวหน้าคสช.   จะได้มีโอกาสต้อนรับ นายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการและนับเป็นการเยือนประเทศไทยของผู้นำระดับสูงที่สุดครั้งแรกของฝ่ายอิหร่านแล้ว

 

 

     ในการนี้  พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้พบปะหารือสามฝ่ายร่วมกับเจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน และรวมถึง  นาย อเดล อัล-จูเบอีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีซาอุดิอาระเบีย ได้ทรงมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย เดินทางมาเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 2  เพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย  ภายหลังจากทั้ง 2   ประเทศห่างเหินด้านความสัมพันธ์มายาวนาน สืบเนื่องจากกรณีคดีฉาวขโมยเพชรซาอุฯ 

 

 

 

     และอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่จะมองข้ามไม่ได้ ก็คือ  การพบปะกันระหว่าง  พล.อ.ประยุทธ์ และ  นายหม่า หยุน (Mr. Jack Ma) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด   ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลายประเด็น   อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม  SMEs    และ electronic World Trade Platform (eWTP) ระหว่างผู้ประกอบการไทยและกลุ่มบริษัทอาลีบาบา ทั้งการแบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เป็นประโยชน์เพื่อส่งเสริม SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย

 

     อันจะแนวทางนำไปสู่ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน และจะช่วยให้ SMEs ไทย มีโอกาสในการจำหน่ายสินค้าและบริการในตลาดที่กว้างขึ้น พร้อมทั้งประเด็นความร่วมมือโดยเฉพาะการส่งเสริมโอกาสของ SMEs ไทยในการเข้าสู่ระบบ e-commerce ของอาลีบาบาอย่างครบวงจร การขยายช่องทางการตลาดของ OTOP รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานไทยในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวกับ e-commerce การพัฒนาระบบการชำระเงินออนไลน์ การพัฒนาระบบมาตรฐานสินค้าไทย  

    ยิ่งยวดที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับ  นายหม่า หยุน  หรือ แจ็ค หม่า ถึงความเป็นได้สำหรับกลุ่มอาลีบาบาที่จะจัดตั้ง “Global Trading Center” ในประเทศไทย    เพื่อเป็นตัวอย่างของความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน   โดยฝ่ายอาลีบาบาได้ประโยชน์ในการกระจายสินค้าที่จำหน่ายผ่านระบบ e-commerce ทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาค   ในขณะที่ก็เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยมีตลาดรองรับสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย

 

    นอกจากนี้ การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายด้าน e-commerce และเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน  เพราะนายหม่า หยุน เสนอจะให้โอกาสแก่เยาวชนไทยในการเข้าไปร่วมงานกับอาลีบาบา กรุ๊ป เป็นเวลา 2 ปี เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ และฝึกอบรมการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล  ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือเพื่อผลิตบุคลากรในด้านต่างๆ อย่างเพียงพอและมีคุณภาพต่อไป