- 21 ม.ค. 2560
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : www.tnews.co.th
กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตสำหรับภาพลักษณ์ของบมจ.การบินไทยและประเทศไทย สำหรับกรณีผู้บริหารบริษัท โรลส์รอยซ์ ออกมายอมรับต่อสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษ ว่าได้จ่ายสินบนในหลายประเทศที่ทำการซื้อขายเครื่องยนต์ของโรลส์รอยซ์ รวมถึงประเทศไทย ระหว่างปี 2534-2548
ผลพวงตามมาก็คือการที่ผู้บริหารบมจ.การบินไทยต้องออกมายืนยันจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผ่านหนังสื่อที่ส่งกับสื่อมวลชนทุกแขนงตามข้อวามว่า “ กรณีที่ บริษัท โรลส์รอยซ์ ยอมรับต่อสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษ (Serious Fraud Office: SFO) ว่าได้มีการจ่ายสินบนในหลายประเทศที่ได้ทำการซื้อขายเครื่องยนต์ของโรลส์รอยซ์รวมถึงประเทศไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2534 –2548 นั้น
การบินไทยขอยืนยันว่า การบินไทยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส โดยไม่มีข้อยกเว้นต่อการทุจริตในทุกรูปแบบ ดังนั้น การบินไทยจะเร่งขอข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อนำมาตรวจสอบโดยละเอียด เมื่อได้รับข้อเท็จจริง การบินไทยจะพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสมในการจัดการเรื่องทุจริตครั้งนี้โดยเร็ว เพื่อจะดำรงเจตนารมณ์ของการบินไทยในด้านความโปร่งใสไว้ตลอดไป”
ชัดเจนว่าเรื่องนี้เมื่อเป็นประเด็นข่าวแล้วทุกฝ่ายไม่นิ่งนอนใจในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง และต้องเน้นย้ำว่ากรณีนี้ไม่ใช่เหตุเฉพาะที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย แต่เป็นกรณีฉาวที่เกิดขึ้นใน 12 ประเทศทั่วโลก
และสำคัญที่สุดไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลคสช. แต่หนีไม่พ้นต้องมีคนไปถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.อย่างแน่นนอน
ทั้งนี้รายละเอียดที่ปรากฏและมีการตรวจสอบเบื้องต้นก็คือ เหตุการณ์ฉาวที่ถูกระบุว่าเป็นการรับสินบนเพื่อจัดซื้อเครื่องยนต์ระหว่างบมจ.การบินไทย และ บริษัทโรลส์-รอยซ์ เกิดขึ้นใน 3 ช่วงเวลา และกับเครื่องยนต์รุ่น T- 800 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่มีการนำใช้สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777
โดยครั้งแรกมีอ้างข้อมูลจากสื่อต่างประเทศ ระบุว่าเป็นกรณีเกิดขึ้นในระหว่างการจัดซื้อ ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. 2534-30 มิ.ย. 2535 ซึ่ง โรลส์-รอยซ์ จ่ายค่านายหน้าคนกลางให้หน่วยงานหนึ่งเป็นเงิน 18.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 663 ล้านบาท และเงินดังกล่าวมีการนำไปให้กับเจ้าหน้าที่รัฐและพนักงานของการบินไทย เพื่อช่วยให้โรลส์-รอยซ์ ชนะการเสนอขายดังกล่าว
ขณะที่จากการตรวจสอบกับรายงานประจำปีของบมจ.การบินไทย พบว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าว บมจ.การบินไทย มี นายบัณฑิต บุณยะปานะ ปลัดกระทรวงการคลัง (ในขณะนั้น) ทำหน้าที่เป็นประธานบอร์ด (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) และมีนายฉัตรชัย บุญญะอนันต์ ดำรงตำแหน่งเป็นดีดีการบินไทย
ส่วนข้อมูลที่สองมีการอ้างอิงว่าเป็นกรณีเกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2535-31 มี.ค.2540 โดยทางผู้บริหารโรลส์-รอยซ์ ได้จ่ายเงิน 10.38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 336 ล้านบาท ให้นายหน้าคนกลาง ซึ่งนำเงินดังกล่าวบางส่วนไปให้พนักงานการบินไทย
และครั้งที่สามเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 2547-28ก.พ. 2548 โดยเป็นการอ้างอิงว่า บริษัทโรลส์-รอยซ์ ได้จ่ายเงินให้กับคนกลาง 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 254 ล้านบาท โดยมีเงินบางส่วนตกไปสู่เจ้าหน้าที่รัฐและพนักงานของการบินไทย
จากคำถามที่ว่า การติดสินบนของบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์กับผู้บริหารการบินไทยในขณะนั้น จะสามารถดำเนินการได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงต้องมีการติดสินบนดังกล่าวนี้ด้วย
เมื่อตรวจสอบข้อมูล จากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระบุว่า ณ ปัจจุบันนี้ บริษัท มีเครื่องบินที่บินประจำการอยู่ทั้งสิ้น จำนวน 75 ลำซึ่งจะมีเครื่องบินที่ทางการบินไทยจัดซื้ออยู่ 2 บริษัท คือ แอร์บัส Airbus 25 ลำ และโบอิ้ง Boeing 50 ลำ โดยมีรายละเอียดดังนี้
Airbus A330 แบบ A33 2 ลำ แบบ A330 8 ลำ และ แบบ A33H 7 ลำ
Airbus A380 แบบ A380-841 6 ลำ
Boeing B737 แบบ B 737-400 2 ลำ
Boeing B747 - 400 แบบ B 747R 4 ลำ แบบ B74N 6 ลำ
Boeing B777-300 แบบ B 773 6 ลำ
Boeing B777-300 ER แบบ B 77B 8 ลำ แบบ B 77W 6 ลำ
Boeing B777-200 แบบ B772 8 ลำ
Boeing B777-200ER แบบ B77E 6 ลำ
Boeing B787-8 แบบ B787-8 6 ลำ
Airbus A350-900(XWB) แบบ A350-941 2 ลำ
รวมทั้งหมด 75 ลำ
นอกจากนี้แหล่งข่าวคนดังกล่าว ยังได้แจ้งกับเราเพิ่มเติมว่า ในเครื่องบินทั้ง 2 ยี่ห้อ ก็จะสามารถใช้เครื่องยนต์ที่มีการกำหนดมาตรฐานในแต่ละรุ่นที่แตกต่างกันไป
และทางการบินไทย ได้จัดซื้อเครื่องยนต์ที่นำมาใช้ในเครื่องบินทั้งหมดอยู่ 3 บริษัท คือ
1.บริษัท แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ โกลบอล เซอร์วิส พาร์ทเนอร์ส (Pratt & Whitney Global
2.บริษัท โรลส์-รอยซ์ จำกัด
3.บริษัท เจนเนอรัล อิเล็กทริก (General Electric) จำกัดหรือ จีอี
เมื่อผู้ผลิตเครื่องยนต์ ของเครื่องบินทั้ง 3 บริษัท มีการแข่งขันกันสูงเพราะนอกจากจะขายเครื่องยนต์แล้ว การบำรุงรักษา ขายอะไหล่ ก็ถือว่าเป็นการผูกรายได้กันระยะยาว ตลอดจนจะเลิกใช้จนนำมาสู่การวิ่งเต้นเพื่อติดสินบน ให้การบินไทย เลือกใช้เครื่องยนต์ของบริษัท ของตัวเอง
ไม่ว่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจ่ายสินบน ให้ นายหน้า พนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ ของประเทศไทย จาก บริษัท โรลส์-รอยซ์ จำกัด ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเครื่องยนต์ของโลกสัญชาติอังกฤษ เพื่อแลกเปลี่ยนให้ความช่วยเหลือในการทำสัญญาจัดซื้อเครื่องยนต์ Trent 800 กับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ในช่วงปี 2534-2548 รวมจำนวน 3 ครั้ง วงเงินกว่า 1,200 ล้านบาท จะมีใครที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบและดำเนินคดีบ้าง?
บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 พบว่า ได้มีการรับมอบเครื่องยนต์ Trent 800 จำนวน 49 เครื่องยนต์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. เครื่องยนต์ที่ติดมากับการจัดซื้อเครื่องบินจำนวน 36 เครื่อง ได้แก่
- เครื่องบิน B77-200 จำนวน 6 ลำๆละ 2 เครื่องยนต์ รวม 12
เครื่องยนต์
- เครื่องบิน B77-200 ER จำนวน 6 ลำๆ ละ2 เครื่องยนต์ รวมจำนวน 12 เครื่องยนต์
-เครื่องบิน B77-300 จำนวน 6 ลำๆ ละ 2 เครื่องยนต์ รวม 12 เครื่องยนต์
รวมจำนวนเครื่องยนต์ 36 เครื่องยนต์ จำนวนเงินที่จัดซื้อเครื่องบิน 18 ลำ คิดเป็นมูลค่า 75,422,056,913 บาท (ไม่สามารถแยกราคาเครื่องยนต์ออกจาตัวเครื่องบินได้)
2. จัดซื้อเครื่องยนต์เพื่อเป็นอะไหล่สำรอง จำนวน 13 เครื่องยนต์ คิดเป็นเงินรวม 3,347,739,663 บาท หากนับรวมการจัดซื้อทั้ง 2 รายการ จะอยู่ที่ตัวเลข 78,773,796,576 บาท
การบินไทยเริ่มทำการบินเครื่องบินแบบคาราแวล 3 (Caravelle III) ในปี 2507 ซึ่งใช้เครื่องยนต์แบบเอวอน (Avon) ของโรลส์-รอยซ์นับเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ยาวนานมาจนถึง 50 ปีแล้วโดยการบินไทยได้เลือกใช้เครื่องยนต์เทรนท์ของโรลส์-รอยซ์ในเครื่องบินประเภทต่างๆ
ทั้งนี้ ปัจจุบัน การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ใช้เครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์ ทั้งหมด 47 ลำ
ประกอบด้วย A330-300 จำนวน 15 ลำ
เครื่อง A380-800 จำนวน 6 ลำ
เครื่อง Boeing 777-200 จำนวน 8 ลำ
เครื่อง Boeing 777-200ER จำนวน 6 ลำ
เครื่อง Boeing 777-300 จำนวน 6 ลำ
และ Boeing787-8 จำนวน 6 ลำ
โดยมีรายละเอียดดังนี้
- เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ใช้เครื่องยนต์เทรนท์ 800 ซึ่งในปีพ.ศ. 2539 เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ลำแรกของสายการบินไทยเป็นลำแรกที่โรลสรอยส์ส่งมอบให้ลูกค้า
-เครื่องบินแอร์บัสเอ330-300 ใช่เครื่องยนต์เทรนท์ 700
-เครื่องบินแอร์บัสเอ380 ใช้เครื่องยนต์เทรนท์ 900
-เครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ใช้เครื่องยนต์เทรนท์ 1000
-และการบินไทยยังได้เลือกเครื่องยนต์เทรนท์เอ๊กซ์ดับเบิลยูบีสำหรับติดตั้งบนเครื่องบินแบบแอร์บัสเอ 350 ที่อยู่ระหว่างการผลิต ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบภายในกลางปี 2559 ที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเครื่องยนต์Trent 800 ที่ การบินไทยจัดซื้อมา ก่อนเกิดกรณีสินบน บริษัท โรลส์-รอยซ์ จำกัด วงเงินกว่า 1,200 บาท
ต้นทุนหมื่นล้านต่อปี ที่การบินไทยต้องจ่ายให้กับการมีเครื่องบินถึง 10 แบบ 3 ยี่ห้อเครื่องยนต์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฝึกนักบินและลูกเรือ ตลอดจนการบำรุงรักษาเครื่องบินที่มีอยู่มากมาย เพราะนี่คือผลพวงจากปัญหาคอรัปชั่น ที่เป็นแผลเรื้อรังที่อาจทำให้การบินไทยต้องเจ๊งได้ง่ายๆ
การซื้อ “เครื่องบิน” คือผลประโยชน์ก้อนโตที่สุดของผู้ที่มีช่องทางในการบินไทย เพราะซื้อเครื่องบินครั้งหนึ่งมูลค่าสูงลิ่วเป็นหลักหมื่นถึงแสนล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล รัฐมนตรี ประธานบอร์ด และระดับบริหารในการบินไทย ต้องมีแผนซื้อเครื่องบินทุกครั้ง
เรียบเรียงโดย : ;วัสดา สำนักข่าวทีนิวส์



