เผยเบื้องลึก!!! เหตุขัง"ไผ่ ดาวดิน" ต่อ-จนแม่เครียดวิ่งหัวชนกำแพง เพราะพบหลักฐานใหม่ เป็นซีดีภาพการเคลื่อนไหว-ต้องรอพิสูจน์ก่อน

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

เผยเบื้องลึก!!! เหตุฝากขัง "ไผ่ ดาวดิน" นักประชาธิปไตยวัยละอ่อนต่อเป็นผัดที่ 6 จนแม่เครียดประท้วงด้วยการวิ่งหัวชนกำแพง เพราะตำรวจอ้างพบหลักฐานใหม่ เป็นซีดีภาพเคลื่อนไหว-ต้องรอพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานกลางก่อน


วันนี้ (1 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีการนัดไต่สวนคำร้องขอฝากขังผัดที่ 6 "นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา" หรือ "ไผ่ ดาวดิน" นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นักประชาธิปไตยวัยละอ่อนที่การเคลื่อนไหวมักเข้าทางฝ่าย "เสื้อแดง"  และเป็นผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการแชร์ข่าวเว็บไซต์บีบีซีไทยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งถูกคุมขังในทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นมาแล้ว 41 วัน

 

โดย นายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า การพิจารณาคดีมีเพื่อนนักกิจกรรมและประชาชนทั่วไปมารอเข้าร่วมรับฟังการพิจารณากว่า 80 คน แต่ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาลับ


อย่างไรก็ดี ขณะที่ทนายความผู้ต้องหาขอพบกับหัวหน้าศาลจังหวัดขอนแก่นเพื่อเจรจา ปรากฏว่า "นางพริ้ม บุญภัทรรักษา" มารดาของนายจตุภัทร์ ได้ลุกขึ้นแถลงขอความเป็นธรรม และได้วิ่งชนกำแพงห้องพิจารณาเพื่อขอความเป็นธรรม และมีอาการร้องไห้โศกเศร้าเสียใจ ทำให้ประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น

 

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวด้วยว่า ก่อนหน้าที่จะมีการพิจารณาคำร้องขอฝากขังวันนี้ พ.ต.ท.จิรัฐเกียรติ สอนวิเศษ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังนายจตุภัทร์ระหว่างสอบสวนต่อไปอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2-13 ก.พ.นี้ ซึ่งนับเป็นการขอฝากขังครั้งที่ 6 ในคดีดังกล่าว ซึ่งเป็นการขอฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ วีดิโอ คอนเฟนเรนท์ โดยรายงานระบุว่าเหตุผลการขอฝากขังว่ามีหลักฐานสำคัญใหม่ เป็นแผ่นซีดีภาพเคลื่อนไหว จึงต้องส่งวัตถุพยานไปตรวจพิสูจน์ยังกองพิสูจน์หลักฐานกลางและอยู่ระหว่างการเสนอสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาและมีความเห็นทางคดี ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคดีหมิ่นเบื้องสูงของ บช.ภ.4


กระทั่งล่าสุด ศาลได้สั่งฝากขัง นายจตุภัทร์ ต่อไปเป็นผัดที่ 6 เป็นระยะเวลา 10 วัน เพื่อรอให้พนักงานส่งสำนวนสอบสวน พร้อมความเห็นมายังอัยการจังหวัดขอนแก่นต่อไป

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews